การกำหนดนโยบายการศึกษาของไทยเปลี่ยนแปลงไปตามการเมืองที่เปลี่ยนไป พรรคการเมืองใดมีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง ก็ให้นโยบายด้านการศึกษาตามกรอบแนวคิดที่นักการเมืองที่มีความสามารถด้านการศึกษามาเป็นผู้กำหนดนโยบาย บ้างก็ให้ความสำคัญด้านการใช้สื่อ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้ความสำคัญเกี่ยวกับวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ มากเกินไป มีการจัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และหลักสูตรสถานศึกษาตามความเหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น พร้อมกับลดชั่วโมงการเรียนการสอนพลศึกษา ปัญหาที่ตามมาในช่วงระยะเวลา 4 - 5 ปีที่ผ่านมาคือ เด็กไทยมีสุขภาพอนามัยที่แย่ลง ร่างกายไม่แข็งแรง ร่างกายไม่มีภูมิต้านต่อโรคติดต่อสายพันธ์ใหม่ ไม่มีทักษะชีวิตในการป้องกันคัวเอง และป้องกันโรค เชื่อไหมว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ออกกำลังกายน้อยโดยเฉพาะผู้หญิง ชั่วโมงพลศึกษาเท่านั้นที่เขาได้ออกกำลังกาย
อย่ามัวแต่ถือฐิติเข้าข้างตัวเอง คิดเอาเอง ถึงเวลาแล้วที่ผู้ที่มีส่วนในการกำหนดนโยบายการศึกษาต้องเปิดใจกว้าง มองไกลถึงหลักความจริง ถ้าสุขภาพร่างกายของเยาวชนและคนในชาติไม่แข็งแรง เราจะรับมือกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2010 หรือ 2011 ในอีก 2 - 3 ปี ข้างหน้าได้อย่างไร
ไม่มีความเห็น