เรื่องของ “โป๊งเหน่ง”


เรื่องของ “โป๊งเหน่ง”

ฉันพบ โป๊งเหน่งในวันที่ฉันนำทีมงานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน โรงพยาบาลบ้านลาด ไปตรวจสุขภาพนักเรียนที่โรงเรียนในความรับผิดชอบของโรงพยาบาล     โป๊งเหน่ง เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แต่งกายด้วยชุดกีฬาของโรงเรียน รูปร่างผอมสูง ผิวสองสี ผมซอยสั้น ใบหน้าเรียบเฉย การตรวจสุขภาพร่างกายเบื้องต้น พบว่า คอโต

ฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพ ซักประวัติส่วนตัว ประวัติครอบครัว พฤติกรรมการบริโภคอาหาร อาการและอาการแสดง พบว่า โป๊งเหน่ง คลอดที่ โรงพยาบาลทั่วไปในจังหวัด พ่อภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช แม่ภูมิลำเนาอยู่อำเภอบ้านลาด ปัจจุบัน พ่อแม่ไม่อยู่ ไปทำงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โป๊งเหน่ง อยู่กับยายและน้าสาว อาหารที่รับประทานยายเป็นผู้ปรุง ยายชอบผัก น้ำพริกไม่ค่อยได้รับประทานอาหารทะเล สังเกตว่ายายใช้เกลือเม็ดปรุงอาหาร

ฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพ วินิจฉัยเบื้องต้นว่า โป๊งเหน่ง อาจเป็น Hypothyroidism ชนิดหนึ่ง คือ คอพอก จากการขาดสารไอโอดีน จึงปรึกษาท่านผู้อำนวยการโรงเรียน คุณครูที่รับผิดชอบงานอนามัยโรงเรียน คุณครูประจำชั้นและแนะนำให้ โป๊งเหน่ง ไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลบ้านลาด โดยบอกว่า

หนูสงสัยว่าโป๊งเหน่ง อาจเป็นโรคคอพอกจากการขาดสารไอโอดีน แค่สงสัยนะคะ ต้องไปตรวจอย่างละเอียดเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลค่ะ

ครูประจำชั้น ถาม โป๊งเหน่ง ว่ามีคนพาไปมั้ย โป๊งเหน่ง บอกว่า ไม่มีคนพาไป น้าสาวต้องไปทำงานทุกวัน ฉันจึงบอกคุณครูว่า

ก็ให้ไปโรงพยาบาลพร้อมพวกหนูนี่แหละ เดี่ยวตรวจเสร็จเรียบร้อยหนูกลับมาส่งที่โรงเรียนคุณครูประจำชั้นรีบบอกว่า

ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมพาไปเอง นี่ก็ใกล้เวลาพักกลางวันแล้ว ให้เด็กและผม   กินข้าวก่อน หมอก็จะได้ไปกินข้าว ไม่ต้องวิ่งรถกลับไป กลับมา เปลืองน้ำมันแย่ พาไปตรวจให้รู้แน่ชัด จะได้รักษาให้เรียบร้อย ปล่อยไว้ก็ไม่มีผู้ปกครองพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวไม่ได้รักษาอย่างทันท่วงที

ฉันได้ฟังคุณครูประจำชั้นของ โป๊งเหน่ง พูดน้ำเสียงแสดงความจริงใจและห่วงใยลูกศิษย์ คุณครูผู้นี้มีวิญญาณของความเป็นครู ซึ่งเป็นพ่อ แม่ คนที่ 2 ของนักเรียน อย่างแท้จริง ฉันรู้สึกปลื้มใจมาก ทีมงานทุกคนก็รู้สึกได้เช่นเดียวกับฉัน

ฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพ เดินทางกลับถึงโรงพยาบาลก็ได้เวลาพักกลางวัน ห้องบัตรปิดรับบัตรแล้ว น้องที่อยู่เวรเที่ยงกำลังรับประทานอาหาร ฉันนึกได้ว่าลืมถาม โป๊งเหน่ง ว่ามีบัตรทองหรือไม่ และรักษาได้ที่ไหน ฉันจึงเดินตรงไปที่ห้องงานประกันสุขภาพ เป็นโชคดีของฉันที่หัวหน้างานประกันสุขภาพยังคงนั่งทำงานอยู่ ฉันจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พร้อมขอให้ช่วยตรวจสอบสิทธิ             การรักษาพยาบาลของ โป๊งเหน่ง

พี่ต๋องคะ หนูมีเรื่องรบกวนค่ะ เมื่อเช้านี้หนูกับเพื่อนในห้องไปตรวจสุขภาพนักเรียน พบนักเรียนหญิงคนหนึ่งคอโต สงสัย Hypothyroidism เดี๋ยวช่วงบ่ายคุณครูประจำชั้นจะพามาตรวจ     หนูลืมถามเรื่องสิทธิการรักษา พี่ต๋องช่วยตรวจสอบสิทธิให้เด็กหน่อยนะคะ เด็กยากจนค่ะ อาศัยอยู่กับยายและน้าสาว

ฉันบอกพี่หัวหน้างานประกันสุขภาพ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน พี่หัวหน้างานประกันสุขภาพจึงบอกว่า

ขอ ชื่อและนามสกุลเด็ก เดี๋ยวพี่ตรวจสอบให้ 5 นาที เรียบร้อย ถ้าไม่มีสิทธิการรักษาที่โรงพยาบาลของเรา ก็บอกห้องบัตรให้เด็กใช้สิทธิ UC ฉุกเฉินนะ เด็กจะได้ไม่ต้องเสียเงิน

เมื่อตรวจสอบเสร็จพบว่า โป๊งเหน่ง สิทธิการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลของเรา ฉันจึงโล่งใจ เนื่องจากฉันคิดไว้ในใจว่า โป๊งเหน่ง ต้องมาตรวจที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้งอย่างแน่นอนและอาจจะต้องทำหนังสือส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลทั่วไปด้วย

ฉันรีบรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องทำงาน เวลา 12.30 น. ฉันเดินเตร็ดเตร่ไปที่หน้าห้องบัตรพบน้องที่อยู่เวรเที่ยงกำลังทำบัตรให้ผู้ป่วยรอตรวจรอบบ่าย ฉันจึงแจ้งความประสงค์ขอทำบัตร ขอคิวตรวจไว้รอ โป๊งเหน่ง และคุณครูประจำชั้น

เวลา 12.45 น.โป๊งเหน่ง เดินตามหลังคุณครูประจำชั้นมาที่หน้าห้องบัตร ฉันจึงบอกว่าคุณครูคะ หนูทำบัตรรอไว้แล้ว เดี่ยวไปรอเรียกชื่อซักประวัติที่หน้าห้อง 1 2 เลยค่ะ

เมื่อพยาบาลซักประวัติต่างๆ อาการ อาการแสดง พร้อมให้คำแนะนำการดูแลตนเองและแพทย์ได้ตรวจ โป๊งเหน่งเสร็จเรียบร้อย โดยวินิจฉัยว่าเป็น nontoxic single thyroid nodule ได้ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลทั่วไป คุณครูแจ้งว่าจะไปบอกญาติให้พาไปโรงพยาบาลทั่วไป

                ฉันเดินกลับมาที่ห้องทำงานหลังจากคุณครูและ โป๊งเหน่ง เดินทางกลับแล้ว ฉันปรึกษาทีมงานส่งเสริมสุขภาพและสรุปว่าพวกเราคงต้องไปเยี่ยมบ้านโป๊งเหน่ง  

วันต่อมา ฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง พร้อมนำเกลือเสริมไอโอดีนสำหรับแจกหญิงตั้งครรภ์และชุดทดสอบเกลือ(I – KIT) ที่ทีมงานติดต่อขอมาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไปด้วย จากการพูดคุยกับคุณครูที่ดูแลเรื่องอาหารกลางวันนักเรียนและแม่ครัว พบว่าโรงเรียนใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหารให้นักเรียนอยู่แล้ว เมนูอาหารกลางวันมีอาหารทะเลประมาณสัปดาห์ละ 1 2 วัน ฉันและทีมงานจึงมอบเกลือเสริมไอโอดีนและแนะนำวิธีการเก็บรักษา พร้อมนำเสนอเมนูชูสุขภาพเพื่อป้องกันการขาดไอโอดีนในนักเรียนด้วย

1 สัปดาห์ต่อมาฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพ ได้เข้าไปเยี่ยมบ้าน โป๊งเหน่ง ลักษณะบ้าน 2 ชั้นใต้ถุนสูง พบยายของ โป๊งเหน่ง ได้พูดคุยถึงสมาชิกในบ้าน ยายบอกว่าอยู่กับลูกสาวที่ประกอบอาชีพรับจ้างก่อสร้างและหลาน คือ โป๊งเหน่ง พ่อและแม่ของ โป๊งเหน่ง ไปทำงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กลับมาเยี่ยมบ้านทุก 1 เดือน ยายเล่าว่าหลังจากกลับจากโรงพยาบาลบ้านลาด ได้พา โป๊งเหน่ง     ไปตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลทั่วไป ได้รับการตรวจเลือด ได้ยามารับประทาน 1 ชนิด วันละ 1ครั้ง ๆ ละ 1 เม็ด ฉันดูชื่อยาคือ Eltoxin โรงพยาบาลทั่วไปนัดหมายการตรวจรักษาครั้งต่อไป อีก 3 เดือน

                ฉันได้พูดคุยพร้อมแนะนำเรื่องอาหารที่มีไอโอดีน การใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหาร มอบเกลือเสริมไอโอดีนให้และแนะนำให้ยายใช้เกลือนี้ปรุงอาหาร พร้อมมอบเอกสารเมนูชูสุขภาพเพื่อป้องกันการขาดสารไอโอดีนในนักเรียน

ยายบอกว่า ฉันเป็นคนทำกับข้าว เขากินน้อย ก็ไม่ค่อยซื้ออาหารทะเลกิน มันแพง แม่เขาโทรมาฉันก็เล่าเรื่องให้ฟัง เขาบอกว่าจะกลับบ้านเสาร์นี้ล่ะ บอกว่าเดี๋ยวให้เงินเพิ่มเพื่อจะได้ซื้ออาหารทะเลให้ โป๊งเหน่ง กิน ปกติเขาให้เดือนละ 2,000 บาท

ฉันบอกว่า ยายไม่ต้องซื้อของแพง อาหารทะเลมีหลายอย่างนะ เช่น ปลาทะเล ปลาทูสด ปลาทูนึ่ง ก็ไม่แพงมากนะ กุ้งแห้ง หอยแห้ง กุ้งสด หมึกสด สาหร่ายทะเล กินหมุนเวียนกันไป ไม่อย่างนั้นจะเบื่อแย่เลย

ยายบอกว่า ฉันก็ไม่รู้ว่าจำเป็นต้องกิน แต่ต่อไปนี้ก็จะพยายามซื้อให้หลานกิน และตัวฉันก็ต้องกินด้วยใช่ไหม

                ฉันบอกว่า ทุกคนในครอบครัวควรกินอาหารที่มีไอโอดีนจ๊ะ ถ้าร่างกายเราขาดไอโอดีน ในผู้ใหญ่อาจมีอาการเกียจคร้าน อ่อนเพลีย เชื่องช้า ง่วงซึม ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ผิวหนังแห้ง ท้องผูก เสียงแหบ ทนความหนาวเย็นไม่ค่อยได้ ในเด็กนอกจากอาการที่กล่าวมาแล้ว ยังพบอาการเชื่องช้าทางจิตใจและเชาว์ปัญญาด้วย การปฏิบัติง่ายที่สุดคือการใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหาร

ยายบอกว่าตอนนี้ใช้เกลือที่หมอให้ไปเติมในอาหาร เกลือเม็ดราคาถูกฉันก็เลยใช้เกลือเม็ด ฉันไม่รู้หรอกว่ามีไอโอดีนหรือไม่มี ฉันชอบผัก น้ำพริกและไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ด้วย หลานก็เลยไม่ชอบตามฉัน

ฉันบอกว่า จ๊ะยายชอบผัก น้ำพริกก็ต้องมีปลาทูนึ่งทอดด้วยซิ แต่ห้ามผักดิบ จำพวกกะหล่ำปลี หัวผักกาด ซึ่งเป็นผักที่มีสารที่ทำให้เกิดคอพอก ยายอย่าลืมปรุงอาหารด้วยเกลือเสริมไอโอดีน ทำพริกเกลือจิ้มผลไม้ก็ได้นะ เด็กๆ กินอาหารที่มีสารไอโอดีนจะเพิ่มความฉลาดให้เด็ก ผลการเรียนจะออกมาดี

ฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพ ได้พูดคุยปัญหาสุขภาพกับยายประมาณชั่วโมงกว่าก็ลากลับและแวะส่ง โป๊งเหน่ง ที่โรงเรียน

ทุกวันนี้เมื่อฉันและทีมงานส่งเสริมสุขภาพเข้าไปปฏิบัติงานอนามัยโรงเรียน ฉันจะต้องแวะไปหาและพูดคุยกับ โป๊งเหน่ง ทุกครั้ง สอบถามว่าวันนี้รับประทานอาหารอะไรบ้าง เมนูที่ โป๊งเหน่งบอกฉันจะมีอาหารทะเลทุกวัน ผัก น้ำพริกของยายก็จะมีปลาทูทอดด้วย โดย

โป๊งเหน่ง ยังคงต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทั่วไปตามนัดทุก 3 เดือน ได้ยาคือ Eltoxin มารับประทานวันละ 1 ครั้งๆ ละ 1 เม็ด ฉันได้ค้นประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลทั่วไปที่ตอบกลับมา แพทย์ที่โรงพยาบาลทั่วไปวินิจฉัยว่า              โป๊งเหน่ง เป็น Goiter และ Hypothyroid เรื่องของ โป๊งเหน่งเป็นตัวอย่างของเด็กไทยที่ขาดสารไอโอดีน โดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้เลี้ยงดู พวกเราชาวสาธารณสุขต้องสอดส่องดูแลประชาชนในความรับผิดชอบให้ครบถ้วนทุกกลุ่มวัย คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่า จังหวัดเพชรบุรีที่มีทะเลและอาหารทะเลมากมายจะพบเด็กนักเรียนขาดสารไอโอดีน

 

หมายเลขบันทึก: 280980เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2009 14:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท