เล่าเรื่องการทำวิจัย : ตอนที่ 2


สิ่งที่เรารู้ คือ ประมาทไม่ได้เลย ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกเยอะมาก. หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น เรารู้เพียงแต่ว่า เราต้องมีกำลังใจให้ตนเอง ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหน ใจเราต้องสู้ ไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ แต่ต้องมีใจรักที่จะเรียนรู้ และ มีความเชื่อ ความศรัทธาในตนเองว่า เราต้องทำได้สิ เราต้องผ่านไม่ไปได้. แต่อย่างไรก็ต้องไม่ประมาท. "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"

คราวนี้ มาถึงตอนที่ 2

เรียน ป.เอก  ม.นเรศวร.   ช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่จะเน้น การเรียนในรายวิชา.
ถึงแม้ว่าจะมีเรียนเพียงไม่กี่ตัว  แต่ก็ไม่เข้าใจว่า  ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับอะไร ทำไม หัวข้อวิจัยถึงไม่ยอมคลอดซักที

อาจจะด้วยหลายๆ ปัจจัยที่รุมเร้าเข้ามาที่ทำให้เราไม่สามารถกำหนดหัวข้อที่จะทำวิจัยได้   แต่ปัญหาหลักก็คือ  ตัวเราเองไม่มีความชัดเจน และ ลังเลสงสัย.   และอีกส่วน อาจจะเป็นเพราะ ปี 1 แม้คะแนนสอบภาษาอังกฤษจะผ่าน pro มาแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงเกณฑ์สำหรับการเรียนจบระดับปริญญาเอก   ดังนั้น ตอนปี 1 สิ่งที่ต้องเร่งทำก็คือ การเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษให้ผ่าน 500 คะแนน.

และแล้ว ปี 1 ก็ผ่านไป 

คราวนี้ปี 2  เริ่มมีความเข้มข้นขึ้นในระดับของความเครียด.  ยิ่งเทอม 2 ภาวะกดดันจากรายวิชาที่ต้องทำวิจัยย่อยส่ง   แต่ตัวเองก็ยังไม่มีความชัดเจนอีกนั่นแหละ.   

และอีกส่วนหนึ่ง  อาจจะเป็นเรื่องของการที่เรายังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ อาจารย์ที่ปรึกษา  เพราะ การที่คณะไม่มีแนวทางในการให้ติดต่อที่ปรึกษา หรืออาจเป็นเพราะ เราไม่ไปติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาเอง  จึงทำให้เกิดปัญหา  ทำให้ไม่มีทิศทาง  ไม่แน่ใจในแนวคิดของตน

จนตอนนี้ ปี 3 เทอม 1  รู้สึกเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน.   แป็บเดียวก็หมดไป 1 วัน  1 สัปดาห์ 1 เดือนฯ แล้วตอนนี้ จะหมดเทอมอีกแล้วเหรอเนี่ย.

.............

ตอนนี้สำหรับตนเอง  เริ่มมีความชัดเจนในด้านอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว
รู้สึก ขอบคุณอาจารย์อย่างมากๆ เลย   ที่ทำให้ได้เรียนรู้อะไรจากความเป็นอาจารย์  ความเป็นครู ความเป็นที่ปรึกษาที่ดี.

ในขณะที่เรารู้สึกไม่มีจุดหมาย  ไม่รู้ว่า อาจารย์ที่ปรึกษาจะเป็นใคร  เราจะติดต่ออาจารย์ท่านใดเป็นที่ปรึกษาดีนะ    อาจารย์ที่ปรึกษาของเรา  ท่านก็เข้ามาทักทาย  และก็ถามไต่ บอกว่า งานวิจัยในรายวิชา ทำต่อได้นะ   ถ้าสนใจก็มาคุยแนวคิดกัน อาจารย์จะเป็นที่ปรึกษาให้  (ศิลปะ การสอน ... บางครั้งการเข้าหาศิษย์ ผู้ยังอ่อนเยาว์ด้านความรู้ ความกลัวอยู่นี้  สิ่งนี้ก็ให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น)

............
ตอนนี้ เราไปคุย concept กับอาจารย์แล้ว    ก็ได้เรียนรู้ หลายๆ อย่างจากอาจารย์ที่ปรึกษา
ขอสรุปสิ่งที่เราได้ประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาของอาจารย์ดังนี้

1) อาจารย์เปิดโอกาสให้เราได้คิด  ได้เล่าเรื่องราวที่เราสนใจ   โดยท่านสามารถวางตัวเป็นผู้ผฟังที่ดี

แม้ว่า บางครั้งเราจะพูดวกวนไปบ้าง อาจารย์ก็ให้คำแนะนำ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิให้เราเสียใจ  ส่วนใหญ่ก็จะให้กำลังใจ  บอกว่า ใช้ได้แล้วนะ.  ไปเขียนได้แล้ว    แต่ที่มันเป็นปัญหา  ก็เพราะตัวเราเอง ที่ไม่ยอมที่จะผ่านอะไรง่ายๆ   นี่คือ อุปสรรคของตนเอง  ที่พยายามจะปรับปรุงแก้ไข  เพราะอันที่จริงแล้วมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย  แต่ ณ เวลาขณะนี้  มันจะเป็นข้อเสีย  หรือ เป็นอุปสรรคสำหรับเป้าหมายที่เราต้องการเสียมากกว่า     

2) อาจารย์จะใช้ "คำถาม"  ให้เราได้ขบคิด และให้แนวคิดใหม่ๆ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ไปในตัว แต่ก็ให้โอกาสเราเป็นคนเลือกและตัดสินใจ 

จากที่เราคิดไว้ว่า ต้องการวัดความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานเป็นทีม  ...  เรากลับได้รู้จักคำใหม่ คือ "จิตวิทยาศาสตร์"   ซึ่งเป็นคำใหม่สำหรับเราที่ไม่เคยได้สนใจมาก่อน  แม้ว่าเราจะเรียนจบ สาขาการศึกษาวิทยาศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) มาก่อน    ซึ่งสุดท้ายเราไปค้นหาข้อมูลมา  แล้วนำมาเล่าอาจารย์ และก็ต้องลงปลงใจว่า จะทำเรื่องนี้  (ในใจภาวนาว่า  ขอให้ตัวเองมั่นคงชัดเจน  เรียนจบไปขอให้เป็นคนที่ชัดเจน ไม่ลังเล ไม่สงสัย  เพราะรู้ว่า ความลังเล ความสังสัยนี่  มันเป็นอุปสรรคมากๆ ของความสำเร็จ)

3) อาจารย์คอยติดตาม อย่างเอาใจใส่   ติดตามว่าทำคืบหน้าไปถึงไหน โดยให้โอกาสนิสิตตัดสินใจและทำด้วยตนเอง

ได้เห็นแบบอย่างของอาจารย์แล้ว   ก็ทำให้ย้อนคิดว่า  เราต้องเป็นผู้เรียนที่ Active Learning แล้ว  เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาของเราท่านเป็น Active mentor นะ.   ส่วนใหญ่แล้ว เราก็จะศึกษาค้นคว้า  แต่มักจะขาดการรายงานผล    เราก็พยายามที่จะติดต่ออาจารย์ และรายงานผลไปบ้าง เพื่อให้อาจารย์ได้รู้ว่า ยังดำเนินการอยู่ ไม่ได้นิ่งเฉย  โชคดีมีระบบ IT ซึ่งถือว่า เป็นตัวเชื่อมต่อที่ดีของการสื่อสาร.

4) อาจารย์มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา  เป็นแบบอย่างที่ดี  

เมื่ออาจารย์นัดเรา หรือ เราโทรนัดอาจารย์  อาจารย์ท่านก็มีเวลาให้เสมอ แม้ว่า จากที่เราได้เห็น อาจารย์มีงานเยอะมาก  นิสิตที่อาจารย์รับผิดชอบก็เยอะมาก  แต่เราเห็นอาจารย์มีเวลาให้คำปรึกษากับนิสิตในความรับผิดชอบทุกคน

5) อาจารย์มักจะให้เราเล่า concept ด้วยการพูดให้อาจารย์ฟัง   

ซึ่งส่วนนี้ ช่วยให้เราได้ประมวลความคิด และ ฝึกการพูด  สร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับตัวเองได้เปราะหนึ่ง.


ถึงแม้ว่า วันนี้จะมีความชัดเจนด้านอาจารย์ที่ปรึกษาและแนวคิดการทำวิจัย.
แต่สิ่งที่เรารู้ คือ ประมาทไม่ได้เลย   ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกเยอะมาก.  หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น  เรารู้เพียงแต่ว่า  เราต้องมีกำลังใจให้ตนเอง  ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหน ใจเราต้องสู้ ไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้   แต่ต้องมีใจรักที่จะเรียนรู้ และ มีความเชื่อ ความศรัทธาในตนเองว่า   เราต้องทำได้สิ  เราต้องผ่านไม่ไปได้.    แต่อย่างไรก็ต้องไม่ประมาท.  "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" 

"ทำทุกหน้าที่ให้ดีที่สุด  
เป็นลูกที่น่ารักของพ่อแม่
เป็นลูกศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์
เป็นคนดี..ของคนที่เรารักและรักเรา.
เป็น.........คนดีของสังคม.
เป็นคนดีของตัวเอง"

หมายเลขบันทึก: 286386เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2009 01:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม 2012 07:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท