แกงกล้วย บ้านกอกหวาน เมนูชูสุขภาพ


มากินแกงกล้วย เพื่อสุขภาพกันเถอะ

แกงกล้วย บ้านกอกหวาน  เมนูชูสุขภาพ

บทนำ

              อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้การนำของท่าน เกรียงเดช วัฒนวงศ์สิงห์ นายอำเภอปรางค์กู่ ได้ริเริ่มโครงการสร้างการเรียนรู้ให้ชุมชน  และมอบหมายให้ทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอปรางค์กู่ โดยการนำของนางทรัพย์สิน โพธิ์ขาว พัฒนาการ อำเภอปรางค์กู่ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ  โดยสนับสนุนงบประมาณ 50,000 บาท ให้หมู่บ้านต้นแบบในการพัฒนาการเรียนรู้ วิเคราะห์ปัญหาชุมชน กำหนดทิศทางชุมชนในอนาคต โดยมีกิจกรรมทางเลือกของชุมชน เป็นเครื่องมือในการสร้างการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของชุมชน

             

บริบทชุมชน

              การดำเนินงานตามโครงการนั้น ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมาย ณ บ้านกอกหวาน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 12 และหมู่ที่ 14 ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ บ้านกอกหวานเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีครัวเรือนทั้งสิ้น  350  ครัวเรือน เป็นชุมชนชาวเขมร พูดภาษาเขมรภาษาถิ่น ภาษาหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษเป็นภาษาหลัก   มีวัฒนธรรมเฉพาะ ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนบ้านกอกหวาน เช่น ประเพณีแซนโดนตา ประเพณีแห่งการเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ โดยมี ขนม  ข้าวต้ม เนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ประกอบพิธีเซ่นไหว้ ที่มักจัดยิ่งใหญ่ตลอดทุกๆปี ในด้านการประกอบอาชีพ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทางด้านเกษตรกรรม ทำนาเป็นหลัก  เลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพเสริม เช่น โค-กระบือ เป็ด  ไก่  เป็นต้น

              ด้านการพัฒนาหมู่บ้าน  บ้านกอกหวานเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง ที่มีผลการพัฒนา ที่มีความโดดเด่น ทั้งด้านการพัฒนาองค์กรชุมชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน มีผ้าไหมที่มีความสวยงาม จนชาวบ้านกอกหวาน ได้สังเคราะห์เป็น  คำขวัญส่งเสริมการพัฒนาของหมู่บ้านดังนี้

                             เขมรกอกหวาน          การศึกษาดี

                             มีผ้าไหมสวย                แกงกล้วยอร่อย

              ผลจากจัดเวทีเรียนรู้ชุมชน เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ชุมชน และค้นหาแนวทางการดำเนินการสร้างการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาหมู่บ้านพบว่าสมาชิกจากประชาคมหมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้าน ได้ คัดเลือกโครงการตามรายละเอียดดังนี้

              บ้านกอกหวาน หมู่ที่ 1 โครงการจำหน่ายอาหารสด   

              บ้านกอกหวาน หมู่ที่ 12 โครงการเพาะเห็ดเพื่อจำหน่าย

              บ้านกอกหวาน หมู่ที่ 14 โครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ

 

แกงกล้วยวัฒนธรรมชาวเขมร  

           ภายหลังจากหมู่บ้านได้คัดเลือกโครงการ/กิจกรรมทางเลือกในการดำเนินการ แล้วอำเภอปรางค์กู่ ได้สนับสนุนงบประมาณตั้งต้นในการดำเนินงาน หมู่บ้านละ 10,000 บาท   และกำหนดแผนการติดตามความก้าวหน้า   ดำเนินงาน 3 เดือน ต่อ 1 ครั้ง

              ในการติดตามโครงการ ครั้งที่ 1 ทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอปรางค์กู่ ได้นัดหมายคณะผู้รับผิดชอบโครงการ   ได้ร่วมกันรายงานความก้าวหน้าโครงการ โดยใช้ประเด็น การสนทนากลุ่มย่อย(Focus Groups)เป็นเงื่อนไข ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้

              จากการติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าว พบว่าชุมชนกอกหวาน ได้แปรแผนชุมชนสู่การปฏิบัติ ได้อย่างเกิดผลเป็นรูปธรรม สร้างการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของสมาชิกได้อย่างดี  โดยเฉพาะบ้านกอกหวานหมู่ที่ 12 ภายใต้ โครงการจัดตั้งกลุ่มจำหน่ายอาหารสด ได้พิจารณาคัดเลือกให้กลุ่มจำหน่าย  แกงกล้วยไก่  หมู  ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้าน/รสเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านกอกหวาน ว่าขึ้นชื่อในอาหาร ประเภทนี้มานาน ไปกอกหวานต้องได้กินแกงกล้วย อะไรประมาณนี้

              จากการบอกเล่าผ่านวงสนทนากลุ่มย่อย พบว่า แกงกล้วยบ้านกอกหวานนั้น เป็นเมนูอาหารที่คู่กับบ้านกอกหวานมานาน สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการทำแกงกล้วยจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งปัจจุบัน เริ่มแรกแกงกล้วยจะเป็นอาหารที่นิยม ประกอบอาหารให้แขกรับประทานกันในงานศพ เนื่องจากแกงกล้วยเป็นอาหารที่ประหยัด สามารถลดรายจ่ายให้เจ้าภาพได้อย่างดี เมื่อมีงานศพในหมู่บ้าน ชาวบ้านกอกหวานต่างแบ่งหน้าที่กันหากล้วย มาประกอบอาหารกัน โดยไปขอกล้วยจากเพื่อนบ้าน ซึ่งปกติชาวบ้านนิยมปลูกกล้วย ชนิดต่างๆไว้ในบริเวณสวนครัวทุกบ้าน สามารถขอกล้วย และแบ่งปันกันได้ ตามวิถีวัฒนธรรมชุมชน

