ใคร!.......ทำร้ายประเทศไทย......?


ใครกันนะที่ทำร้ายประเทศไทย

ใคร!.......ทำร้ายประเทศไทย......?

                มีการรณรงค์ทั่วประเทศว่า หยุดทำร้ายประเทศไทย   หยุดทะเลาะกัน  สงบ สันติ”   “เชิดชูสถาบันกษัตริย์
                ผมได้เห็น ได้ฟัง ได้ยินแล้ว รู้สึก งง.....งง... เอ๊ะ
! ให้ใครหยุดทำร้ายประเทศไทย  แล้ว
ใครล่ะที่ทะเลาะกัน   ใครที่
ต้องสงบและใฝ่สันติ   แต่คำว่า
เชิดชูสถาบันกษัตริย์ นั้นไม่สงสัยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด คือคนไทยทุกคนต้องจงรักภักดีต่อ
องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช  และสถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันหลัก เป็นศูนย์รวมน้ำใจ
ความรัก ความสมัครสมานสามัคคีของคนไทย เป็นสถาบันที่คนไทยทุกคนเทิดทูนมาแต่ครั้งบรรพกาล
                ใครล่ะที่ควรหยุดทำร้ายประเทศไทย........ในทัศนะของผมแล้ว คนที่ควรหยุดทำร้ายประเทศไทย ได้แก่กลุ่มบุคคล
ต่อไปนี้

                 1. นักการเมืองที่โกงกิน     ต้องยอมรับว่านักการเมืองที่ดีก็มีถมไป....แต่ปริมาณของนักการเมืองทั้งในระดับชาติ
ระดับจังหวัด และระดับท้องถิ่นที่ลงทุนซื้อเสียง เพื่อไปคอรัปชั่นทุกรูปแบบเพื่อถอนทุนคืน โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติ
ละฉิบหาย ล่มจมอย่างไร...ก็ช่างมัน...ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย...และดูเหมือนจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น...มากขึ้น....ทั้ง ๆ ที่ได้รับ
เงินเดือนจากภาษีของ
ประชาชน....จึงเป็นผู้ที่ควรให้บริการหรือรับใช้ประชาชน....มิใช่ทำตัวเป็นนายของประชาชน......

                  2.  ข้าราชการที่ทุจริต เห็นแก่ตัว     จริงอยู่ครับ ข้าราชการที่ดียังมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองแต่เราลองทบทวนดูสิว่า
ในแต่ละหน่วยงาน...สถานศึกษา...มีข้าราชการที่ซื่อสัตย์...สุจริต....ไม่คอรัปชั่น......ยอมเป็นเบี้ยล่างของนักการเมืองโกง......
คอรัปชั่นเวลาราชการ.....คอรัปชั่นเงินหลวง
.........เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง/ผู้มีอิทธิพล......ครูคอรัปชั่นการสอนลูกศิษย์
โดยการไม่เข้าสอน สอนไม่เต็มที่ กั๊กไว้ไปสอนพิเศษนอกเวลา  หรือสอนแบบไม่เตรียมการสอน....หรือแม้แต่คนที่เป็น
ข้าราชการแต่ปฏิบัติต่อประชาชนผู้มาติดต่อหรือแม้กระทั่งปฏิบัติต่อเพื่อนข้าราชการด้วยกัน  โดยยกตนข่มท่าน ติดอยู่ใน
หัวโขน......โดยลืมไปว่า........เงินเดือนที่ได้รับมาจากภาษีของประชาชน....เพราะฉะนั้นข้าราชการก็เป็นผู้ที่รับใช้
ประชาชน  หรือพูดให้ดีกว่านี้....ข้าราชการคือผู้ให้บริการแก่ประชาชน

                 3.  นักวิชาการจอมปลอม   ถึงแม้ว่านักวิชาการ เป็นกลุ่มปัญญาชนที่เป็นผู้นำทางความคิด  เป็นผู้รู้มากกว่า
คนอื่น ๆ    ทั้งที่อาจจะได้รับการศึกษาน้อย แต่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง  มีประสบการณ์มากจนประสบความสำเร็จ  แต่ก็ยังมี
กลุ่มนักวิชาการ
จอมปลอมที่เรียนสูงจบ ป.ตรี  โท เอก เป็น Dr. จะในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม  บางคนยังเป็นคน
เห็นแก่ตัว   รับใช้นายทุน    สนับสนุนนักการเมืองที่โกงกินประเทศชาติ

                      แนวคิด หลักการ ทฤษฎีส่วนใหญ่ที่นักวิชาการศึกษา อ้างอิงมาจากต่างประเทศ การนำสิ่งที่ดีมาปรับใช้ เป็น
เรื่องที่ดี  แต่หากมาปรับใช้โดยหลงผิดคิดว่าดี  แต่กลับมาทำร้าย
ประเทศชาติก็มีให้เห็นอยู่อย่างมากมาย  เช่น ครั้งหนึ่ง
มีการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศเพื่อมา
เพิ่มผลผลิตด้านการเกษตร  มีการขานรับนโยบายนี้ในระดับประเทศผ่าน
นักวิชาการ ข้าราชการ
และระบบการค้า ระบบทุนทั่วทั้งประเทศ   ผลที่เกิดก็คือ สารเคมีต่าง ๆ ทำลายสุขภาพและชีวิต
ของคนไทย  ทำลายระบบนิเวศของไทยโดยสิ้นเชิง  หากนำสารเคมีฉีดไปในนาข้าว  สารเคมีลงไปในน้ำ  ในน้ำไม่มีปลา
ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดเหลืออยู่  น้ำเป็นพิษ บริโภคไม่ได้  ห่วงโซ่อาหารถูก
ทำลาย  อาหารเหลือลดน้อยลง  เกิดเป็นการบริโภค
อาหารจากฟาร์มแทนจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ  
จนขณะนี้ ต้องเร่งฟื้นฟูสภาพดิน  งดใช้ปุ๋ยเคมี   ยาฆ่าหญ้า  มาใช้ปุ๋ย
ชีวภาพ   ยาฆ่าแมลงปลอดสาร
พิษ   ใช้พืชห่มดิน   ดินฟื้น อุดมสมบูรณ์   ดินฟื้น ป่าเกิด น้ำไหล ธรรมชาติสดใส
พืช-สัตว์-มนุษย์อยู่อย่างปลอดภัย  มีความสุขถ้วนทั่ว

                 4.  ประชาชนผู้เห็นแก่เงินมากกว่าเกียรติยศ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์   หากประชาชนทุกคนมีความเข้มแข็ง 
มีความซื่อสัตย์ สุจริต  ไม่ขายเสียง  รู้เท่าทันนักการเมือง และไม่เลือกนักการเมืองที่ด้อยคุณภาพเข้าไปเป็นผู้แทนของตน
 
ที่สำคัญที่สุดหากประชาชนชาวไทยทุกคน   
น้อมนำทศพิธราชธรรม พระราชดำรัสและแนวพระราชดำริของ
องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ไปปฏิบัติ  
                       แต่ที่ปรากฏนั้น ประชาชนไม่รู้เท่าทันนักการเมือง หรือข้าราชการที่ด้อยคุณภาพ  แม้บางคนบางกลุ่มรู้เท่าทัน
แต่เมื่อเขาให้เงิน ให้ทรัพย์สิน ก็รับไว้ก่อน  รู้สึก
เกรงอกเกรงใจ  เพราะรัฐดูแลประชาชนไม่ทั่วถึง นักการเมืองหรือ
ข้าราชการที่เป็นทาสนักการเมืองก็อาศัยเป็น
ช่องโหว่ในการเข้าไปเติมเต็ม ให้ได้ผลประโยชน์เข้าตนเองหรือกลุ่มตนเอง  
แจกเงิน บริจาคเงิน สิ่งของ   สร้างสาธารณะประโยชน์ และอื่น ๆ ให้เห็นว่าเป็นที่พึ่งพาได้ ยามทุกข์ยากสามารถ
ช่วยแก้
ปัญหาได้ ไม่ว่าปัญหานั้นจะถูกหรือผิด  มีงานศพ งานแต่ง งานบวช กฐิน ผ้าป่า งานขึ้นบ้านใหม่  ไปมาหมด  บุญคุณจึง
ต้องทดแทนด้วยการลงคะแนนเสียงให้  ทั้ง ๆ ที่ ในกลุ่มข้าราชการและ
นักการเมืองเหล่านี้ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง
และพวกพ้อง  หากทำด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่
หวังผลประโยชน์ตอบแทนจะเป็นเรื่องที่น่ายกย่องยิ่ง

                        ในทัศนะของผมแล้ว ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่น่าสงสารมาก   โดยเฉพาะการถูกปิดหู ปิดตา  บิดเบือน

