สวัสดีคะ...
หยุดยาวหลายวัน หลายคนคงได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เมื่อก่อนถ้ามีเวลาหยุดยาวหลายๆวันอย่างนี้ก็จะครั่นเนื้อครั่นตัวเตรียมการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด อย่างน้อยไปใกล้ๆ นอนฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งแถวหาดแหลมแม่พิมพ์ หรือไม่ก็เกาะช้าง แต่คราวนี้เลือกที่จะนอนอยู่บ้านอ่ะ ไม่อยากไปไหนเลยคิดไปคิดมาแล้วนอนอยู่บ้านสบายใจกว่า ไม่เครียดตอนเติมน้ำมัน ไม่เครียดตอนจ่ายค่าอาหาร ไม่เครียดตอนค่าที่พัก และ ฯลฯ
ทำให้มีเวลาได้ดูทีวีทั้งวันเห็นคนไปทำบุญกันแต่เช้าเพราะว่าเป็นวันอาฬาหบูชา และพรุ่งนี้ก็เป็นวันเข้าพรรษา 2 วันสำคัญของชาวพุทธศาสนิกชน ที่หลายคนคงได้ไปทำบุญกันนะคะเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนา....เอ... แต่เมื่อวานดูโพล(ช่องไหนจำไม่ได้)เห็นเค้าบอกว่าไปทำบุญเพื่อความสบายใจกันเป็นส่วนใหญ่นี่นา... เอ...ทำไมเราแค่เข้าบ้านแวะซื้อขนมฝากแม่ก็สบายใจแล้วอ่ะ...
วันอาฬาหบูชานี้เป็นวันที่มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบองค์ 3 คือพระรัตนตรัย เนื่องจากพระพุทธเจ้าแสดงพระปฐมเทศนาให้แก่ปัจจวัคคีทั้ง 5 จนดวงตาเห็นธรรมบังเกิดพระภิกษุรูปแรกในโลก จำได้จากสมัยที่เรียนตอนมัธยมวิชาพระพุทธศาสนาปัจจุบันน่าจะยังสอนอยู่นะ... ก่อนที่พระพุทธเจ้าทรงเสด็จออกเผยแผ่พระธรรมคำสอนเหล่าเวไนยสัตว์ (เวไนยสัตว์ คือ ผู้ที่พอจะแนะนำสั่งสอนได้) ช่วงเวลา 7 วันพระองค์ทรงเสวยวิมุติสุข พระองค์ทรงใคร่ครวญว่าควรเผยแพร่คำสอนเหล่านี้หรือใม่ และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ด้วยความรักและเมตตาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ พระองค์เสด็จออกเพื่อเผยคำสอนในสิ่งที่พระองค์ได้ค้นพบ เพื่อให้มนุษย์ได้พบความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร...ที่ต้องขีดเส้นใต้คือพระพุทธองค์ทำไปด้วยความรักและความมีเมตตาความปรารถนาดี แล้วปัจจุบันนี้เท่าที่มองดูเราเดินตามเส้นทางพระพุทธศาสนาอย่างที่ควรจะเป็นหรือเปล่า แตกต่างจากทุกวันนี้โดยสิ้นเชิง มองไม่เห็นว่าพระสงฆ์และฆาราวาสมีท่าทีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วยความรัก ความเมตตาหรือไม่ เห็นแต่การชี้นิ้ว พิพากษา ถูก ผิด ดี เลว โดยไม่มีบรรทัดฐาน ขาดซึ่งความรัก ความมีเมตตา ความปรารถนาดี มีแต่การตัดสินกล่าวโทษและลงโทษ
ด้วยความรักและเมตตา ถ้าเรามีความรักและเมตตาต่อกันเราคงไม่ตัดสินกันว่าคนนั้นดี คนนั้นเลว พระภิกษุคงไม่เข้าไปร่วมกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ต้องมีผ้าป่าช่วยชาติ ไม่ต้องเห็นพระภิกษุขึ้นเวทีความคิดเห็นที่แตกต่างในเรื่องทางโลก หรือว่านั่นมันก็เป็นกิจของสงฆ์
ที่กล่าวมาแค่อยากจะบอกว่าทุกคนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีด้วยตนเองได้ สามารถ่ที่จะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตรใจที่เป็นรูป วัตถุ หรือสิ่งของ ที่สำคัญใจเรานั่นต้องเป็นพุทธศาสนิกชนที่จริงแท้ไม่ใช่แค่เปลือก
ขอบคุณมากค่ะ
ทุกอย่างมีทั้งถูกและผิดในตัวมันเองตามมุมมองของแต่ละคน
...ธัมมะจารี สุขัง เสติ..ผู้ปฏิบัติธรรมอย่อมอยู่เป็นสุข..
แต่ข้าน้อยแปลว่า..ผู้ที่ทำหน้าที่ของความเป็นคนอย่างถูกต้อง ย่อมประสบความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ..
ตามรู้รู้สิ่งที่มากระทบอย่างนิ่มนวลแล้วจะรู้ว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง..ขอรับ