กล้วยในเมืองไทยมีมากมายดังที่กรมส่งเสริมรายงานไว้(กรมส่งเสริมการเกษตร.สรุปผลการจัดงานนิทรรศการและการประชุมสัมมนากล้วยนานาชาติ ครั้งที่ ๑.กรุงเทพฯ ๒๕๔๔) หากจะต้องการทำประโยชน์จากกล้วยมีมากมาย ในที่นี้ขอกล่าวเฉพาะกล้วยน้ำว้าอย่างเดียว เพราะแพร่หลาย หาได้ง่าย มีตลอดปี เริ่มต้น ต้องทำการหมักกล้วยน้ำว้าต้มให้เป็นไวน์กล้วยก่อน การทำไวน์กล้วยได้อธิบายโดยละเอียดแล้วใน:http://GOTOKNOW.ORG/BLOG/HERBLAND/187618 เมื่อได้ไวน์กล้วยหรือน้ำหมักกล้วยน้ำว้าตามต้องการแล้ว ควรลองชิมก่อน หากมีรสหวาน ฝาด หอมฉุนแอลกอฮอล์ นับว่ามาถูกทางใช้ได้แล้ว มีแอลกอฮอล์ประมาณ ๒๐% เมื่อวัดด้วยแอลกอฮอล์มิเตอร์ จะได้แอลกอฮอล์ชนิดเอทธิลเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นเทน้ำกล้วยหมักลงในหม้อต้ม (เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องต้ม กลั่น อบ สมุนไพร ระบบดิจิตอลของห้องปฏิบัติการพืชสมุนไพร (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) (HTTP://GOTOKNOW.ORG/BLOG/HERBLAND/187618 ) เติมน้ำหมักลงไปไม่เกิน๕๐ลิตร ถังต้มมีความจุ๖๐ลิตร ตั้งอุณหภูมิไว้ ๘๐ องศาเซลเซียส นานประมาณ ๓ ชั่วโมง กลั่นผ่านขดแก้ว(CONDENSER ยาว ประมาณ ๕๐ ซม.) เตรียมถังน้ำดื่มบรรจุ ๒๐ลิตรไว้รองรับแอลกอฮอกลั่นที่ออกมาจากคอนเดนเซอร์เมื่อครบเวลาให้ปิดเครื่อง นำผลิตภัณฑ์ที่ได้มาวัดแอลกอฮอล์จะมีแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ ๔๕% น้ำที่เหลือในถังต้มเอาไปทำปุ๋ยน้ำชีวภาพต่อไป เตินน้ำผึ้งลงไปในแอลกอฮอล์ที่กลั่นได้นั้นประมาณ ๓๐% เขย่าให้เข้ากัน ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในห้องที่เย็นแห้ง ไม่ถูกแสง นาน ๑ เดือน จึงนำมารับประทาน ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีสีน้ำผึ้ง หอมกลิ่นกล้วยน้ำว้า หวานเล็กน้อย มีแอลกอฮอล์ที่ ๔๐% ผลิตภัณฑ์นี้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กล้วยน้ำว้า ๑๐-๒๐เท่า เป็นเครื่องดื่มรสเลิศ หรือใช้ผสม ใช้สกัดสมุนไพรที่ต้องการแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายได้อย่างดียิ่ง
ชอกข้อมูน