วันนี้ที่รอคอย


วันนี้ที่รอคอย

ขณะดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า พวกเรากำลังสาละวนกับผู้ป่วยในห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน เตียง1 ทำแผล อีกเตียง 1 กำลังฉีดยา และอีกเตียง 1 ก็กำลังเย็บแผล และได้ยินเสียงดังมาแต่ไกล       โอ๊ย ๆ ฉันปวดท้อง ฉันจึงได้หันไปตามเสียงนั้นทันที และได้เห็นหญิงท้องแก่ เดินย่างก้าวขึ้นมาบนทางลาดของโรงพยาบาล พร้อมเอามือทั้ง 2 ข้างประคองไว้ที่ท้องด้วยความระมัดระวังหัวคิ้วทั้ง 2 ข้างของเธอขมวดเข้าหากัน แล้วเธอก็หันมาบอกฉันว่า   หนูเจ็บท้อง หนูเจ็บท้องคะหมอ ฉันจึงได้เดินเข้าไปหาเธอและสัมผัสท้องเธอเบา ๆ และรู้สึกว่าท้องของเธอแข็งตึง ฉันจึงช่วยพยุงเธอให้เธอนั่งบนเก้าอี้หน้าห้องบัตร พร้อมทั้งหันหน้าไปเรียกพนักงานเปลมารับเธอ พนักงานเปลได้ยินเสียงเรียกจึงวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับรถเข็นนั่ง และบอกเธอว่า  ค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วนั่งลงบนรถเข็นเพื่อจะพาเธอไปห้องคลอด ขณะที่นั่งรถเข็นเธอได้บอกฉันว่า ฉันจะคลอดได้หรือ ท้องฉันใหญ่มาก และฉันต้องเบ่งไม่เป็นแน่น ๆ ฉันจะมีแรงเบ่งหรือหมอ สารพัดคำถามที่เปล่งออกมาจากปากของเธอ  ฉันจึงค่อย ๆ เอามือไปจับที่ไหล่ของเธอเบา ๆ และอีกมือหนึ่งเอื้อมไปลูบหน้าท้องเธอเบาๆ และบอกว่า ใจเย็น ๆ หายใจเข้าไปลึก ๆ ยาว ๆ ไม่มีอะไรหน้ากังวล พวกเราจะอยู่ข้าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเธอ เธอหันมายิ้มและบอกว่า   จริง ๆ นะ

                เวลาได้ล่วงเลยไป จึงทำให้เธอเกิดความวิตกกังวลใจมาก  ถึงแม้ว่าฉันและพยาบาลพูดถึงเหตุผลและให้การดูแลช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดี  แต่เธอก็มิได้คลายความกังวลลงยังขมวดคิ้ว 2 ข้าง  ฉันจึงเข้าไปปลอบเธอโดยใช้มือสัมผัสที่แขนเธอเบา    และบอกว่า  เธอไม่ต้องกลัวนะคะ  ลูกในครรภ์เธอยังแข็งแรงดี ถ้าเธอเจ็บครรภ์ถี่ขึ้น เธอก็จะคลอดเร็วขึ้น  เธอหันมาสบตาและจับมือฉันเบา  ๆ หลังจากนั้นปากมดลูกของเธอก็เปิดหมด ฉันจึงย้ายเธอเข้าไปในห้องคลอด เพื่อเริ่มเบ่งคลอด เธอเบ่งไปได้สักพัก สีหน้าของเธอซีดผาดแทบไม่มีสีเลือด ขมวดคิ้วเข้าหากัน 2 ข้าง ปากแห้ง  น้ำตาคลอเบ้าตา 2 ข้าง และเธอก็ถามฉันว่า เธอจะคลอดได้ไหม เธอหมดแรงเบ่งแล้ว  ฉันใช้มือสัมผัสที่มือของเธอเบา  ๆ พร้อมทั้งใช้ผ้าเย็น ๆ ซับไปที่ใบหน้าของเธอ และจึงตอบเธอว่า ไม่เป็นไร ทำใจให้สบายแล้วค่อย ๆ เบ่งไปเรื่อย ๆ  ถ้าเธอไม่สามารถคลอดได้ คุณหมอจะช่วยเธอเอง หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเธอก็ยังเบ่งคลอดไม่ออก แพทย์จึงได้ช่วยคลอดด้วยเครื่องดูดสุญญากาศและ เธอได้คลอดบุตรเป็นลูก สาว น้ำหนัก 3,000 กรัม หน้าตาน่ารัก ผิวขาว ร้องเสียงดัง เธอยิ้มพร้อมน้ำตาคลอเบ้า และบอกกับฉันว่า   ขอบคุณมากนะที่ดูแลและช่วยเหลือฉันตลอด ฉันหายเหนื่อย หายปวดเป็นปิดทิ้ง สมกับเป็นวันที่ฉันรอคอยมาตลอดทั้ง 9 เดือน

                7 หลังคลอด ฉันพบเธออีกครั้ง เธอเดินเข้ามาขมวดคิ้ว 2 ข้างเข้าหากัน และค่อย ๆ ก้าวขาเดินแต่ละครั้งอย่างช้า ๆ ด้วยความระมัดระวัง และบอกฉันว่า   เธอปวดแผลมาก  ฉันได้ตรวจแผลฝีเย็บของเธอ พบว่าแผลฝีเย็บของเธอแยกออกจากกัน พร้อมทั้งมีตกขาวคล้ายแป้งเปียกสีขาว มีกลิ่นเหม็นไหลจากช่องคลอดตามแนวทางของระบบดูแลผู้ป่วย  ฉันนั่งลงข้างเธอ  แตะไหล่เธอเบา    พร้อมแนะนำวิธีการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อไปรับประทานที่บ้าน

                ในใจคิดว่า  อยากจะไปเยี่ยมบ้าน  เพื่อดูสภาพแวดล้อม  การมีส่วนร่วมของครอบครัวอีก 2 วันต่อมา ฉันและทีมงานจึงได้เดินไปดูเธอที่บ้าน ขณะที่พวกเราเดินทางไป ระยะทางระหว่างบ้านเธอและโรงพยาบาลไกลกันมาก พวกเราหลงทางขับรถเลยบ้านและถามหาบ้านของเธอจากชาวบ้านก็ไม่มีใครรู้จักชื่อของเธอ แต่พวกเราก็พยายามไปเรื่อย ๆ จนมาพบลุงแก่ ๆ ใส่เสื้อม่อฮ่อมสีเทา และกางเกงขาสั้น บนศีรษะโพกด้วยผ้าขาวม้า นั่งเลี้ยงวัวอยู่ข้างทาง พวกเราจึงถามลุงถึงชื่อของเธอ ลุงตอบว่า ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย พวกเราจึงถามถึงชื่อสามีของเธอ ลุงร้อง  อ๋อ และชี้ไปตามทางลูกรัง  ฉันคิดในใจว่า  ทำไม่ถึงต้องเหนื่อยขนาดนี้  ซึ่งงานที่รับผิดชอบเป็นงานในห้องคลอดอย่างเดียว  แต่ต้องมาขับรถไกลขนาดนี้  แต่เมื่อฉันคิดถึงเธอ  ซึ่งเป็นคนไข้ที่เขามีแผลแยก  ฉันรู้สึกอยากไปพบเธอทันที  ฉันตัดสินใจขับรถไปตามทางที่ลุงชี้ให้ ซึ่งเป็นถนนลูกรังสีแดง ข้าง ๆ ทางมีแต่ต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งใบเหลือง   บางต้นก็มีแต่ตอ เราจึงขับรถไปเรื่อย ๆ  ประมาณ 2 3 กิโลเมตรก็พบบ้านไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนสูงตั้งอยู่หลังเดียวโดด ๆ  เธอเดินเข้ามาหายิ้มรับพร้อมกับยกมือไหว้ฉัน  ฉันยกมือไหว้ เธอยิ้มอีก และถามว่า วันนี้หมอมาทำอะไร  ฉันจึงตอบว่า มาเยี่ยมดูว่าสบายดีหรือเปล่า แผลติดดีหรือยัง    เธอยิ้มรับและบอกว่า ดีขึ้นกว่าเดิม ปวดท้องน้อยลง ฉันเดินได้คล่องตัวขึ้น   ฉันจึงตรวจดูแผลของเธอก็พบว่าแผลไม่มีกลิ่นเหม็น และฝีเย็บเริ่มชนกันบ้างแล้ว และทำความสะอาดแผลให้เธอและถามกลับถึงวิธีการดูแลแผลอีกครั้งเธอตอบได้ถูกต้อง  ขณะพูดแววตาเธอสดใสยิ้มรับและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตะวันเริ่มลับฟ้า  ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฉันจึงลากลับด้วยความภาคภูมิใจ

 หลังจากนั้นฉันได้พบเธออีกครั้ง  เธอเดินอุ้มลูกน้อยมาคลินิกพัฒนาการเด็กด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเดินเข้ามาทัก และบอกว่า   ขอบคุณหมอมากนะแผลฉันหายดีแล้ว ขอบคุณที่แนะนำและให้การช่วยเหลือฉันมาตลอดจนแผลหาย ฉันไม่คิดเลยว่า สิ่งที่ฉันทำ จะทำให้หญิงคนหนึ่งมีรอยยิ้มที่แจ่มใสโดยไม่พบภาวะแทรกซ้อนใด ๆ

คำสำคัญ (Tags): #วันนี้ที่รอคอย
หมายเลขบันทึก: 280746เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2009 17:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท