โรคระบาดอันดับ 1 ของผู้หญิง
"โรคงอน"เป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง
ติดต่ออย่างรวดเร็วขยายตัวเป็นวงกว้างในแนวราบ ยังไม่พบวัคซีนหรือยารักษา ผู้ป่วยมีอาการ “หน้างอ” และบางรายที่อาหารหนักจะมีอาการหน้าดำ แทรกซ้อนด้วย หูแข็ง ฟังอะไร ขัดหูขัดใจไปหมด ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยพองาม ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน ว่าผู้ใดนำเชื้อมาปล่อย โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก จะทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้ สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก ผู้ง้อ ควรได้รับการฝึกสอนและเป็นผู้ชำนาญการง้อเป็นพิเศษ เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย ต้องการความเอาใจใส่ หลังได้รับการรักษาผู้ป่วยที่หายแล้ว ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจ หากความรักและความเข้าใจลดน้อยลงเมื่อไหร่ อาการงอนจะกำเริบ
หมายเหตุ
พบมากในกลุ่มคนที่มีความสวย และความน่ารัก สำหรับผู้ไม่สวยและไม่น่ารัก จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ น่ารำคาญ จะปล่อยไปตามยถากรรม ไม่มีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าอาการจะหายหรือตายไปเอง..(อิอิ)
สถานภาพปัจจุบันไม่อาจเป็นโรคนี้ได้ เพราะปราศจากคนรักษา...อิอิ
อิอิ เช่นเดียวกันค่ะ ...งอนไม่ได้ เพราะไม่มีคนง้อ 555+
สวัสดีครับ คุณ ลีลาวดี
ดีใจนะคะ ที่คุณมาเยี่ยม ไม่รู้จะงอนใครนิ ไม่มีคนใครให้งอนนี่นา อยู่ดีมีแฮงอยู่จ้า ขอบคุณหลายๆ
อิอิอิ ขำพี่จัง เม้นท์ได้ตลกดี อ่านแล้วขำๆๆ ขอบคุณนะคะที่มาเยือนลีอีกครั้งค่ะ
ครูวรางภรณ์เม้นท์ ตลกดีเนาะ คนอะไรใจดีๆ พูดออกมาตลกได้หมด
ขำเนาะ งอนมีสิทธิกำเริบได้ทุกเวลา คริ คริ ช่างสรรหา คลายเครียดได้ดี เพลงอยากฟังซ้ำก็เพราะมาก
สงสารครู ป.1 จังห้ามตนเอง เกิดโรคงอน เพราะปราศจากคนง้อ คริ คริ
อย่าคิดมากนะคะ โลกแห่งไซเบอร์ก็อยู่อย่างนี้แหละ รักได้ผูกพันได้ แค่ในตัวหนังสือเท่านั้น เพราะชีวิตจริง ไม่ใช่ เพราะไม่เคยเห็นตัวตนกันเลย รู้หน้าไม่รู้ใจ และถ้าเห็นตัวตนกัน มันก็ไม่เหมือนในตัวหนังสือ
ความรู้สึกจะไม่เหมือนกัน อย่าไปถือสาหาความอะไรกับตัวหนังสือเลย ตัวหนังสือพาไป
"ผู้หญิงจะงามตามคำเขาว่าต้องงอน แต่อย่าให้มากนักหล่อน ถ้างอนนักมักไม่งาม"
งอนให้พองามนะน้องลี โตชิบา ผู้เฒ่าเว้ามาตามเนื้อเพลงครับ
ขอบคุณพี่สุที่เตือนน้องค่ะ จริงอย่างพี่สุว่าจริงๆน่ะแหละ
จ้า แล้วเจอกันค่ะ จะเอางานไปให้ตรวจเอิ๊กๆๆ ขอบคุณที่เป็นห่วง จ้า
ลืมแล้ว
ว่ายังมีโรค พรรค์นี้ หลงเหลือ
หนักเท่าหวัด 2009 ไหมนี่
ขอบคุณพี่บ่าวที่เตือนน้องลีจ้า ขิ๊ดถึ้งพี่บ่าวจัง
ดีจ้าน้องรัตนาภรณ์ ขอบคุณที่มาเยือนนะคะ นำมาให้อ่านคลายเครียดอ่ะจ้า
หนักกว่าโรคหวัดสองพันเก้าค่ะ เพราะมันรักษาไม่หาย อิอิ
งอนแล้วล่ะ ถอยโตโยป้ายแดงใหม่ ๆ หมาด ๆ แค่วันแรกก็เที่ยวเพลิน
ผ่านกบินทร์..ไม่ยอมแวะรับหนูนาเล๊ย..คงจะเม้าท์กะหนุ่ม ๆ ซะเพลิน
จนลืมน้องนุ่งไปเลยสิเนี่ย!
ใครบอกว่าผ่านกบินทร์ อ่ะ ยายนา เค้าไปสุโขทัย ตาก กำแพงเพชร เอง อิอิ อ่ะๆๆ ไม่มีหนุ่มเมา เอ๊ยเม้าท์หรอก รออีกนิ๊ด เร่งจังวุ้ย เดี๋ยวเเยกร่างไปหาดีมังเนี่ย
ไม่เห็นจะตรงเลยกับเรา
มันเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิง
อิอิ ก็โรคของผู้หญิงไงคะ คุณยา ถ้าผู้ชายจะเป็นก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ
สวัสดีจ้าน้องลี
พี่เห็นเพื่อนๆมาทักทายมากมายคงหายเหงา
ดีใจกับน้องสาวจ้ะ..รักและคิดถึงน้องลีเสมอจ้ะ
สวัสดีครับ
มากทักทายครับ
และก็มาทราบว่าโรคนี้ระบาดมากจริง ๆ
สวัสดีค่ะพี่สาวที่น่ารักของน้องลี ... ดีใจที่พี่มาเยี่ยมค่ะ รักและคิดถึงพี่มากเช่นกันค่ะ
สวัสดีจ้ะน้องลีที่รัก
รักและคิดถึงเสมอนะจ๊ะคนดี
สวัสดีค่ะ...เข้ามาอ่านและขำ ๆ ดี อ่านไปยิ้มไป ตรงใจจริง
โรคนี้เป็นบ่อยค่ะ...อาการของโรคตรงตามที่บอก...แต่น้ำลายไหลนี่ยังไม่ปรากฎค่ะ
ส่วนวิธีการรักษาก็ใช่อีกนั่นแหละ
----------------
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะพี่สาวที่น่ารัก ....อิอิ หมันแล้วหม้าย เป็นภาษาใต้ เเปลว่า ใช่หรือไม่ค่ะ ไม่ใช่เป็นหมัน แล้วแถมเป็นหม้ายอีก อิอิ
อิอิ ขำๆ สนุกๆนะคะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนนะคะ
..........โอ๊ยๆๆๆๆๆๆ หน้าแตกอ่ะ...ฮิฮิฮิๆๆๆๆๆ
ปายหล่ะ...อ่ะอ่ะอ่ะอ่ะ......
o.k โรคนี้เราก็คุ้นเคยนะเนี่ย
หน้าไม่แตกหรอกค่ะพี่สาวจ๋า แค่เราไม่รู้เองน่ะ ไม่เป็นไร
อิอิ ขอบคุณ คุณนนท์ที่มาเยือนค่ะ