              นอกจากการประหยัดต้นทุนแล้ว ยังพบว่า การรับประทานแกงกล้วย สามารถรักษาโรคได้ด้วยซึ่งกล้วยนั้นมีสรรพคุณ ทางยาเยอะแยะมากมาย ตามคำบอกเล่า

 แกงกล้วย สูตรบ้านกอกหวาน

นางรัตตี ไชยศรีษะ ประธานกลุ่มโรงเรียนชาวนาเกษตรอินทรีย์บ้านกอกหวาน กล่าวว่า ตนเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอด ความรู้การแกงกล้วยจากผู้เฒ่า ผู้แก่มาจนปัจจุบัน การแกงกล้วยนั้น ต้องเลือกชนิดของกล้วยด้วยส่วนใหญ่ จะเลือก กล้วยส้ม กล้วยตีบ กล้วยตีนเต่า   เป็นต้น

   องค์ประกอบของการแกงกล้วยสูตรบ้านกอกหวานมีดังนี้

              1. กล้วย                           2. พริกแห้ง

              3. พริกแกง                       4. ตะไคร้/หัวหอม/กะปิ

              5. กะทิ มะพร้าว 2 ลูก                5. เนื้อสัตว์/ไก่/หมู แล้วแต่ชอบ ปริมาณตามต้องการ

 

              วิธีทำง่ายๆ นำกล้วยดิบมาปอกเปลือกออกบางๆ ให้ถึงเนื้อกล้วย ปอกเสร็จแล้วนำไปแช่น้ำเกลือ เพื่อให้ชิ้นกล้วยไม่เป็นสีดำ จะดูไม่น่ารับประทาน ผ่ากล้วยดิบเป็นชิ้นบางๆเล็กๆ เตรียมเนื้อสัตว์ตามที่ชอบ ตามต้องการ ส่วนใหญ่นิยมประเภท เนื้อไก่ เนื้อหมู

              จากนั้นตั้งกระทะไฟ ใส่น้ำลงไปใส่กะทิมะพร้าวที่เตรียมไว้  ใส่เนื้อและกล้วยสับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสให้มีความอร่อยตามต้องการ ก็จะได้แกงกล้วยที่มีรสชาติอร่อย เมนูสร้างสุขภาพ แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน

 

ประโยชน์ของกล้วย

              หลังจากถอดบทเรียนประสบการณ์ เมนูสุขภาพการทำแกงกล้วยบ้านกอกหวาน แล้วสิ่งหนึ่งที่ค้างคาอยู่ในใจผู้เขียน อย่างยิ่งคือ คำบอกเล่าของชาวบ้านกอกหวาน ที่กล่าวว่าแกงกล้วยมีสรรพคุณทางยา สามารถรักษาโรคได้  นั้น จริงหรือไม่

              ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบโจทย์ดังกล่าว ผู้เขียนจึงได้ติดตามค้นข้อมูล เกี่ยวกับกล้วยพบว่า กล้วยนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่มีอาหารว่างใดดีกว่ากล้วย เพราะกล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาล ตามธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟลุคโทส และกลูโคส ร่วมกับเส้นใยและกากอาหาร นอกจากนั้นกล้วยยังสามารถป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกหลายโรคเช่น โรคโลหิตจาง ความดันโลหิตสูงแก้คัดจมูก  โรคกระเพาะ และสามารถควบคุมอุณหภูมิ ในร่างกาย ได้อีกด้วย

-          โรคโลหิตจาง ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงเป็นตัวช่วยกระต้น การผลิตอีโมโกลบิน ในเลือด

-          โรคความดันโลหิตสูง กล้วยมีธาตุโปรแถสเซียมสูงสุด แต่มีปริมาณเกลือต่ำทำให้ เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยลดอันตราย อันเกิดจากเรื่องความดันโลหิตสูง ได้

บทส่งท้าย

              กระผมขึ้นต้นด้วยโครงการการสร้างการเรียนรู้ให้ชุมชน ณ บ้านกอกหวาน ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ ซึ่งชุมชนกอกหวานได้ค้นพบเอกลัษณ์ และจุดเด่นของตนเอง คือความรู้ในการ แกงกล้วยเมนูสุขภาพ ถือว่าเป็นกิจกรรมการเพิ่มมูลค่าต่อยอด ความรู้ภูมิปัญญา ท้องถิ่นพัฒนาสู่การเพิ่มรายได้ ให้ชุมชนท่านใดมีโอกาสเดินทางผ่าน อ. ปรางค์กู่ ขอเชิญแวะชม แกงกล้วยกอกหวานเมนูสุขภาพ ครับ.......................

                               

ประชามีสุข

หมายเลขบันทึก: 283273เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2009 08:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 11:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายนะคะ
  • โดยสวนตัวแล้วชอบกินกล้วยสดๆ
  • คงต้องลองแกงกล้วยบ้างแล้วล่ะค่ะ
  • ^_^

เพิ่งเคยได้ยินแกงกล้วย  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ขอชื่นชม นี่คือสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง  สมควรต้องรักษา และเผยแพร่ให้ลูกหลานและเหลนได้เรียนรู้สืบต่อไป  ขอบพระคุณ

  • อร่อย... ประหยัด... สดใหม่...ได้สุขภาพ....ฯลฯ....
  • ของชอบของพี่เลยล่ะ...
  • สวัสดีครับ

ขอบคุณครูวุฒิ หลาย ๆ ที่มีภาพประกอบมาเติมเต็ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท