เพื่อถวายบุญ - กุศลในวันอาสาฬสบูชา ดิฉันขอเขียนเรื่อง การไปวิปัสนากรรมฐานที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 24- 26 มิถุนายน 2552นะคะ
การเข้าวัดครั้งนี้เป็น 1 ใน หลักสูตรของนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับกลาง กำหนดไว้ 3 วัน โดยกำหนดวัตถุประสงค์คือ.. เพื่อพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมให้นักบริหาร...
เมื่อแรกเข้าไปถึง อาคารที่พัก(อาคารรับรองอาคันตุกะ) เวลาประมาณ 11.00 น. สิ่งที่เราทุกคนต้องเข้าไปกราบคือ รูปถ่ายขนาดใหญ่ของหลวงพ่อปัญญา ผู้ผลักดันให้เกิดมหาวิทยาลัยทางศาสนาแห่งนี้ ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินเข้าห้องพัก พวกเราทุกคนตื่นเต้นมาก..เพราะหรูหรากว่าที่คาด..ห้องพักของดิฉันนอน มี 2 เตียง แอร์คอนดิชั่น ทีวีจอแบนขนาด 25 นิ้ว ในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าเช็ดตัวทั้งผืนใหญ่ ผืนเล็ก พร้อมสบู่ แชมพูสระผม (ขาดไดร์เป่าผม) มีกาน้ำร้อนพร้อมกับเครื่องดื่มในซองหลายชนิด..ฟรีทุกอย่าง...โอ้โห.. ยิ่งกว่าโรงแรมที่พวกเราพักหลายแห่งเลยที่เดียว(ไม่อยากจะบอกว่า พวกเราเตรียมสัมภาระมาพร้อมอย่างกับจะไปเข้าป่า ไม่ได้ใช้เลย) แถมมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบริการทั้งบนห้องและล้อบบี้..
ภายหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว เราทุกคนก็พร้อมกันที่อาคารใหญ่ด้านข้างที่พัก มี 4 ชั้น โดยอาคารนี้กำหนดสัดส่วนชัดเจน ชั้นที่ 1 หรือชั้นล่างเป็นส่วนตั้งโต๊ะอาหาร ของฆราวาส ทั้งหมด
ชั้นที่ 2 เป็นที่ฉันอาหารของสงฆ์ ชั้นที่ 3 เป็นลานโล่ง พระอาจารย์บอกว่าใช้เป็นที่พักสำหรับฆราวาส ที่เข้ามาปฏิบัติธรรม ( ที่พักส่วนนี้บริการฟรี) และชั้นที่ 4 เป็นส่วนที่พวกเราขึ้นมาปฏิบัติธรรม
พระอาจารย์ที่ดูแลกลุ่มของเรา จำนวน 100 คน นี้คือ พระมหาเมธา จน.ทสาโร ท่านมีตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิปัสนาธุระ ดุเอาเรื่องเชียวหละ...คงรู้ว่าพวกที่มากลุ่มนี้ หัวดื้อ..ไม่ธรรมดา...
ท่านแจกคู่มือ สมาธิภาวนา สวดมนต์แปล ให้พวกเราได้อ่าน พาสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา ฝึกให้นั่งกรรมฐานให้ถูกวิธี เดินจงกลมอย่างถูกต้อง กำหนดลมหายใจ และมีสมาธิ
ภาพนี้ตัวดิฉันเอง(โชว์ด้วยภาพ)
ท่านบอกว่า การวิปัสนากรรมฐาน คือการทำบุญที่ยิ่งใหญ่
1 บัลลังก์ (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรืไม่) ประกอบด้วย การนั่งสมาธิเป็นเวลา 20-30 นาที แล้วเปลี่ยนเป็นเดินจงกลม อีก 20-30 นาที ตลอดเวลาที่ทำห้ามลืมตา... ถ้าลืมตาถือว่า บัลลังก์ขาด...
วันแรก เราต้องทำการปฏิบัติธรรม2 ช่วง คือ 13.00 -16.00 น. และ 18.30-21.00 น.
วันที่ 2 ทำเพิ่มอีก 4 ช่วง คือ 04.30 -07.00 น. 08.00 - 11.00 น. 13.00 -16.00 น. และรอบดึก 18.00-21.30 น. ( เป็นวันที่ทุกคนเกือบเอาตัวไม่รอด..)
วันที่ 3 ขั้น Advance ถือว่าทุกคนผ่านวันที่ 2 (อันโหดร้าย)มาแล้ว พระอาจารย์กรุณามาก ช่วงเช้ามืดพาเดินจงกลม ไปชมบริเวณรอบมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะที่ศาลากลางน้ำ ของหลวงพ่อปัญญาที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ (บอกอนุโมทนาบุญ หากใครอยากร่วมสร้างให้เสร็จ) ช่วงนี้ตัวดิฉันไม่ได้ไปร่วมด้วยเพราะป่วย
ในช่วงสาย ท่านพระอาจารย์ พาพวกเราไปวิปัสสนา ตามอัธยาศัย ทีห้องเก็บพระไตรปิฏกใต้ฐานอาคารพิพิธภัณฑ์พระไตรปิฏก ท่านบอกว่า ให้ทุกคนเลือกที่นั่ง ตามใจชอบ และนั่งให้ครบบัลลังก์ โดยจะเริ่มจากนั่งวิปัสสนาก่อน หรือจะเดินจงกลมก่อนก็ได้ โดยท่านพระอาจารย์จะเตือนให้เปลี่ยนท่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 20 นาที
ในช่วงบ่าย เป็นการสรุป ประเมินความคิดเห็น แลกเปลี่ยนธรรมะ และฝึกสมาธิอีก 1 บัลลังก์
เสร็จพิธีการ กล่าวลา... เวลา 16.00 น.
In sight " ตัวดิฉันเองเป็นคนไม่ค่อยชอบไปวัด.. เพราะเชื่อมั่นว่าตนเองยึดมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์อยู่แล้ว การไปครั้งนี้เป็นหลักสูตรบังคับ ต้องไป ...
.......เนื่องจากดิฉันประสบอุบัติเหตุตกรถหล่นลงมาหัวฟาดพื้น 4 วันก่อนหน้า ทำให้สภาพร่างกายไม่พร้อมที่จะทำการวิปัสสนาได้ครบถ้วน.. แต่ถึงกระนั้น รสพระธรรม สมาธิที่ได้จากการปฏิบัติ.. ทำให้ดิฉันเกิดพลัง และศรัทธา... และคิดว่าหากได้เข้าวัดก่อนหน้านี้ดิฉันคงไม่ประสบอุบัติเหตุ เพราะสติจะอยู่กับตัวตลอดเวลา"
มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แห่งนี้กำหนดการปฏิบัติธรรมสำหรับพระสงค์และประชาชนทั่วไป ปี 2552 ทั้งหมด 12 ครั้ง นะคะ ผ่านไปแล้ว 9 ครั้ง ยังเหลืออีก 3 ครั้ง ใครสนใจ น่าไปนะคะ..ดีมากเลย
ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2552 ปฏิบัติธรรมสำหรับประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ 11 ระหว่าง วันที่ 8-12 สิงหาคม 2552 ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ครั้งที่ 12 ระหว่าง วันที่ 25-27 กันยายน 2552 ปฏิบัติธรรมสำหรับประชาชนทั่วไป
ส่วนหน่วยงานราชการที่ต้องการเข้าไปเป็นคณะ เหมือนกลุ่ม นบก. ติดต่อท่านพระอาจารย์ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โทร 0-3524-8000 ต่อ 8782 0-3524-8043
พี่อ้อ , นำไปขยายผลถ่ายทอดประสบการณ์วิชาการความรู้ที่ได้รับมาจากการฝึกอบรมนบก.41 โดนใจ , ถูกใจ ,ตรงใจ ,ดีใจมากครับ เพราะเรื่องราวที่ผ่านมาสมควรได้รับการบันทึกเอาไว้และประชาสัมพันธ์เผยแพร่เพื่อเป็นความรู้แก่บุคคลอื่น
กลับมาจากมหาจุฬาลงกรณ์เป็นไข้หวัด ตัวร้อนวัดได้ 39.4 ฉีดยา 1 เข็ม จากการปฏิบัติกรรมฐานวิปัสนาถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากครับ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ทุกท่าน (โดยเฉพาะเจ้าของบล็อค) มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทุกประการนะคะ
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีดีค่ะ ^^
ขอบคุณพี่อ้อมากครับ สำหรับตัวอย่างที่ดีที่ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในหลายเรื่องครับ ขอบคุณครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วย ที่ได้มีโอกาสร่วมกันเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พระมหาเมธา จนฺทสาโร
หัวหน้าฝ่ายวิปัสสนาธุระ