Human Tree (ต้นไม้มนุษย์) ตอนที่ 3 “Human Capital ทุนมนุษย์”
ทุนมนุษย์ (Human Capital) เป็นทุนตัวที่หนึ่งในทฤษฎี 8K’s และ 5K’s ของอาจารย์ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ และมีความสำคัญมาก ๆ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต ถ้าใครโชคดีมีทุนมนุษย์ที่ดีก็จะทำให้มีพื้นฐานที่ดี และจะก้าวต่อไปได้ง่ายกว่าและดีกว่า เปรียบเหมือนต้นไม้ถ้าเป็นต้นไม้พันธ์ดีก็จะเจริญงอกงามได้ดี ถ้าเป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าต่อสังคม ต่อความต้องการก็จะมีราคาที่ดี นอกจากนี้ถ้าเกิดอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีก็ยิ่งทำให้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ผู้เขียนจึงได้นำเรื่อง “ต้นไม้มนุษย์” มาเปรียบเทียบเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ระยะเริ่มต้น อะไรคือ “ทุนมนุษย์” (Human Capital) เรามาเริ่มต้นตั้งแต่เราเกิด จะเห็นได้ว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าใครโชคดีหรือมีบุญเก่าอาจได้เกิดในตระกูลที่ดี ฐานะดี และอะไร ๆ ก็ดี คนเหล่านี้ก็จะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ ในทุก ๆ เรื่องโดยเฉพาะการศึกษา เพราะการศึกษาคือพื้นฐานของความรู้ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามีต้นทุนมนุษย์ที่ดีมากน้อยต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่าถ้าเกิดในตระกูลที่ดีแล้วจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะเราเห็นได้มากมายว่าคนเหล่านั้นหลาย ๆ คนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ และในทางตรงกันข้ามคนที่เกิดในตระกูลที่ธรรมดาก็ประสบความสำเร็จหลาย ๆ คน ดังนั้นทุนมนุษย์เป็นเรื่องสำคัญแต่ไม่ใช่มีปัจจัยเดียวก็จะประสบความสำเร็จ และที่สำคัญทุนมนุษย์สามารถสร้างให้ทันกัน หรือแซงหน้ากันได้
อีกด้วย และจะเห็นได้ว่ามีคำพูดหนึ่งซึ่งน่าจะนำมาพิจารณาและขบคิดเพื่อความเข้าใจในชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้นคือ “กรณีศึกษา SMEs "ลิขิตฟ้าหรือต้องฝ่าฟัน"
กรณีศึกษา SMEs “ลิขิตฟ้าหรือต้องฝ่าฟัน” ถ้าเราจะกล่าวถึงผู้ที่ประสบความสำเร็จ หลายคนอาจจะกล่าวว่าเพราะ “ สวรรค์ลิขิต” , บางคนอาจจะกล่าวว่า “สร้างมากับมือ” แล้วท่านผู้อ่านคิดว่าอย่างไร (ลองตอบในใจดู) ผู้เขียนขอยกเรื่องเพลงของคุณเจิน เจิน ที่ว่า “ สามสิบลิขิตฟ้า เจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ” มาเป็นข้อคิด สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมทุกท่าน เรื่องจริง ๆ แล้วนั้นเราสามารถกำหนด หรือมีส่วนในการที่จะกำหนดอนาคต ความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของตัวเราเองได้ ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเรา ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ทุ่มเทในการทำงาน การเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา การหาตัวช่วยซึ่งทางเรา “ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” หรือ สสว. พร้อมและยินดีให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่ 0-2278-8800 ต่อ 400 หลาย ๆ เรื่องเป็นสิ่งที่เรากำหนดไม่ได้ และถ้าเราจะกล่าวว่าฟ้ากำหนดก็น่าจะไม่ผิด , หรือแล้วแต่เวร แต่กรรมของคน , หรือแล้วแต่บุญวาสนาเช่น การเลือกเกิด เราไม่สามารถเลือกเกิดเองได้ว่า จะเกิดที่ไหน , ครอบครัวจะรวยหรือจน , เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นต้น ถ้าจะเปรียบเทียบกับเพลงก็อาจจะเป็น “ สามสิบลิขิตฟ้า” แต่หลังจากที่เราเติบโตจนมีความคิด เราจะเลือกขยันเรียนหรือขี้เกียจ , เราจะเลือกตั้งใจทำงานหรือเช้าชามเย็นชาม , เราจะเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรือเราจะปิดหูปิดตาตัวเอง , เราจะเลือกทำสิ่งที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย , เราจะเลือกต่อสู้อุปสรรคหรือคิดสั้น เหล่านี้ล้วนคือ “ เจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ” จะขอยกตัวอย่างผู้ประกอบการที่พยายามต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ นานา มาให้ดูดังนี้ กรณีศึกษาผู้ประกอบการในประเทศลาว ผู้เขียนพึ่งจะกลับมาจากประเทศลาวได้เห็นถึงความแตกต่างของผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจในประเทศลาว ในปัจจุบันนี้เมืองหลวงเวียงจันทน์มีคนต่างชาติเข้าไปลงทุนอย่างมากมายเช่น คนไทย , คนจีน , คนเวียตนาม , คนเกาหลีและฝรั่งหลาย ๆ ชาติ เป็นต้น และก็เริ่มจะมีการแบ่งเขตของการทำการค้าเป็นย่าน ๆ เช่น ย่านของคนจีน ถ้าเราเข้าไปในย่านนี้ตอนกลางคืนประมาณสามทุ่ม ท่านจะสังเกตเห็นความแตกต่างได้ทันทีว่า ยังมีการเปิดร้านค้าขายเหมือนตอนกลางวัน ถึงแม้ว่าในเวียงจันทร์ร้านค้าขายส่วนใหญ่จะปิดหมดแล้ว ( ยกเว้นร้านอาหาร ) ไม่ว่าจะเป็นขายของเบ็ดเตล็ด , ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ , ร้ายขายเครื่องยนต์คล้าย ๆ เซียนกงบ้านเรา และร้านขายของต่าง ๆ มากมายของย่านคนจีนยังคงเปิดอยู่ บางร้านเปิดยันสว่าง เขาทำอย่างนั้นทำไม? เราสอบถามมาได้ว่าการค้าในประเทศลาวมีโอกาสยังไม่มากนักจึงต้องการเปิดรับทุก ๆ โอกาสที่จะเข้ามาในทุก ๆ เวลา เพื่อให้ความสะดวกของโอกาสให้มากที่สุด และแน่นอนเขาเหล่านั้นย่อมจะต้องขายดีมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะเขารอและเปิดโอกาสให้ตัวเองคอยต้อนรับลูกค้าทุก ๆ คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนี่คือตัวอย่างหนึ่งของ “ เจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ” กรณีศึกษา ผู้ประกอบการร้านอาหารในอเมริกา ในประจุบันถ้าเราเดินทางไปอเมริกาและมีโอกาสอยู่ในช่วงวันอาทิตย์ในเมืองไม่ใหญ่มากนัก และลองออกไปหาอาหารทานเองนอกที่พัก จะพบว่ามีแต่ร้านอาหารคนจีน , ร้านอาหารคนอินเดีย และร้านอาหารคนไทยเท่านั้น เพราะร้านอาหารของคนฝรั่งปิดหมดเพราะเป็นวันหยุด และร้านอาหารที่เปิดก็ขายดีมาก ๆ นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่ต่อสู้เพื่อกำหนดความสำเร็จของตัวเอง เพื่อกำหนดอนาคตของตัวเองและสามารถกำหนดได้ถ้าเราเลือกทำงานให้มากกว่าคนอื่น ถ้าเราเลือกขยันอดทนมากกว่าคนอื่น เราจะเป็นผู้ชนะได้ด้วยตัวเรากำหนด กรณีศึกษา ร้านขายเสื้อผ้าสามสาขา (สยามสแคว,พารากอนและเกศร) มีผู้ประกอบการมาปรึกษาหาทางแก้ปัญหาว่า “ขายไม่ดีจะทำอย่างไรดี” เราก็เริ่มต้นค้นหาข้อมูลจากผู้ประกอบการเช่น การลดค่าใช้จ่าย , การจัดการส่งเสริมการขาย , การจัดการในด้านการผลิตให้มีการลดต้นทุน และมองหาทางแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ แต่ก็ไม่พบจุดอ่อน และค้นพบว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีการบริหารงานที่มีความสามัคคี รักใคร่กันดีมาก ยอมรับซึ่งกันและกัน มีผู้นำที่เสียสละ,มีความสามารถและได้รับการยอมรับสูง เมื่อที่ปรึกษาพยายามวิเคราะห์ดูก็ทราบว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาทางแก้ไขเนื่องจากว่าสภาวะทางเศรษฐกิจมีผลต่อการขายเสื้อผ้าราคาสูง มีการออกแบบที่โดดเด่น แปลกและไม่เหมือนใคร และลูกค้าที่เคยมาซื้อก็ลดลงมากไม่มีคนมาเดิน ทำให้ยากที่จะแก้ไข ที่ปรึกษาจึงเสนอแนวความคิดที่จะยกสินค้าไปหาลูกค้าในบริเวณที่ทำงานของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราวางแผนที่จะทำในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเป็นแผนการแก้ไขชั่วคราว โดยเราจะไม่ลงทุนเปิดสาขาใหม่ การนำสินค้าไปหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายถึงที่ทำงานก็ได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการว่าสามารถนำไปทำได้จริง ใช้จ่ายต่ำ น่าลองทำดีกว่านั่งรอแบบไม่มีอนาคต ที่ปรึกษาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาเหล่านั้นน่าจะสามารถต่อสู้และแก้ปัญหาได้ และคาดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเร็ว ๆ นี้ “ต้องสู้ จึงจะชนะ” กรณีศึกษา ร้านขายสีรถยนต์ มีสองสาขา เธอเป็นวัยรุ่นอายุประมาณสิบเก้าถึงยี่สิบปี กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เข้ามารับการปรึกษาได้ 4 ครั้งและครั้งหลังสุดก็น่าจะได้แนวทางแก้ไขที่น่าจะเป็นไปได้จริง ๆ จุดเริ่มต้นคือ คุณพ่อทำงานต่อไปไม่ไหวเนื่องจากปัญหารุมเร้าอย่างมากมาย มีร้านขายสีรถยนต์สองแห่งย่านสำโรง มีปัญหาขาดสภาพคล่องเนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ , ลูกค้าไม่จ่ายเงิน , เจ้าหนี้ตามเก็บเงิน , ลูกน้องลาออกไปเปิดร้านแข่งขันในทำเลใกล้ ๆ กัน , ธนาคารเร่งรัดเงินตลอดเวลาและไม่ดูแลเท่าที่ควรเช่นลูกค้ามีถึงแถวมูลค่า 5 ล้านบาทปลอดหนี้ต้องการนำมาค้ำประกันวงเงินเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาแต่ทางธนาคารก็ไม่ยินยอมอย่างเดียวเลย เราจึงต้องแนะนำให้ขายตึกแถว 5 ล้านบาทไปก่อนเพราะสามารถแก้ปัญหาได้ทันทีเนื่องจากปัญหาเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น วันหลังค้าขายดีแล้วกลับมาซื้อใหม่ก็ได้ สำหรับสาขานี้ขายดีก็ไม่ต้องเลิกเพียงแต่หาทำเลใกล้เคียงเช่าทำกิจการต่อไปและต้องแจ้งลูกค้าให้ทราบทั่วถึงก่อนย้าย เธอก็ได้นำไปปรึกษาคุณพ่อก็ได้รับการเห็นชอบ และคาดว่าจะสามารถแก้ไขในเร็ว ๆ นี้ นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เด็กผู้หญิงกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยเพียงแค่ปีหนึ่ง ก็ต้องหยุดเรียนมาช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนเพื่อครอบครัว น้อง ๆ จะต้องใช้จ่ายเรียนหนังสือ และดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยดี และนี่ก็คืออีกตัวอย่างหนึ่งที่ต้องพยายามต่อสู้เพื่อกำหนดอนาคตของตน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะช่วยคุณพ่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยดีและขอเป็นกำลังใจให้เธอด้วยคนนะครับ จากตัวอย่างต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วขอเป็นกำลังใจให้นักสู้ทั้งหลายสามารถฟันฝ่าปัญหาวิกฤตต่าง ๆ ไปได้ด้วยความพยายาม ความอดทนและความอุสสาหะนะครับ ธนพล ก่อฐานะ ที่ปรึกษา SMEs ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ฝ่ายประสานและบริการ SMEs
จากบทความข้างต้นผู้เขียนอยากที่จะให้ข้อคิดในแง่ต่าง ๆ เพื่อให้ท่านทั้งหลายเห็นว่าเราสามารถต่อสู้เอาชนะอุปสรรคได้อย่างแน่นอนถ้าเราพยายาม สำหรับเรื่องทุนมนุษย์ ผู้เขียนอยากจะแนะนำว่าถ้าเราเป็นพ่อหรือเป็นแม่เราต้องพยายามสอนลูก สอนหลานให้เรียนหนังสือ(ในปัจจุบันรัฐบาลมีโครงการเรียนฟรี) ให้เขาเหล่านั้นเข้าใจว่าการเรียนดีอย่างไร และพยายามให้เขาเหล่านั้นเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะมีความสามรถ ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะว่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะเป็นพื้นฐานให้ลูก หรือหลานของเราก้าวไปในอนาคตได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ และถ้าท่านเป็นคนที่กำลังอยู่ในวัยศึกษา (การศึกษาไม่มีวันหมดอายุ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือการศึกษาสามารถทำได้ตลอดเวลาตราบใดก็ตามที่ยังมีชีวิต Life Long Learning ) และเริ่มเข้าใจ หรือเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ผู้เขียนขอให้ท่านตระหนักว่าถ้าท่านต้องการอนาคตที่ดี ท่านต้องพยายามเรียนให้มากและดีที่สุดเท่าที่ท่านมีความสามารถ
ระยะกลาง ผู้เขียนอยากให้มามองถึงชีวิตช่วงการทำงาน หรือช่วงหาประสบการณ์นั่นเอง บางคนเรียนหนังสือมาไม่เท่ากัน แต่คนที่เรียนหนังสือน้อยอาจจะแซงหน้าคนที่เรียนหนังสือมาก หรือเรียนหนังสือดีกว่าในเรื่องทุนมนุษย์ (Human Capital)ได้ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างที่หลาย ๆ คนมีประสบการณ์และก้าวกระโดดมาเป็นเศรษฐี หรือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้หลาย ๆ คน แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดี จึงอยากฝากให้ท่านทั้งหลายถ้ามีสิทธิเลือกได้ให้เลือกเรียนไว้ก่อน สำหรับช่วงการทำงาน ผู้เขียนอยากจะแนะนำให้ลองมองไปข้างหน้าว่าเราอยากจะเป็นอะไร แต่ให้ลองเลือกไว้สัก 3 อย่างเช่น
1. อย่างแรกขอให้เลือกเป้าหมายที่ดีที่สุด ที่คาดว่าจะทำไม่ได้แต่อยากจะคาดหวังให้ได้เป็น (ต้องเป็นเรื่องที่ดีและถูกต้อง)
2. อย่างที่สองให้เลือกถึงเป้าหมายที่คาดว่าจะทำได้
3. ให้เลือกทางเลือกแผนสำรองถึงเป้าหมายที่ต้องเป็นและอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อน
เมื่อเราเลือกเป้าหมายแล้วลองวางแผนว่าเราควรจะเลือกเรียนอย่างไร เลือกเรียนอะไรและต้องมีประสบการณ์อะไรถึงจะสามารถทำให้เราได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น ถ้าเราจะเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรก็ตาม เราควรมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องนั้น ๆ และที่ดีที่สุดคือเราควรมีความรู้ในธุรกิจนั้น ๆ ในหลาย ๆ ด้านของธุรกิจนั้นเพราะทุกประเด็นมีผลต่อความสำเร็จทั้งนั้น ยิ่งมีมากโอกาสของความสำเร็จยิ่งมาก
สำหรับระยะยาว ผู้เขียนอยากจะแนะนำว่าให้นำเรื่องต่าง ๆ ของระยะสั้นและระยะกลางมาสร้างเป็นระยะยาวของตัวเอง แต่ผู้เขียนอยากจะแนะนำให้เรียนรู้ทฤษฎี 8K’s และ 5K’s ของอาจารย์ ศ.ดรจีระ หงส์ลดารมภ์ และนำมาปฏิบัติเพื่อแผนระยะยาวของตัวท่านเอง เช่น ทุน ทางจริยธรรม Ethical Capital ,ทุนแห่งความสุข Happiness Capital และทุนแห่งความยั่งยืน Sustainability Capital เป็นต้น ซึ่งผู้เขียนได้นำมากล่าวไว้ตอนก่อนหน้านี้แล้วนะครับ
บทความนี้เน้นให้เห็นว่าการศึกษาสำคัญมากกับทุนมนุษย์ และความพยายามไม่ใช่รอโชควาสนา สำคัญที่สุด
เรียนคุณธนพลที่รัก.....
บทความเรื่องทุนมนุษย์ น่าสนใจมาก คิดว่าผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องนี้จะได้รับประโยชน์ และสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคนในองค์กรให้ก้าวหน้าได้อย่างดี การให้ทานทางความรู้ถือเป็นการให้ทานที่สำคัญยิ่ง
ขอชื่นชมด้วยความจริงใจ
รักและเคารพเสมอ
Jiraphorn
ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ผมจะพยายามเขียนเรื่องดี ๆ ให้มาก ที่สุดครับ