แผนกตรวจครรภ์ของโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งของเมืองขนมหวาน ล้อมรอบด้วย ทุ่งนาข้าว ต้นตาล มีหญิงสาวหน้าตาสวย น่ารัก ผมตรงยาว มัดผมไว้ที่ท้ายทอย ผิวสองสี ผิวละเอียด พูดจาไพเราะ ลงท้ายว่า “ ค่ะ ” ทุกคำ เธออายุ 25 ปี มาฝากครรภ์เพียงผู้เดียว ทราบว่าสามีอายุ 60 ปี เธอไม่ใช่คนที่นี่ มาจากภาคอีสาน ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และเธอฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง
ใกล้ครบกำหนดคลอดเธอมาไม่ค่อยได้ เนื่องจากไม่มีพาหนะมา เธอต้องขี่จักรยานยนต์มาเอง
มาทราบภายหลังว่า เธอเป็นภรรยาคนใหม่ของพ่อเพื่อนของฉัน ซึ่งหายไปหลายสิบปี หายไปกับอาชีพค้าวัว ฉันนึกออก สามีของเธอเป็นคนหล่อ หน้าตาดี เคยได้ข่าวว่าเขาไปมีเมียใหม่ ทิ้งให้แม่ของเพื่อนของ ฉันทนทุกข์ทรมานใจ และเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนตามลำพังจนเพื่อนข้าพเจ้าได้ดีเป็นครูไปแล้ว
พ่อของเพื่อนของฉัน เคยเอาลูกเมียคนหนึ่งมาให้แม่ของเพื่อนของฉัน เลี้ยงลูกจนโต อยู่มาไม่นานก็พาคุณโสภาคย์ มาอยู่ด้วยพร้อมลูกชายของคุณโสภาคย์(ฉันขอเรียกว่า “หนุ่ม”) อายุประมาณ 15 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 ที่โรงเรียนประจำอำเภอ พ่อมีวัว 2 ตัวไว้ให้เขาเลี้ยง มีจักรยานยนต์ให้เขา 1 คัน ทุกเช้าเขาจะต้องเกี่ยวหญ้าให้วัว ตอนเย็นเลิกเรียนจะกลับจากโรงเรียน เอาวัวกินหญ้าแถวคันนา เมื่อแม่มาฝากท้อง เขาต้องให้แม่ซ้อนท้ายไปฝากท้อง ที่โรงพยาบาล ตอนกลางวันจะมารับแม่กลับไปบ้าน ส่วนพ่อมักไปคุยกับพวกขายวัวด้วยกัน
หนุ่มและแม่ดีใจที่พ่อปลูกบ้านให้แยกต่างหากจากครอบครัวเดิมของพ่อ เป็นบ้านปูน ชั้นเดียว มีห้องนอน 1 ห้อง เป็นห้องโล่งและครัวรวมกัน พ่อคงเข้าใจในความรู้สึกของเมียและลูกที่จากบ้านมาไกล
เมื่อโสภาคย์ ท้องได้ประมาณ 7 เดือน สามีเธอเสียชีวิตเธอจึงลำบาก ไม่มีหัวหน้าครอบครัวที่จะหารายได้ มาจุนเจือในครอบครัว ลูกชายคนโตกำลังเรียน เธอกำลังท้องแก่จะไปรับจ้างทำงานใครจะรับ เธอกลุ้มใจ เครียด ฉันตรวจท้อง พบว่า น้ำหนักลูกในท้องของเธอมีโอกาสคลอดมาน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 gms. จึงแนะนำเรื่องอาหาร ต้องกินอาหารจำพวก เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว นม ถามว่าโสภาคย์ เธอกินนมวันละกี่กล่อง เธอบอกว่า ” กล่องเดียว” ทราบว่าสามีเธอเสียชีวิตจึงเข้าใจและรู้สึกสงสารเธอ จึงแนะนำให้เธอกินไข่เพิ่มจากวันละ 1 ฟอง เป็น 2 ฟอง ทุกวัน พักผ่อนกลางวันและกลางคืนรวมกันให้ได้ 10 ชม. ลูกเธอจะออกมาน้ำหนักดี ตามที่เคยมีงานวิจัยไว้ จากนั้นฉันจึงส่งโสภาคย์พบแพทย์ เธอได้รับยาบำรุง Nataral , FBC, Folic , Cypro กลับไปรับประทานที่บ้าน ฉันได้เน้นย้ำให้เธอ ”กินอาหาร ยาบำรุง พักผ่อนอย่างเพียงพอ นึกถึงลูกในท้องเป็นสำคัญ ลูกที่เป็นตัวแทนของสามีที่ทิ้งไว้ให้เป็นครั้งสุดท้าย” เธอบอกว่า “ จะทำให้ดีที่สุด ”
