ระหว่างค้นคว้าทำ literature review ผมได้มีโอกาสไปอ่านบทความ web 3.0 "vague, but exciting" ของ Greg Smith ผู้ดำรงตำแหน่ง COO ของ Neo@Ogilvy เอเยนซี่ดิจิตอลมีเดียรายใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา ใจความหลักของเรื่องนี้เขียนไว้ให้นักการตลาดได้คิดเกี่ยวกับการเข้ามาของเทคโนโลยีตัวใหม่ๆ และความสำคัญที่กำลังจะลดลงไปของ "การโฆษณาชวนเชื่อ" เขาเล่าให้ฟังว่า
เมื่อปี 1989 Tim-Berners-Lee ได้ยื่น proposal ในหัวข้อเกี่ยวกับ Information Management ซึ่งเป็นที่มาของ World Wide Web ในปัจจุบัน ตอนนั้นหัวหน้าของเค้าบอกว่า "vague, but exciting" หรือแปลเป็นไทยว่า กำกวมแต่น่าตื่นเต้นดี วันนี้ทุกคนบนโลกออนไลน์กลับต้องขอบคุณความกำกวมในครั้งนั้น
เช่นเดียวกันกับยุคของเว็บ 1.0 มา 2.0 และจะไป 3.0 มีเรื่องให้นักการตลาดได้คิดกันพอสมควร
เว็บ 1.0 (เว็บเนื้อหา) ทุกคนคุ้นเคยกันดีกับการนำเสนอข้อมูลเนื้อหาต่างๆ ที่นักการตลาด สามารถสอดแทรก การโฆษณา เข้าไปได้อย่างสบายใจ เพราะเรามีพื้นที่มากพอสำหรับแบนเนอร์ หรือบทความต่างๆ ที่นำเสนอโดยเว็บไซต์เอง แต่นั้นก็แค่การทำให้เว็บเป็นอีกช่องทางหนึ่งนอกเหนือจากสื่อออฟไลน์อื่นๆ message หรือข้อความที่ผู้บริโภคได้รับไม่ได้ต่างอะไรกันเลย
เว็บ 2.0 (เว็บเชิงสังคม) เป็นการปฏิวัติให้เว็บกลายเป็นเพื่อนกับผู้บริโภคมากขึ้น และทำให้นักการตลาดทำงานเหนื่อยขึ้นด้วยบริการเชิงสังคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น socila network site, live chat, mash-ups, virtual worlds, หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เคลื่อนที่ โทรศัพท์มือถือ ก็เป็นส่วนหนึ่งของยุค 2.0 นี้ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะนักการตลาดไม่สามารถควบคุมอะไรได้ดั่งใจ เว็บ 2.0 เป็นเรื่องของการติดต่อสื่อสาร ความเชื่อถือ ความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน การเกิดขึ้นของเนื้อหาไม่สามารถบังคับและชี้นำได้ ไม่มีใครรู้ว่าบล็อกเกอร์คนไหนจะเขียนอะไร และจะมีใครมาแสดงความคิดเห็นที่เว็บไหนบ้าง viral marketing เป็นดาบสองคม ที่อาจจะสร้างหรือทำลายแบรนด์ก็เป็นได้
เว็บ 3.0 (เว็บความหมาย) เป็นการได้มาซึ่ง ปัญญา (wisdom) โดยการทำงานของเครื่องจักร จะเป็นยุคที่คอมพิวเตอร์สามารถคุยสื่อสารกันเองได้รู้เรื่อง เพราะซอฟต์แวร์สามารถเรียนรู้และวิเคราะห์เนื้อหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง แทนที่จะต้องให้คนมาบอกว่าเนื้อหาเหล่านั้นเกี่ยวกับอะไร ดังนั้นข้อมูลข่าวสารจะเที่ยงตรงและกระจายไปไกลได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เราจะมีสิ่งที่เรียกว่า "intelligent agent" ในการกรองข้อมูลและช่วยในการตัดสินใจว่าอะไรดีที่สุด หรือถูกที่สุด นักการตลาดจะไม่สามารถโฆษณาสิ่งที่นอกหนือจากความเป็นจริงได้ จะไม่มีใครโกหกได้เนียนอีกต่อไป ทุกคนต้องยืนอยู่บนความซื่อสัตย์ พูดในสิ่งที่ทำ และทำให้สิ่งที่พูด
แต่เว็บ 3.0 จะมาเมื่อไรนั้น ยังอาจจะไม่มีใครบอกได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีเพียงไม่กี่เว็บไซต์เท่านั้นที่พัฒนาเพื่อรองรับ OWL หรือ SWRL เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์สามารถสื่อสารกันได้ แต่ก็อีกหากมองกลับไป Google ซึ่งเกิดเมื่อปี 1998 และขาย ads (สร้างรายได้)ครั้งแรกได้ในปี 2000 แล้วใช้เวลาต่อมาอีกไม่ถึง 5 ปี เพื่อขยายอาณาจักรครอบครองตลาด search engine มันเป็นช่วงเวลาพริบตาเดียว เหมือนกับคำว่า Social media ที่พูดถึงกันราวปี 2005 คุยกันเล่นๆ ตอนนั้นยังไม่รู้จะใช้ยังไง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของ netizen กันไปแล้ว ผู้คนต่างคุ้นเคยกับบล็อก, Facebook, twitter แล้วเชื่อไหมครับว่าเว็บ 3.0 มันกำลังจะมา ถ้ามีทางเลือกให้ระหว่าง
ก: รอคนใช้เยอะก่อนแล้วค่อยมาศึกษา เพราะไม่รู้ว่าทิศทางมันจะเป็นอย่างไร
ข: เป็นผู้นำเสียแต่ตอนนี้ ศึกษาและพัฒนาเพื่อรองรับการมาของเทคโนโลยีใหม่
แล้วคุณหละคิดอย่างไร How do u think?
แค่เว็บ 2.0 ยังปรับตัวไม่ทันเลยค่ะ
เว็บ 3.0 จะยังงัยนี่
+1 เว็บ3.0 มาแน่ แต่ต้องดูก่อนว่ามันต้องทำอะไร และทำอย่างไงบ้าง ตอนนี้เรารู้แต่ว่าทำให้คอมพิวเตอร์คุยกันได้ ที่เหลือนึกไม่ออกอะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์
เข้ามาอ่านแล้วถึงจาได้รู้ว่าเว็บ 3.0 มันคืออะไร
บล็อกอาจารย์มีข้อมูลน่าสนใจดีค่ะ