ชุมชนร่วมสร้าง
การสร้างสุขภาพ เป็นของทุกชีวิต เมื่อทุกชีวิตมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว ทุกครอบครัวอยู่รวมกันเป็นชุมชน.....การสร้างสุขภาพชุมชน ก็ควรจะเป็นหน้าที่ของชุมชนร่วมกันสร้าง เช่นกัน
วันนี้ขอเล่าถึง ชุมชนร่วมสร้าง ของ "ชมรมคนอักสุขภาพวัดบ้านกลาง" อำเภอสอง จังหวัดแพร่ค่ะ.....เมื่อ 2 ปีก่อน กระแส การออกกำลังกายมาแรงมาก มีสมาชิกกลุ่มหนึ่งของวัดบ้านกลาง ได้ชวนกันมาออกกำลังกาย ทุกเย็น จึงก่อตั้งเป็น ชมรมขึ้นมา เพื่อสร้างสุขภาพต้นเอง และเป็นต้นแบบให้คนในครอบครัว ในชุมชน จากนั้นขยายกิจกรรมชมรมออกมาโดยการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง อาหารพื้นบ้านบำบัดโรค บางครั้งได้ให้สมาชิกชมรม ทำอาหารจากครอบครัวตนเองแล้วมารับประทานด้วยกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้อาหารพื้นบ้าน สรรพคุณอาหาร...กรรมวิธีการประกอบอาหาร....การรับประทานอาหารร่วมกันได้หลากหลายความรู้สึก เป็น จิตวิญญาณของความรู้สึก...รสชาติอาหาร...ชนิดอาหารพื้นบ้าน บ่งบอกถึงวิถีชุมชน อย่างอบอุ่น.....เสียงพูดเสียงคุย สร้างสุข จากนั้น...มีคนต้นแบบในชุมชน มีความสามารถด้านดนตรีไทย ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงวัย เยาวชน ครู พ่อบ้าน แม่บ้าน ได้นัดให้มีกิจกรรม ฝึกซ้อมและสอนดนตรีพื้นบ้าน สะล้อ...ซอ..ซึง..และพ่อบ้านแม่บ้านได้นำเอาการละเล่น ฟ้อนรำ ในยุคเก่าก่อนซึ่งแสดงถึงจิตวิญญาณของชุมชน เช่น "การรำคล้องช้าง" "การเต้นคองก้า" นำมาปัดฝุ่น ฝึกซ้อมให้เยาวชน ลูกหลานสืบทอด ไว้ให้นานแสนนาน เป็นการสร้างสุนทรียทางอารมณ์ นับว่า ชมรมได้เล็งเห็นแล้วว่า ความสุขที่สร้างขึ้นนี้ เกิดความยั่งยืนแน่นอน ผลงานที่ผ่านมา ชมรม ได้รับรางวัล ชมรมสร้างสุขภาพด้านออกกำลังกาย ในระดับจังหวัด นับว่า เป็นชมรมผ่านเกณฑ์มาตรฐาน สมาชิกชมรมมีความรักความเอื้ออาทรต่อกัน แสดงน้ำใจต่อกันด้วยการเยี่ยมดูแลเมื่อเจ็บป่วย ร่วมแสดงความเสียใจต่อญาติเมื่อมีการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว เป็นการดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงและทางชมรมไม่หยุดกระบวนการคิด การทำ ไว้แค่นี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ นำ โครงการ "ธนาคารขยะ" สู่ชุมชน เป็นการเล็งเห็น ภาวะสุขภาพชุมชน ด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ชุมชน และกลุ่มสมาชิกเองก็เกิดความปิติ อิ่มเอมที่ได้ร่วมสร้างสุขถาพ เป็นการขับเคลื่อน การสร้างสุขภาพชุมชนทุกภาคส่วน ทั้ง พระสงฆ์ สท. ประธานชมรม ผู้นำชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้วย SHA..อย่างแท้จริงค่ะ
ศิริวรรณ คำฝั้น
(ตี้2)
บันทึก
ความเห็น (6)
สวัสดีค่ะ อาจารย์ และชาวรพ.สองที่รักทุกท่าน
พอลล่า มาให้กำลังใจนะคะ ยอดเยี่ยมเลยค่ะ
พอลล่าอยากให้เล่าเพิ่มว่าจุดที่ทำให้ชุมชนหันมาออกกำลังกายแล้วจริงๆ นอกจากกระแสการออกกำลังกายแล้ว...มีอะไรอีกคะ ขุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหนอย่างไรคะ
รพ.เข้าไปร่วมตรงไหนบ้าง เรียนรู้อะไรจากชุมชนบ้างคะ
ขอบคุณค่ะ ช่วยตอบเพื่อการเรียนรู้นะคะ
สวัสดีค่ะ ชาว รพ.สอง เห็นแล้วชื่น...ใจ หายเหนื่อย จริง ๆค่ะ เป็นกำลังใจสำหรับคนทำงานโครงการ SHA มาก ๆ เลยค่ะ เป็นจุดเริ่มต้น ที่เยี่ยมมาก ๆ
ขอบคุณค่ะ ขอตอบคุณพอลล่าด้วยเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งนะคะ ขอบคุณคุณออยด้วยค่ะ ชื่อ patty เหมือนกันค่ะ อิอิ...
ติ๊กต่อก....ติ๊กต่อก....เหลืออีก 2 วัน นะคะ ที่เราจะนัดพบกันในวง SHA อีกครั้งหนึ่ง....ครั้งนี้เราจะให้กลิ่น SHA ของเราขจรขจาย.....ทั่วแว่นแคว้นนี้เลยเชียวล่ะ
ตั้งใจจะตอบคุณพอลล่าโดยเรื่องเล่าอีกเรื่อง พอดีก็มีเรื่องใหม่ๆมาเยอะเลย ตอบตรงนี้ดีกว่านะคะ
- จุดเปลี่ยนจากการที่ชมรมฯออกกำลังกายตามกระแสนั้น เป็นว่าเมื่อสร้างสุขภาพเอง ได้เอง ไม่ใช่ทำตามกระแสแล้วค่ะ สุขภาพดี สดใส พบเพื่อนฝูง มีพลัง ก็เลยชวนกันต่อๆไปจนเป็นกลุ่มก้อนใหญ่และนับวันก็เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆจากกิจกรรมที่ ออกกำลังกายอย่างเดียว ก็มีหลายหลาย เมื่อผู้สร้างสุขภาพได้สุขภาพร่วมกัน เป็นผลให้ชุมชนได้สุขภาพด้วยเช่นกัน
- ร.พ.เข้าไปร่วมโดยในช่วงแรกเป็นผู้สนับสนุนด้านการสร้างสุขภาพมีพยาบาลที่รับผิดชอบชุมชน และที่สำคัญเรามีพยาบาลที่ฝังตัวในชุมชนเป็นสมาชิกชมรมอยู่ด้วยเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง
- ได้เรียนรู้ว่าชุมชนไม่ได้เป็นสิ่งว่างเปล่าที่เราคอยใส่กิจกรรมให้เขาตลอดแต่...ชุมชนเป็นขุมทรัยพ์แห่งการเรียนรู้มากมาย ทุกกิจกรรมที่ชมรมคิดสร้างสรรค์ล้วนมาจากการคิดเอง ทำเอง ของชุมชน ทาง ร.พ.ต้องเข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปขยายต่อชุมชนอื่นต่อไป ได้มากมายจริงๆนะคะคงจะเก็บมาเล่าเป็นตอนๆ ต่อไปนะคะ
ทีม SHA-SONG ค่ะ