กว่าเธอจะคลอดมองดูว่า เธอทุกข์ใจเป็นอันมาก ลูกชายต้องเป็นผู้พาแม่มาฝากครรภ์ เมื่อวันที่แม่เจ็บครรภ์คลอด ลูกชายคนโตต้องขาดโรงเรียนพาแม่มาคลอด เฝ้าดูแลแม่ โดยไม่ได้ไปโรงเรียนประมาณ 1 สัปดาห์ ระยะที่แม่คลอดใหม่ ๆ ยังไปไหนมาไหนไม่ได้ ลูกชายเป็นผู้หาซื้อกับข้าว อาหารต่าง ๆ ดูแลแม่แทนพ่อที่จากไป โสภาคย์และลูกต่างรู้และเข้าใจว่าต้องอดทน เข้มแข็ง ลูกของโสภาคย์ คลอดมาเป็นเพศชาย น้ำหนัก 2,700 gms หน้าตาหล่อ จมูกโด่ง เหมือนพ่อ แผนกหลังคลอด ผู้ช่วยเหลือคนไข้พามาฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคและวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ได้แนะนำการปฏิบัติตนหลังรับวัคซีนกับโสภาคย์ “ ห้ามแกะ หรือเกาบริเวณแผล จะทำให้แผลอักเสบ ติดเชื้อได้ ” พร้อมทั้งต้องฉีดวัคซีนครั้งต่อไป จากนั้นนัดมาตรวจหลังคลอด เธอถามว่า “ ฉีดที่อนามัยได้ไหม” ฉันตอบว่า “ ได้” คิดในใจว่าเธอคงพาไปฉีดที่สถานีอนามัยใกล้บ้านในเพชรบุรี หรือไม่ก็กลับมาฉีดที่โรงพยาบาลของเรา
หลังคลอดโสภาคย์เสียเลือดมาก ความเข้มข้นเลือด 20 % ต่ำกว่าเกณฑ์ แพทย์จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ก่อนที่โสภาคย์จะถูกส่งตัวไปรับเลือด ได้ถูกส่งตัวจากแผนกหลังคลอด โดยมีผู้เหลือคนไข้เข็นรถเข็นมา เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนหลังคลอด พร้อมนำลูกมารับวัคซีนป้องกันวัณโรค และวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
วันนี้ฉันต้องฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคเอง เนื่องจากพยาบาลเจ้าของงานที่ฉีดวัคซีนประจำ มือ1และมือ 2 ไปอบรมที่อยุธยา ฉันจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเอง ฉันเป็นพยาบาลมา 19 ปี เคยฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค สมัยอยู่ที่สถานีอนามัยเมื่อมาอยู่โรงพยาบาลรับผิดชอบงานอื่น ไม่ได้รับผิดชอบงานสร้างเสริมภูมิคุ้มโรคการปลูกฝี ฉีดวัคซีนป้องกันวัคโรค ค่อนข้างยาก เนื่องจากเด็กมักจะดิ้น ต้องปลูกฝีในหนัง ก่อนหน้านี้ฉันได้ซักซ้อมการฉีดวัคซีนจากเจ้าของงานทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เมื่อโสภาคย์มาถึงห้องส่งเสริมสุขภาพฉันได้พูดคุยกับโสภาคย์ “วันนี้จะฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคให้ลูกประมาณ 1 เดือน จะมีตุ่มขึ้นที่หัวไหล่ข้างขวา ห้ามแกะเกลา ไม่ต้องใส่ยาใด ๆ ทั้งสิ้น และนัดมารับวัคซีนครั้งต่อไป อาจจะเป็นที่สถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลก็ได้” จากนั้นแนะนำเรื่องการประเมินกราฟโภชนาการ พัฒนาการ จากนั้นนัดตรวจหลังคลอด1-11/2เดือน จะตรวจมะเร็งปากมดลูกให้ด้วยต้องเป็นช่วงที่ไม่มีประจำเดือนและน้ำคราวปลาหมดแล้ว จะนัดคุมกำเนิดให้ถ้าสามียังอยู่ด้วยกัน (ฉันไม่ได้พูดให้โสภาคย์ช้ำใจ) จากนั้นฉันกับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลเริ่มปฏิบัติการฉีดวัคซีน ฉันเตรียมวัคซีนตามที่ซักซ้อมไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลซึ่งเป็นคนบุคลิกแคล่วคล่องว่องไว มั่นใจ ลักษณะตากลมโต ปัดขนตางอน ผิวเข้ม หุ่นดี ช่วยฉันจับลูกของโสภาคย์ ตะแคงเอาไหล่ขวาขึ้น เอาผ้าพันรอบตัวเด็ก เปิดไหล่ขวาไว้ นอนบนผ้าที่ปูรอง ลูกของโสภาคย์นอนกระดุกกระดิกเมื่อถูกยึด ไหล่ขยับตลอดเวลา ฉันจะสอยเข็มดีหรือจะรอจังหวะให้เด็กหยุดขยับดี ดูแล้วไม่หยุดซักที ฉันกับน้องคนสวยที่ช่วยยึดเด็กมองหน้ากันตกลงใจพยักหน้า “จะเอาแล้วนะ ” ฉันส่งสัญญาณจึงตัดสินใจสอดเข็มเข้าในหนัง เด็กดิ้นมากจนเข็มเริ่มถอยออก ฉันจึงต้องดึงปลายเข็มเข้าไปอีก ไม่อย่างนั้นวัคซีนจะไหลตามเข็มออกมา ได้รับเลือด การฉีดวัคซีนจบลง ตุ่มที่ฉีดลักษณะสวยพอควรกับ case แรกในรอบ 10 ปี ของฉัน เมื่อลงบันทึกการฉีดเรียบร้อยฉันจึงโทรตามผู้ช่วยเหลือคนไข้จากแผนกหลังคลอดมารับโสภาคย์และลูกชาย ระหว่างรอฉันรู้สึกสงสารโสภาคย์อย่างบอกไม่ถูกที่ดูลักษณะใบหน้าตาเหลือง ซีด ดูท่าทางเหนื่อย คงเกิดจากความเข้มข้นเลือดต่ำ จากการตกเลือดหลังคลอด เธอบอกว่า“หมอจะส่งไปให้เลือด” ฉันบอกว่า “ต้องไปนะจะได้ดีขึ้น แล้วสอบถามว่า ใครจะไปดูแล โสภาคย์บอกว่าลูกคนโตไปด้วย ” สรุปแล้วหลังจากถูกส่งตัวไป โรงพยาบาลพระจอมเกล้าพร้อมลูก เธอได้รับเลือด 1 ยูนิต พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 1 สัปดาห์ มีลูกชายคนโต เฝ้าดูแลอยู่ตลอด 2 สัปดาห์ โดยขาดเรียนตลอด
หลังคลอด 7 วัน พบโสภาคย์มาตรวจแผลฝีเย็บที่ห้องรอคลอด ข้าพเจ้าถามถึงลูก โสภาคย์ บอกว่า ” สบายดี ” วันหนึ่ง ฉันไปพบโสภาคย์ที่ตลาดนัด กำลังซื้อของกิน จึงถามเรื่องแผลเป็น ที่ฉีดป้องกันวัณโรค เธอบอกว่า “แผลเป็นขึ้นแล้ว เป็นตุ่มนิดหนึ่ง” จากนั้นข้าพเจ้าจึงย้ำให้มาตรวจหลังคลอด เธอบอกว่า ”จะมา”
จากวันนั้นถึงวันนี้ ฉันยังจำภาพดี ๆ เธอเป็นหญิงที่ได้พยายามทำทุกอย่างตามคำแนะนำของพวกเรา ที่ให้ดูแลสุขภาพ เพื่อให้ลูกที่เกิดกับสามีที่เธอรัก ออกมาแข็งแรง สมบูรณ์ เธอเคยบอกว่าสามีเธอเขารักมาก มีเธอก่อน ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แค่เธอเชื่ออย่างนั้น เธอก็ปฏิบัติสิ่งที่ดีๆเพื่อลูกของเธอ
มารู้ที่หลังว่า สามีเธอเล่นไพ่ไม่ได้นอนทั้งคืน ตอนเช้าเพื่อนส่งกระทิงแดงให้กิน จึงหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิต
ต่อมาประมาณ 1 เดือน ทราบข่าวจากแม่ของเพื่อนซึ่งเป็นเมียหลวงว่า โสภาคย์ ย้ายกลับอยู่ที่บ้านกับแม่ของเธอทางอีสาน เอารถยนต์คันเข็นวัว 2 ตัวไปด้วย ลูกชายคนโตย้ายโรงเรียน ไปกันหมดทั้งบ้าน ทิ้งบ้านไว้ไม่ได้รื้อไป
ข้าพเจ้ามาคิดดู เธอคิดตัดสินใจถูก ที่กลับไปหาคนที่รักเธอที่สุด คือแม่ของเธอ อยู่ทางนี้ถึงแม้เมียหลวงจะดีกับเธอ แต่ที่นี่ไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว สามีจากเธอไปแล้วเธอจะอยู่ให้เจ็บช้ำใจ ให้ใครมองเธอว่ามาแย่งสามีคนอื่นทำไม ในที่สุดเธอจึงกลับไปหาคนที่พร้อมจะอ้าแขนรับเธอทุกวินาที
ไม่มีความเห็น