ถวายเทียนพรรษาที่วัดเมืองก๊ะ


อานิสงส์ของการหล่อเทียนหรือถวายเทียนพรรษาแก่พระภิกษุ ถือกันว่าจะทำให้เป็นผู้มีปัญญาดีเจริญก้าวหน้า เหมือนดังแสงเทียนที่สว่างในยามค่ำคืน ซึ่งพระภิกษุสมัยก่อนใช้เป็นแสงสว่างในการอ่านหนังสือธรรมะและประกอบกิจของสงฆ์

          วันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ภาควิชาอาชีวศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย คณาจารย์ นักศึกษา ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และนักศึกษาเก่าสาขาวิชาอาชีวศึกษา ได้ร่วมกันถวายเทียนพรรษาและทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดเมืองก๊ะ ตำบลสลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ขบวนผ้าป่า และแห่เทียน

ช่างฟ้อนฟ้อนท่ามกลางสายฝน

พิธีทอดผ้าป่าและถวายเทียนพรรษา

          ท่ามกลางสายฝนที่ตกตลอดทั้งวัน บรรยากาศแสนจะเย็นสบาย การเดินทางก็ไม่ลำบาก ถนนดีตลอดสาย ผ่านหมู่บ้านของชาวบ้าน เทือกสวน ไร่นา เป็นช่วงเพาะปลูก ตลอดสองข้างทางชาวบ้านปลูกพืชเขียวขจี เป็นบรรยากาศร่มรื่นทีเดียว ก่อนถึงบ้านเมืองก๊ะ แยกขวาไปวัดพระพุทธบาทสี่รอย

บรรยากาศสองข้างทาง

          ความเป็นมาของพระพุทธบาทสี่รอย  เดิมทีสถานที่แห่งนี้มิได้เป็นวัด มีแต่รอยพระบาท  อยู่ที่หินมันจะมีหินอยู่ด้านหลังที่พระพุทธรูปยืน หินมีลักษณะคล้าย ๆ เรือ จะกว้างยาวมาข้างล่างและเรียบลงติดกับพื้นดิน  หินพ้นมาจากพื้นดินขึ้นมามีรอยพระพุทธบาทข้างบนเป็นเขาลงแบบนี้ เป็นภูเขาลงแบบนี้  แล้วจากข้างล่างก็เป็นลำห้วยในสมัยโบราณ จะขึ้นมากราบพระพุทธบาททีก็ต้องเอาไม้ไผ่มาพาดไต่ ๆ กันไป จะมีก็แต่พระและผู้ชายที่ปีนก้อนตรงข้าง ๆ พระบาท  เป็นหินก้อนใหญ่และสูงส่วนผู้หญิงไม่มีโอกาสที่จะได้ขึ้นไปชมรอยพระบาท (คนสมัยก่อนถือห้ามมิให้ผู้หญิงเข้าใกล้) ในสมัยก่อนกราบได้ก็แต่ตรงฐานเบื้องล่างมาตรงนี้ก็เป็นลำห้วย พ.ศ. ๒๔๗๑ เจ้าดารารัศมี ขึ้นมากราบและสั่งให้ทำร้านนั่งได้รอบ ๆ รอยพระบาท และต่อมา พ.ศ. ๒๔๗๒ พระครูบาศรีวิชัยได้ขึ้นมากราบ ท่านเลยมาสร้างวิหารครอบรอยพระบาทไว้บริเวณที่เราเดินรอบรอยพระบาทไว้

วัดพระพุทธบาทสี่รอย

รอยพระพุทธบาท

           ทุก ๆ ปี จะมีประเพณีสรงน้ำพระพุทธบาทสี่รอย  ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ซึ่งประเพณีจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมของทุก ๆ ปี

          นอกจากนี้แล้ว บริเวณหน้าวัด ยังเป็นที่ตั้งของสถูป "ขุนหลวงวิลังคะ" และ"ขุนหลวงวิลังคะ" คือใครกัน มีความสำคัญต่อคนเมืองก๊ะอย่างไร?"

สถูปขุนหลวงวิลังคะ

          ชาวเมืองก๊ะ เชื่อกันมานานแล้วว่าพ่อขุนเสียชีวิตที่นี่ ที่บ้านเมืองก๊ะ ท่านเป็นกษัตรย์ชาวลัวะองค์ที่ 13 ของระมิงค์นครในราชวงศ์กุนาระ เมื่อราวต้นพุทธศักราช 1200 ทรงมีอิทธิฤทธิ์ มีฝีมือในการพุ่งหอกเสน้า (สะ-เน่า) เป็นที่เลื่องลือ สิ้นพระชนม์ด้วยความตรอมใจเมื่อพุทธศักราช 1227 เพราะไม่สมหวังในความรักจากพระนางจามเทวีที่ปกครองนครหริภุญชัยในสมัยเดียวกัน

ขุนหลวงวิลังคะ

          ตำนาน องค์พ่อขุนหลวงวิลังคะ ...เล่ากันว่า ในสมัยที่พระนางจามเทวีปกครองเมืองหริภุญไชยราว พ.ศ. ๑๓๐๐ ในสมัยนั้นเล่ากันว่า นครหริภุญไชยเป็นนครของชนชาติมอญ หรือเม็ง และในขณะเดียวกันบริเวณเชิงดอยสุเทพเป็นที่ตั้งบ้านเมืองของชาวลัวะมี ขุนหลวงวิรังคะเป็นเจ้าเมืองหรือหัวหน้า ขุนหลวงวิรังคะมีความรักในพระนางจามเทวี มีความประสงค์จะอภิเษกกับพระนาง แต่พระนางไม่ปรารถนาจะสมัครรักใคร่กับขุนหลวงลัวะ เพราะเป็นกลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมต่ำกว่ามอญในสมัยนั้น ขุนหลวงได้ส่งทูตมาเจริญไมตรีขอนางอภิเษกด้วย พระนางก็ผัดผ่อนหลายครั้ง โดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ ได้แก่ ขอให้ขุนหลวงสร้างเจดีย์ที่มีขนาดและลักษณะคล้ายกับเจดีย์พระธาตุหริภุญไชย ให้ขุนหลวงพุ่งเสน้ามาตกที่ในเมือง พระนางจึงจะอภิเษกสมรสด้วย

ประชาชนกราบไหว้บูชา และปิดทอง

          ขุนหลวงวิรังคะ เป็นผู้ทรงพลังและชำนาญในการพุ่งเสน้า (เสน้า หมายถึง หอกด้ามยาวมีสองคม) ขุนหลวงพุ่งเสน้าครั้งแรกตกที่นอกกำแพงเมืองหริภุญไชยด้านตะวันตกเฉียงเหนือปัจจุบันเรียกว่า หนองเสน้าพระนางจามเทวีเห็นว่าจะเป็นอันตรายยิ่ง ถ้าขุนหลวงวิรังคะพุ่งเสน้ามาตกในกำแพงเมืองตามสัญญา พระนางจึงใช้วิชาคุณไสยกับขุนหลวงวิรังคะ โดยการนำเอาเศษพระภูษาของพระนางมาทำเป็นหมวกสำหรับผู้ชาย นำเอาใบพลูมาทำหมากสำหรับเคี้ยวโดยเอาปลายใบพลูมาจิ้มเลือดประจำเดือนของพระนาง แล้วให้ทูตนำของสองสิ่งนี้ไปถวายแด่ขุนหลวง ขุนหลวงได้รับของฝากจากพระนางเป็นที่ปลาบปลื้มอย่างยิ่ง นำหมวกใบนั้นมาสวมลงบนศีรษะ และกินหมากที่พระนางทำมาถวาย ซึ่งของทั้งสองสิ่งนี้ชาวล้านนาถือว่าเป็นของต่ำ ทำให้อำนาจและพลังของขุนหลวงเสื่อมลง เมื่อพุ่งเสน้าอีกครั้งต่อมาแรงพุ่งลดลงเสน้ามาตกที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ชาวบ้านเรียกว่า หนองสะเหน้า เช่นเดียวกัน ขุนหลวงเมื่อเสื่อมวิทยาคุณเช่นนั้น ก็หนีออกจากบ้านเมืองไป

          ก่อนสิ้นชีวิต ขุนหลวงวิรังคะได้ขอให้เสนาอำมาตย์นำศพของท่านไปฝังไว้ ณ สถานที่ที่ขุนหลวงจะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลา ทหารได้จัดขบวนศพของขุนหลวงจากเชิงดอยสุเทพขึ้นสู่บนดอยสุเทพเพื่อหาสถานที่ฝังตามคำสั่ง ขบวนแห่ศพได้ลอดใต้เถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่งเรียกว่า เครือเขาหลง ซึ่งเชื่อว่าถ้าผู้ใดลอดผ่านจะทำให้พลัดหลงทางกันได้ ขบวนแห่ศพขุนหลวงได้พากันพลัดหลงกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง นักดนตรีบางคนพลัดหลงไปพร้อมกับเครื่องดนตรีของตน นิทานเล่าว่าภูเขาที่นักดนตรีผู้นั้นหลงจะปรากฏมีรูปร่างคล้ายเครื่องดนตรีนั้น ๆ บนยอดเขาสุเทพ-ปุย จะมีภูเขาชื่อต่าง ๆ ดังนี้ ดอยฆ้อง ดอยกลอง ดอยฉิ่ง ดอยสว่า บางแห่งเป็นที่แคบและฝาครอบโลงศพปลิวตก บริเวณนั้นเรียกว่า กิ่วแมวปลิว (คำว่า แมว หมายถึง ฝาครอบโลงศพที่ทำด้วยโครงไม้ไผ่ใช้ตกแต่งด้านบนของฝาโลงศพ)

           เสนาอามาตย์ที่หามโลงศพของขุนหลวงได้เดินทางไต่ตีนเขาไปทางทิศเหนือ ถึงบริเวณแห่งหนึ่ง โลงศพได้คว่ำตกลงจากที่หาม เสนาอามาตย์จึงได้ฝังศพของขุนหลวงไว้ ณ สถานที่บนภูเขาแห่งนี้ ซึ่งจะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลา ยอดภูเขานี้ชาวบ้านเรียกว่า ดอยคว่ำหล้อง (หล้อง หมายถึง โลงศพ)    

          ปัจจุบันชาวบ้านยังเรียกชื่อภูเขาลูกนี้ว่า ดอยคว่ำหล้อง ตั้งอยู่บนภูเขาบริเวณเหนือน้ำตกแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ยอดเขาเป็นรูปสี่เหลี่ยมตัดลักษณะคล้ายโลงศพ บนยอดเขามีศาลของขุนหลวงวิรังคะตั้งอยู่ ชาวบ้านบริเวณเชิงเขาเล่าว่า กลางคืนเดือนเพ็ญบางครั้งจะได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงบนยอดเขา เชื่อกันว่าวิญญาณของขุนหลวงสถิตอยู่บนดอยคว่ำหล้อง

          บริเวณเชิงเขา มีหมู่บ้านลัวะหมู่บ้านหนึ่งชื่อว่า บ้านเมืองก๊ะ มาจากชื่อของขุนหลวงวิรังคะ เชื่อกันว่า ชาวลัวะเหล่านี้เป็นเชื้อสายของขุนหลวงวิรังคะ ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีศาลที่สถิตวิญญาณของขุนหลวง และทหารซ้ายและขวาของขุนหลวงอีก ๒ ศาล ชาวบ้านจะเซ่นสรวงดวงวิญญาณขุนหลวงและทหารปีละครั้ง ชาวบ้านเล่าว่า ดวงวิญญาณของขุนหลวงจะสถิตอยู่ ๓ แห่งได้แก่ บนดอยคว่ำหล้อง ศาลที่บ้านเมืองก๊ะ อำเภอแม่ริมและอีกแห่งหนึ่งคือ บริเวณดอยคำ อำเภอเมือง ซึ่งตั้งอยู่ทิศใต้ของดอยสุเทพ ปัจจุบันบนยอดดอยมีวัดชื่อว่า วัดพระธาตุดอยคำ บนวัดแห่งนี้มีอนุสาวรีย์ขุนหลวงวิรังคะประดิษฐานที่ลานวัดใกล้เจดีย์

          สถูปพ่อขุนหลวงวิลังคะ ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านเมืองก๊ะ ปัจจุบันมีผู้คนมาสักการะบูชาจำนวนมาก  แต่ละปีจะมีการจัดทำ พิธีทำบุญประจำปี ในตำนานกล่าวว่า ขุนหลวงวิลังคะ หรือ "มะลังกะ" กษัตริย์ของชนเผ่าลั๊วะ  สร้างอานาจักรอยู่ในบริเวณเชิงเขาดอยสุเทพ  และที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง  มีเมืองสำคัญปรากฏหลักฐานสืบมา  เช่น เวียงนพบุรี  เวียงเชษฐบุรี (เวียงเจ็ดลิน) และ เวียงสวนดอก  ก่อนที่จะถูกพระยามังรายแผ่ขยายเข้ามาทำการยึดครองเพื่อสร้างเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 1983              

          ชาวบ้านเชื่อว่า การทำพิธีกรรมเลี้ยงขุนหลวงนี้จะทำให้พืชผลดี ฟ้าฝน น้ำ และปลาอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกปีในเดือน 9 เมืองที่ตรงกับเดือนมิถุนายน และเลือกวันก่อนที่จะลงสวน ทำไร่นา ให้เป็นผลตามความเชื่อ ต้องไม่ใช่วันศีล (วันพระ) ไม่ใช่วันเสีย ไม่ใช่วันอาทิตย์ ไม่ใช่วันจันทร์ ไม่ใช่วันพุธ

ข้อมูลจาก http://tantra-siam.com/forums/forum2/thread255.html

 

หมายเลขบันทึก: 274210เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2009 16:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (52)

สวัสดีค่ะ

  • มีความสุขที่ได้ชมกิจกรรมและอ่านบันทึกค่ะ
  • คุณวัชราและครอบครัวสบายดีนะคะ
  • ลูกสาวบอกว่าที่เชียงใหม่ฝนตกและอากาศเย็นค่ะ
  • เธอไปปฏิบัติธรรมที่อำเภอจอมทองค่ะ
  • เธอไปปฏิบัติธรรมที่อ
  • สวัสดีค่ะ น้องวัชรา
  • เชียงใหม่..เนี่ย..มีตำนานน่าสนใจหลายอย่างนะคะ
  • หนองคายฝนก็ตกทุกวัน เมื่อเช้าไม่มีฝน ไปทำบุญสบายๆอากาศดี บ่ายแก่ๆ ฝนพร่ำลงมาอีกแล้ว
  • รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีครับครูคิม

  • วันนี้ฝนตกเล็กน้อย น้อยกว่าสองวันที่ผ่านมา
  • อากาศเย็นสบายดีครับ
  • สมาชิกครอบครัวสบายดีครับ
  • ครูคิมสบายดีนะครับ
  • รักษาสุขภาพด้วยครับ
  • สวัสดีครับpa_daeng
  • เชียงใหม่มีตำนานเยอะมาก
  • วันนี้ฝนตกเล็กน้อย น้อยกว่าสองวันที่ผ่านมา
  • ป้าแดงอยู่หนองคายแล้วหรือครับ
  • หนองคายกับเชียงใหม่ก็ไม่ไกลเท่าไหร่
  • บรรยากาศดีน่านอนครับ
  • อย่าลืมคืนไปเวียนเทียนครับ

สวยจังค่ะ

คุณความดีคุ้มครอง นะคะ

  • สวัสดีครับคุณ@..สายธาร..@
  • ขอบคุณที่มาทักทาย
  • วันนี้อย่าลืมไปเวียนเทียน
  • ทำจิตใจให้ว่างครับ

สวัสดีค่ะ คุณวัชรา

  •    ครูตาได้ยินชื่อพระพุทธบาทสี่รอยตั้งนานมาแล้ว  เพื่อน ๆ ชวนไปกราบนมัสการก็หลายหน  แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที  วันนี้ได้มาอ่านเรื่องราวรอยพระพุทธบาท  เกิดศรัทธาแล้ว  ต้องหาโอกาสไปกราบนมัสการสักครั้ง
  • ได้ทราบประวัติขุนหลวงวิลังคะด้วย   
  • ขอบคุณมาก ๆ สำหรับสาระความรู้ 

มาอ่านความรู้ค่ะ ดีจัง ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

เชียงใหม่สวยงามและมีวัฒนธรรม

ขอให้ธรรมมะคุ้มครองนะคะ

 

  • เหมือนไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ
    • เลยเอาภาพน่ารักมาฝากค่ะ
  • สวัสดีครับคุณครูตา ลป.
  • ต้องหาโอกาสไปกราบพระพุทธบาทสี่รอยให้ได้นะครับ
  • ถนนหนทางสบาย
  • ขึ้นดอยเล็กน้อยถึงปานกลางครับ

สวัสดีครับ ครูไข่

          เห็นนักประวัติศาสตร์บอกว่า รอยพระพุทธบาท จะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์หรือไม่นั้นแล้วแต่ความเชื่อ แต่ที่แน่ๆ คือ รอยพระพุทธบาทเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่า พระพุทธศาสนาได้มาประดิษฐาน ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นแล้วครับ

          เมื่อต้นสัปดาห์ พี่ต๋อยกับพี่วสุ พาไปกราบนมัสการ วัดพระธาตุดอยคำ ครับ เลยนำภาพมาฝากสักหน่อย

บันทึก : นมัสการ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่

 

สวัสดีค่ะคุณรุ่นพี่ไข่

มาชมประเพณี และวัดที่สวยงามในเวียงเจียงใหม่เจ๊า

ชื่อวัดสะดุดตา เมืองสลวงยังไม่เคยไป เห็นภาพแล้วถูกใจมากเลยค่ะ

แม่ริมก็เคยผ่านนะคะ แต่พลาดเมืองนี้เลยไป J

ชอบภาพสาวงามฟ้อนรำท่ามกลางสายฝน เข้าพรรษา .. ขอบคุณค่ะ

 

 

 

แบบนี้ต้องได้บุญกุศลมากกว่าปกติเป็น 2 เท่า แต่บรรยากาศยิ่งบริเวณ 2 ข้างทาง เหมือนเมืองสวรรค์ ทำเหมือนกับตัวเองเคยขึ้นสวรรค์......อิอิ.อิ  คิดเอาเองนะครับ  แถวบ้านผมไม่เคยเจอ ขอบพระคุณ

สวัสดีค่ะคุณวัชรา

อนุโมทนากับกุศลที่ได้ทำนะคะ

ได้ความรู้มากมายกับบันทึกนี้เลยค่ะ

ภาพที่นำมาฝากงดงามได้อารมณ์ เหมือนไปร่วมงานด้วยเลย

ชอบภาพเดียวกับคุณ Poo ค่ะ

การทำสิ่งใดก็ตามที่ประกอบด้วย ศรัทธา ย่อมงดงาม สำเร็จผลโดยดีค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ

ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ

วันหยุดกับการทำบุญ ดีมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณมากมายค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณวัชรา
  • ขอบคุณมากสำหรับเรื่องราวดีดี มีคุณค่า ชอบมากๆค่ะ
  •  เคยได้รับพระพุทธบาทสี่รอย  อยากจะไปไหว้ แต่หลายคนบอกว่าระยะทางไกลมากจากตัวแม่ริมก็เลยอดจนเดี๋ยวนี้
  • อย่างนี้คงต้องหาทางไปให้ได้ ช่างฟ้อนงามแด้เจ๊า
  • แอบมาเยี่ยมดึกๆ
  • เพราะพรุ่งนี้ตื่นสายได้  อิอิ
  • สวัสดีครับคุณแดง
  • หยุดหลายวัน ไท่องเที่ยวทำบุญ
  • ดูบรรยากาศท้องไร่ท้องนา
  • จิตใจดีครับ
  • เพิ่งเห็นขบวนเทียนแบบนี้ครับ
  • แต่ชอบดูช่างฟ้อนครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
  • ดีใจได้เรียนรู้เรื่องล้านนา
  • เรื่องนี้ด้วยครับ
  • ขุนหลวงวิลังคะ
  • สวัสดีครับพี่เขี้ยวมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
  • ขอบคุณครับ
  • 3 สิ่งที่เราไม่อาจเรียกร้องกลับคืนมาได้
  • เวลา เป็นสิ่งพิสูจน์ความเป็นตัวตนที่แท้จริง
  • คำพูด เหมือนคำลมที่ปล่อยออกมาจากปาก ถ้าเราไม่รักษาคำพูดก็เป็นคนไร้สาระ
  • และโอกาส เมื่อมีโอกาสควรทำในสิ่งชอบครับ

สวัสดีครับ อ.บัญชา ธนบุญสมบัติ

  • ถ้าอ่านประวัติขุนหลวงวิลังคะแล้ว
  • วัดดอยคำเกี่ยวข้องกับขุนหลวงวิลังคะที่บ้านเมืองก๊ะ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับคุณ poo
  • สลวงอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่
  • ถนนดี ขึ้นดอยเล็กน้อย
  • ขอบคุณครับที่มาเยือน

สวัสดีค่ะ

เชียงใหม่ฝนตกหนักไหมคะ

 

  • สวัสดีครับ อ.นายประจักษ์~natadee
  • เป็นธรรมชาติดีครับ
  • บรรยากาศชวนให้นอน
  • ผมชอบแบบนี้ครับ
  • สวัสดีครับคุณคนไม่มีราก
  • ภาพสวย บรรยายกาศดี
  • ผมก็ชอบช่างฟ้อน
  • อ่อนช้อย น่ารักดีครับ

*  มาเรียนรู้วัฒนธรรมล้านนา ความเป็นมาของเมืองก๊ะ ซึ่งเป็นร่องรอย
    ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สมควรถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้ทราบกัน

*  ภาพทุกภาพสายงาม คงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมชมความงดงามบ้าง
    แล้วค่ะ

 * ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีคะ

แม่ต้อยมาเชียงใหม่เมื่อดือนที่ผ่านมาคะ

ไปขอฟังเพลง สามปอยหลวง ยังไม่ได้ฟังเลยนะคะ

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดถึงบ้านคะ

ช่างฟ้อนงามแต้ๆๆเจ้า

แวะมาอนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

และมาส่งความห่วงใยค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

ทานน้ำมะนาว  ช่วยป้องกันไข้หวัดได้ค่ะ

            ...@...มะนาวสารพัดประโยชน์...@...

  • ขอบคุณครับคุณนุ้ยcsmsu
  • ติดธุระหลายวันไม่ได้เข้า g2k
  • ขอบคุณอีกครั้งครับ
  • สวัสดครับอ.เอื้องแซะ
  • พระพุทธบาทสี่รอยอยู่ไม่ไกล
  • ถนนดีตลอดสายครับ
  • สวัสดีครับ อ.ขจิต
  • ขอบคุณมากครับ
  • ดีใจครับที่สนใจเรื่องราวต่าง ๆ
  • ขอบคุณครับคุณแดง
  • ที่ไม่ลืมกัน
  • สวัสดีครับคุณครูใจดี
  • ขอบคุณมากครับที่แวะมาทักทาย
  • สวัสดีครับคุณแม่ต้อย
  • ขอบคุณมากครับ
  • ขอให้มีความสุขในการทำงานครับ
  • สวัสดีครับคุณ°o.O ปลายฟ้า O.o°
  • ขอบคุณมากครับสำกรับสรรพคุณของน้ำมะนาว
  • รักษาสุขภาพด้วยครับ

คิดถึงนะครับ ถ้ามีโอกาสมาเชียงใหม่จะแวะมาคารวะนะครับ

สวัสดีค่ะมาเที่ยวเชียงใหม่ค่ะ

รู้ว่าชอบดอกนี้ เลยเอามาฝากค่ะ

 

สวัสดีครับ อ.เบดูอิน
ยินดีต้อนรับครับ ว่าแต่จะมาเมื่อไหร่ครับ

  • สวัสดีครับคุณแดง
  • ขอบคุณมากครับ
  • สวยงามมากครับ

มาชม

มาเชียร์

มาดูประเพณีไทยเมืองเหนือนะครับ

สวัสดีค่ะ

เข้ามาทักทาย สบายดีไหมค่ะ

พึ่งไปเชียงใหม่มา เสียดายไม่ได้ไปวัดนี้ พานักเรียนไปตามโครงการของ สทพ.อต.1

กลับมาเด็กๆ ป่วยไปตามกันกัน รวมทั้งครูใจดีด้วยค่ะ

สวัสดีครับ อ.umi

เป็นประเพณีที่ดีงาม ธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติครับ

  • สวัสดีครับคุณครูใจดี
  • น่าจะไปวัดพระพุทธบาทสี่รอยด้วยครับ
  • พักผ่อนเยอะครับ ๆ

สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมค่ะ เอาขุนเขา ตะวันตกดินมาให้ดูนะคะ...

ที่ ทับลาน วังว้ำเขียวค่ะ

 

ตามมาขอบคุณคุณไข่ คาดว่าตุ๊กแก เอ้ยสมุด ดินสอคงถึงโรงเรียนเร็วๆๆนี้ครับ ขอบคุณมากๆๆครับ

สวัสดีครับ อ.ขจิต ฝอยทอง

จะติดตามดูกิจกรรมของเด็ก ๆ ในวันจัดกิจกรรมครับ

สวัสดีค่ะพี่วัชรา

โอ้โห .. เจอรุ่นพี่ร่วมสถาบันตัวจริงเสียงจริงแล้วเรา

สองสถาบันรวดเช่นกัน ;)

พระพุทธบาทสี่รอยเคยไปเมื่อปลายปีที่แล้วค่ะ ผ้าเบรคเกือบไหม้เพราะไม่ชินทาง

ขับไปหวิวไป ๆ แต่พอไปถึงข้างบนหายหวิวเลย วิวทิวทัศน์สวยมาก ๆ

แหม่มไปตอนที่ใกล้จะฝังลูกนิมิตรพอดี ช่วงขาลงดีหน่อยมีรถสองแถวนำทาง

กะว่าถ้าไปอีกครั้งจะโบกรถแม่แตงตรงทางขึ้น ขึ้นไปดีกว่า เพราะจนถึงป่านนี้

ก็ยังหวิวไม่หาย แฮ่ ๆ ...

มีโอกาสจะแวะไปสวัสดี ขอข้าวรุ่นพี่ทานซักมื้อที่ มช.นะคะ ;)

สวัสดีครับแม่เจ้าแพลน

ยินดีที่ได้รู้จัก

ดีใจครับที่มีเพื่อร่วมสถาบันมาทักทาย

มีโอกาสคงได้เจอกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท