ความเห็นของ อ.แหววต่อการถอดบทเรียนของบุญในการพานักเรียนไปยื่นคำขอตามมาตรา ๒๓
โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร
เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒
http://archanwell.spaces.live.com/blog/cns!706316D9B6E66926!9241.entry
http://gotoknow.org/blog/archanwell-and-maeai-study/273814
----------------------------------------------------------
อ.แหววอ่านบันทึกของบุญแล้วค่ะ แนะนำให้ท่านอื่นๆ โดยเฉพาะ อ.เอ๋ อ.เพชร และคุณกานต์ รวมถึง อ.มิว ต้องอ่านอย่างตั้งใจ
อยากบอกบุญว่า เราคงยอมให้อำเภอทำตามใจชอบไม่ได้ เพราะถ้ายอม ก็คงไม่ต้องสอนกฎหมายกันแล้วล่ะ ปิดคลินิกกันได้เลยล่ะ
เราทุกคนคงจะต้องปฏิบัติการตาม “ข้อตกลง” ที่เรามีระหว่างกัน ก็เห็นใจบุญที่ต้องอดทนในพื้นที่ ความทุกข์ของชาวบ้านมันเหมือนไฟที่ลนบุญอยู่ แต่ก็ต้องคิดเสมอว่า จะต้องหลีกเลี่ยงการดำเนินการใดๆ ที่อาจกระทบแผนการใหญ่
ที่บุญว่า “บุญมีความกังวลใจอยากถ่ายทอดความรู้สึก ฟังดูกระแสแล้วบุญไม่ฟังใครหรือเปล่า และทำเกินหน้าที่หรือเปล่า” ก็เป็นการถอดบทเรียนที่ดี เราต้องกล้าถามตัวเราเอง ซึ่งตรงนี้ อ.แหววก็เตือนให้มีการคุยกันถึงบทบาทการทำงานระหว่างคนแถวสอง คนแถวสาม และคนแถวสี่ ซึ่งตอนนี้ อ.มิวคงทราบแล้วว่า เราอาจช้าไปที่จะรับผิดชอบร่วมกับพี่บุญ
การทำงานเหมือนการขับรถ เร็วไป ก็อาจจะไม่ดี อาจชน อาจตกถนน ช้าไป ก็ไม่ดี อาจไม่ทันการ ต้องกำพวงมาลัยแน่นๆ แตะเบรคหรือคันเร่งตามสถานการณ์ อย่าไปคิดแบบส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องบุญผิดพลาด แต่เป็นเรื่องส่วนงาน ระบบงานมันตอบปัญหาชาวบ้านไม่ทัน แต่ละคน บุญหรือ อ.แหวว หรือ หอม หรือ ฯลฯ ก็ต้องจัดการสถานการณ์ตามความจำเป็น อย่าง อ.แหวว แม้จะนึกเรื่องการประสานงานเชิงราบ หากมีคนมาทำผิดกฎหมายตรงหน้า ก็ต้องออกไปฟันคอให้ขาดดังที่เป็นอยู่ ไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้น ทีมใหญ่ก็ต้องตามมาช่วยเราให้ทัน เรื่องนี้มิใช่เรื่องส่วนตัวค่ะบุญ
การทำงานแบบทีมจะยาก แต่ประสบผลสำเร็จสูงค่ะ อย่างที่เราเป็นอยู่
การส่งสัญญานของบุญในครั้งนี้มีส่วนดี ก็คือ การทำให้ระบบการทำงานที่ยังช้าอยู่ จะเป็นไปได้เร็วขึ้น
เตรียมตั้งโต๊ะคุยกับกับทีมแถวสามที่จะไปคุยด้วยแล้วไหมนะ
ไม่มีความเห็น