ข้อมูลข่าวสาร หรือให้รู้ความจริงไม่หมด จากสื่อที่ขาดจริยธรรม  เน้นการค้าของระบบทุนมากกว่าการให้ปัญญาแก่
ประชาชนผู้บริโภคทั่วประเทศไทย
  

                         ดูจะเข้าข่ายว่า หากทำให้คนฉลาดจะรู้เท่าทันแล้วจะปกครองยาก  หากทำให้คนโง่จะปกครองง่าย

                   5.  รัฐบาลที่อ่อนแอ   รัฐบาลที่อ่อนแอทางคุณธรรม และจริยธรรม มาจากกลุ่มพรรคการเมืองที่รวมตัวตั้งรัฐบาล
เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง  ปากพูดอย่าง แต่กลับทำอีก
อย่าง  อ้างว่าเพื่อประชาชน   แต่เอาเข้าจริงแล้วก็
รวมหัวกันถอนทุนคืน และหาทุนเพื่อใช้ในการซื้อ
เสียงเลือกตั้งในครั้งต่อไป  เดินหมาก...เกม...ทางการเมือง..ไม่รู้กี่ชั้น
ต่อกี่ชั้นเพื่อเอาชนะกันทางการเมือง.....แต่ความพินาศ ฉิบหาย เกิดกับประเทศของเรา....แล้วใครกันเล่ารับผิดชอบ.....

                         รัฐบาลคือกระจกส่องคุณภาพของคนไทยทั้งประเทศ 

                         รัฐควรกำหนดนโยบายโดยนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มาเป็นตัวตั้งนำทาง   โดยมีเป้าหมายที่สร้างให้คนเข้มแข็ง  เมื่อคนเข้มแข็งครอบครัวก็เข้มแข็ง  เมื่อครอบครัวเข้มแข็ง

ก็จะส่งผลให้หมู่บ้านเข้มแข็ง  เมื่อหมู่บ้านหลาย ๆ หมู่บ้านเข้มแข็งก็ทำให้ตำบลเข้มเข็ง  อำเภอเข้มแข็ง และจังหวัด
เข้มแข็ง  เมื่อจังหวัดเข้มแข็งก็จะทำให้แต่ละภูมิภาคเข้มแข็ง แล้วประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เข้มแข็ง เพราะสามารถ
พึ่งพาตนเองได้ เมื่อพึ่งตนเองได้แล้ว ก็แบ่งปัน แจกจ่ายหรือ
จำหน่ายให้กับบุคคลอื่น บ้านอื่น เมืองอื่นหรือประเทศ
อื่น ๆ  .......อย่าวิ่งตามกระแสสังคมโลก
มากเกินไปนัก......เจ้าของทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ถูกเขียนโดยชาวตะวันตกเป็น
ส่วนใหญ่......แต่เจ้าของทฤษฎีที่เป็นคนไทย และฝรั่งเดินทางมาศึกษา แล้วนำไปปฏิบัติ คือ "เศรษฐกิจพอเพียง"  ซึ่งเป็น
แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา......แล้วเราผองไทย เหตุไฉนจึงยังคงมีคนไม่เห็นความสำคัญ
......จงเป็นตัวตนของเราคนไทยเองเถิด.....อย่าเดินตามฝรั่งมากนัก....จนมองข้ามรากเหง้าภูมิปัญญาของคนไทยเราเอง........

                     6.  สื่อที่ไม่เลือกข้าง   สื่อสารมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์ หนังสือ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ต่าง ๆ 
ส่วนใหญ่มักจะนำเสนอข้อมูลแก่ประชาชนเพียงเกิดอะไรขึ้น ที่ไหน  เมื่อไหร่ 
แต่น้อยสื่อนักที่จะให้ข้อมูลว่าอย่างไร
หรือเหตุเพราะอะไรจึงเกิดเรื่องที่มานำเสนอ บอกข้อดีข้อเสีย    สื่อ
ส่วนใหญ่เมื่อเสนอข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ไหน เมื่อไหร่
แล้วก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้ชม   ซึ่งกรณี
เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย เพราะเกิดกรณีสื่อเสนอความจริงเพียงครึ่งเดียว จึงทำให้
ผู้ชมเข้าใจ-ตีความผิด-
อย่างนี้แหละที่เป็นอีกหนึ่งตัวเสริมที่ทำให้คนไทยเป็นดั่งที่เขาว่าคนโง่ปกครองง่าย” ไช่หรือไม่

                          นิยายน้ำเน่า  ละครน้ำเน่า และเกมโชว์แบบปัญญาอ่อน ให้ความบันเทิงมากกว่าให้ปัญญา  ซึ่งผมเห็นด้วย
ที่ต้องมีนิยาย ละคร หรือเกมโชว์ทางสื่อต่าง ๆ แต่ต้องเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์
ให้ปัญญาและทักษะชีวิตแก่ผู้ชมทุกเพศทุกวัย
เพื่อสร้างให้คนไทยมีความเข้มแข็งทางปัญญา
                     7
. พ่อแม่ที่ไม่รับผิดชอบ   พ่อแม่    คนสองคนตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน จะด้วยความตั้งใจ หรือจำเป็น
ก็ตาม แต่เมื่อมีลูกก็ต้องดูแลรับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยลูกให้อยู่ตามยถากรรม เลี้ยงลูกด้วยเงิน  หรือทิ้งไว้ให้อยู่กับปู่ย่าตายาย
พี่ป้าน้าอา  ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว ประเด็นนี้พูดแล้วคงยาว แต่ให้กลับไปดูในข้อที่ 5
  วรรค 3 เถิดครับ ......คนเข้มแข็ง
ครอบครัวเข้มแข็ง........   

                   8.  โรงเรียนด้อยคุณภาพ   เมื่อเป็นครู ก็คงอดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงโรงเรียน  โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน 
ผู้บริหาร ครู  นักการ-ภารโรง  นักเรียน ผู้ปกครอง  คณะกรรมการสถาน
ศึกษาขั้นพื้นฐาน  เครือข่ายหน่วยงาน สถานศึกษา
องค์กรภาครัฐและเอกชน ต้องร่วมกันบริหาร
จัดการโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง  จัดการศึกษาสอดคล้องกับความต้องการ
ของทุกฝ่าย  ส่งผลให้ได้เด็กที่มีคุณภาพมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คือ เป็นคนดี  เป็นคนเก่ง และอยู่อย่างมีความสุข

                         ขอเน้นความสำคัญของตัวผู้บริหารโรงเรียน  ต้องเป็นผู้นำทางวิชาการ บริหารแบบมีหลักการ และการมี
ส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จัดการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน 
ให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนของชุมชนอย่าง
แท้จริง
  โดยมีเป้าหมายคือผู้เรียน ที่เป็นลูก ๆ ของพวกเราในโรงเรียนเป็นคนดี คนเก่ง มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข  อย่าลืมว่า 
ผู้บริหาร เป็นผู้นำองค์กร  โรงเรียนจะ
อยู่จะไปก็อยู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนเป็นสำคัญ 

                         ส่วนครูและนักการ-ภารโรง ก็มีความสำคัญไม่ต่างจากผู้บริหาร หากมองว่าโรงเรียนเป็นเครื่องจักร ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ  เครื่องจักรจะทำงานได้ก็ต้องมีส่วนประกอบครบและทำงานอย่างสอดรับกัน  หากส่วนหนึ่งส่วนใดชำรุด หรือขาดหายไป เครื่องจักรก็ทำงานได้ไม่เต็มที่หรือหยุดทำงานไปเลยทีเดียว

                          หากโรงเรียนด้อยคุณภาพ ก็เป็นความโชคร้ายของเด็ก  เยาวชน ประชาชนในชุมชน  และประเทศชาติ
ของเราครับ  หากโรงเรียนอ่อนแอ แล้วจะสร้าง
เด็กที่เป็นอนาคตของประเทศชาติให้เข้มแข็งได้อย่างไรเล่า

                          นี่เพียงแค่ประเด็นว่าใครทำร้ายประเทศไทยนะครับ หากทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกันนำพาประเทศชาติของเรา
ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายจากปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าเข้ามา    ให้ผ่านพ้นไปให้จงได้   คนไทยทุกคนต้องเข้มแข็ง  รู้เท่าทัน
สภาวะต่าง ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราจะต้องไม่ถูกใครต่อใครหลอกแบบโง่ ๆ อีก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องบริโภคข้อมูลข่าวสารมากกว่า
1 ช่องทาง หากดูทีวีก็ขอให้ดูทีวีมากกว่า 1 ช่อง รับข้อมูลจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งจากฝ่ายที่ตนเองชอบหรือไม่ชอบก็ตามนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นองค์ความรู้ของเราเอง เมื่อตัวเราเข้มแข็ง ประเทศชาติของเราก็เข้มแข็งครับ
                           คนที่ทำร้ายประเทศไทย ยังมีอีกหลายกลุ่ม พูดในที่นี้คงไม่จบสิ้น  แต่ในกลุ่มคน 8 ข้อดังกล่าวข้างต้นนั้น
ในทัศนะของผมแล้วข้อกลุ่มคนในข้อ 6 ทำร้ายประเทศไทยมากที่สุด เพราะถ้าสื่อเสนอข่าวอย่างมีคุณภาพ เป็นกลาง
การเป็นกลางหมายถึงไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด  
แต่หากเป็นเรื่องถูก-ผิด  สื่อต้องวิเคราะห์พร้อมทั้งชี้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใด
ผิด   คำว่าเป็นกลางของสื่อมาจากตำราของต่างประเทศไม่ใช่หรือครับ  แต่สื่อที่แท้จริงต้องเป็นสื่อที่นำความสว่างทาง
ปัญญามาให้แก่ผู้บริโภค  ต้องนำเสนอข้อเท็จริง ไม่บิดเบือน  กล้าหาญทางจริยธรรม ชี้ถูก-ผิด  ส่วนผู้บริโภคจะเชื่อตาม
หรือไม่ก็อยู่ที่สติปัญญาของ
แต่ละบุคคล  ขอย้ำว่า สื่อต้องเลือกข้าง  คำว่าเลือกข้างคือต้องนำเสนอข้อมูลจนถึงว่าฝ่ายใด
ถูก-ผิดในทัศนะของสื่อ  หากเมืองไทยมีสื่อประเภทนี้เยอะ ๆ แล้ว ปัญหาต่าง ๆ จะลดน้อย หรือไม่มีเลยก็อาจเป็นได้
                            อย่างไรก็ตาม ขอเราแต่ละคนอย่าประพฤติชั่ว และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน ก็จะเป็นวิถีทางที่ประเทศไทย
จะไม่ถูกทำร้ายอีกต่อไปครับ


                          ติดตามประเด็น หยุดทะเลาะกัน  ในโอกาสต่อไปนะครับ

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 274156เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2009 12:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ผู้บริหารโรงเรียน  ต้องเป็นผู้นำทางวิชาการ บริหารแบบมีหลักการ และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จัดการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน  ให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนของชุมชนอย่างแท้จริง  โดยมีเป้าหมายคือผู้เรียน ที่เป็นลูก ๆ ของพวกเราในโรงเรียนเป็นคนดี คนเก่ง มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข  อย่าลืมว่า  ผู้บริหาร เป็นผู้นำองค์กร  โรงเรียนจะอยู่จะไปก็อยู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนเป็นสำคัญ 

  • ขอสนับสนุนแนวคิดค่ะ
  • และอยากเห็นการลงมือทำค่ะ
  • ขอขอบพระคุณค่ะ
  • เป็นบทความที่ดีมาก คิดและ...เขียน ได้เป็นกลาง
  • ขอสนับสนุน และ รออ่านต่อไปค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ

  • เห็นด้วยกับบทความนี้
  • ขอเป็นกำลังให้คนคิดดี ๆ เช่นนี้ 
  • ขอแค่เราคิดดี  แล้วทำดี  ใครไม่ทำก็ช่างมัน
  • ก็ช่วยเหลือสังคมได้แล้ว  แม้เพียงเล็กน้อย
  • แต่อย่าท้อที่จะทำความดี

ถึงกึ๋นดี..อยากให้คนมีปัญหามาอ่าน..อ่านแล้วจะรับไปแก้ไขตัวเองโดยไม่ต้องบอกให้อาย..เพียงละอายใจตัวเอง..ก็คงจะแก้ปมที่มีอยู่ไม่มากก็น้อย..ชีวิตดีขึ้นเมื่อไม่เบียดเนียนตนเองและผู้อื่น..เอวัง..หยุดทำร้ายตัวเอง..หยุดทำร้ายผู้อื่น..(เมื่อเห็นเงิน)เมื่อนั้นจะไม่มีใครทำร้ายประเทศ..เฮ้อ..ขอถอนหายใจ..อิอิ

ขอบคุณมากครับ

เรารักเมืองไทย

และทำให้ลูกหลานเรารักเมืองไทยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท