เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ (H1N1) ในพื้นที่วิทยาเขตปัตตานีในการลดการสูญเสียด้านสุขภาพกาย ด้านสุขภาพจิต ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ
ด้วยขณะนี้ข้อมูลในสถานการณ์โลก คือ
- WHO แจ้งการยกเลิกการรายงานเฉพาะรายและจำนวนสะสมผู้ป่วยยืนยัน (Confirmed Care) เพราะไม่สะท้อนความจริงของการระบาด เป็นภาระต้องใช้คนใช้เวลา ใช้ห้องปฏิบัติการ ใช้ค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
- แนะนำให้เฝ้าติดตามโดยใช้วิธีการทางระบาดวิทยาติดตามแทน(Epidemic Monitoring) จากhttp://www.who.int
- ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
- ผู้ป่วยบางรายดื้อยา
ด้วยขณะนี้ข้อมูลในสถานการณ์ประเทศไทย คือ ในรอบสัปดาห์นี้(11/8/2552) มีผู้ป่วยติดเชื้อเสียชีวิต
จำนวน 16 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 97 ราย
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลจึงใช้ยุทธศาสตร์ 2 ลด 3 เร่ง คือ
2 ลด |
3 เร่ง |
1. ลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด |
1. เร่งให้อาสาสมัครสาธารณสุข 9.87 แสนคนเข้าให้คำแนะนำแก่ประชาชน พร้อมสำรวจการป่วยในชุมชน |
2. ลดการติดเชื้อและการป่วยให้ได้มากที่สุด |
2. เร่งการเผยแพร่ความรู้สื่อสารแก่ประชาชน |
3. เร่งการบริหารจัดการจากส่วนกลางสู่ ภูมิภาคและท้องถิ่น |
และด้วยขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ ม.อ.ปัตตานี คือ การควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่วิทยาเขตในห้วงที่ผ่านมาสามารถดำเนินการได้ผลในระยะเวลาที่รวดเร็ว จากมาตรการเร่งด่วน คือ การคัดกรองอย่างเข้มงวด การรณรงค์การทำความสะอาดมือ ทำความสะอาดพื้นที่สัมผัส การใช้หน้ากากป้องกัน การจัดการความรู้สู่นักเรียน นักศึกษาและบุคลากรผ่านสื่อต่าง ๆ แต่ที่สำคัญยิ่งคือ การร่วมมือร่วมใจอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องของหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ทั้งคณะ/วิทยาลัย/สำนัก/กองและโรงเรียน ภายใต้มาตรการของวิทยาเขตและอื่น ๆ
ทำให้วิทยาเขตของเรายังคงรักษาชีวิตของทุกคนและคนใกล้ชิดได้อย่างปลอดภัย
แนวโน้มการแพร่ระบาดในพื้นที่วิทยาเขตปัตตานี
1. ช่วงเดือนสิงหาคม เดือนกันยายน และเดือนตุลาคม เข้าสู่ฤดูการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สภาพภูมิอากาศช่วงนี้เหมาะสมแก่การแพร่ระบาดหนักของภาวะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ (H1N1) ในรอบ 2. พื้นที่ในส่วนภูมิภาคมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
3. พฤติกรรมบางอย่างของบางคนในพื้นที่วิทยาเขตส่งเสริมต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ (H1N1) ได้ง่ายรวดเร็วขยายวงกว้างและรุนแรง เช่น
- การแตะสัมผัสมือกับผู้อื่นเข้าสู่ใบหน้า ตา จมูก ปากโดยไม่ได้ทำความสะอาดมือก่อนทั้งตนเอง และผู้อื่น - การใช้ของร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะการจัดกิจกรรม/โครงการ เช่น การดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน จากกระติกหรือภาชนะใด ๆ เดียวกัน การรับประทานอาหารโดยใช้ช้อน ใช้จาน เดียวกันหรือไม่มีช้อนกลาง เป็นต้น
- การบ้วนน้ำลาย เสมหะ หรือสั่งน้ำมูก ลงสู่พื้นที่สาธารณะตรง ๆ โดยไม่ใช้กระดาษชำระ หรือใช้กระดาษชำระแต่ทิ้งลงพื้นที่ทั่วไป
- การไม่ใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดปาก ปิดจมูก ของผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
- การไม่คัดกรองตัวเอง ไม่หยุดเรียน ไม่หยุดงาน ไม่หยุดเข้าพื้นที่สาธารณะหรือไม่หยุดพบปะกับผู้อื่น เมื่อป่วยเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
- การละเลยการทำความสะอาดมือให้บ่อย ๆ
- การละเลยการทำความสะอาดพื้นที่ผิวสัมผัสใช้งาน เช่น โต๊ะเก้าอี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เป็นต้น
- การใช้ระบบปรับอากาศตลอดเวลาโดยไม่มีการคัดกรองผู้ป่วยก่อนเข้าใช้พื้นที่
- การขาดระเบียบวินัยของตนเองต่อการปฏิบัติตามมาตรการของสังคม ม.อ.ปัตตานี
4. คาดการว่าชุมชนใดมีผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ (H1N1)จำนวนมาก ชุมชนนั้นมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดเชื้อได้รวดเร็ว ขยายวงกว้าง พบภาวะผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
จากสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดในวิทยาเขต และให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ
กระทรวงสาธารณสุข ทางหน่วยพยาบาลใคร่ขอให้นักเรียน นักศึกษา บุคลกรทุกท่านและหน่วยงานต่าง ๆ ทุกองค์กร ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์สร้างวัฒนธรรม 3 รู้สู่ทุกคน ดังนี้
รู้ทันไวรัส โดย : ติดตามข้อมูลข่าวสารได้จาก www.pn.psu.ac.th/H1N1/ และเครือข่าย
อื่น ๆที่เกี่ยวข้องทุกวันอย่างต่อเนื่อง
: สร้างทีมงานและเครือข่ายในคณะ/วิทยาลัย/สำนัก/กอง/โรงเรียนให้ชัดเจนและเข้มแข็ง
: ประสานงานหน่วยพยาบาลเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและสอบถามข้อสงสัย โดยจัดการ
ประชุมกลุ่มย่อยในองค์กร
รู้รับผิดชอบ โดย : ผู้ป่วยทุกคนต้องซื่อสัตย์คัดกรองตนเองหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมพบปะผู้อื่น
โดยไม่จำเป็นจนกว่าพ้นระยะแพร่เชื้อ
: ทุกคนร่วมกันคัดกรองผู้อื่นเพื่อรับผิดชอบสังคมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด
: สร้างระเบียบวินัยให้ตัวเองตามมาตรการของสังคม ม.อ.ปัตตานี เพื่อการป้องกันการติดเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
รู้จักป้องกัน โดย : ป้องกันการแพร่เชื้อของผู้ป่วยและป้องกันการรับเชื้อจากผู้ป่วย เช่น การล้างมือบ่อย ๆ
หลีกเลี่ยงการเอามือแตะสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก
: มีมารยาทในการไอ การจาม การบ้วนน้ำลาย เสมหะ หรือการสั่งน้ำมูก โดยการละเว้น
การไอ การจาม โดยไม่มีผ้าปิดปากปิดจมูก และไม่บ้วนน้ำลาย เสมหะ หรือสั่งน้ำมูกลง
ในพื้นที่สาธารณะตรง ๆ โดยไม่มีที่รองรับ
: คนโดยทั่วไปเข้าสถานที่แออัด สถานที่ระบบปิดเสี่ยงต่อการรับเชื้อให้ใช้หน้ากาก
อนามัยหรือผ้าหนา ๆ ปิดปากปิดจมูก
จุดมุ่งหมายเพื่อ
ป้องกันการติดเชื้อของคนในวิทยาเขตให้ได้มากที่สุด
ป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
ป้องกันการสูญเสียชีวิตของคนในชุมชน ม.อ.ปัตตานีให้ได้มากที่สุด
และที่สำคัญหวังให้ทุกคนทั้งนักเรียน นักศึกษา บุคลากรของวิทยาเขตได้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เชิงปฏิบัติตามวัฒนธรรม 3 รู้ คือ รู้ทันไวรัส รู้รับผิดชอบ รู้จักป้องกัน สู่การปกป้องตนเอง ครอบครัวและชุมชนอื่น ๆ ให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ ไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยความห่วงใย
สุธีรา โกมลมาลัย
พยาบาล ม.อ.ปัตตานี
***ติดตามงานการรณรงค์ 2009 ของหน่วยพยาบาล ม.อ.ปัตตานี ได้จาก www.pn.psu.ac.th/H1N1/
ไม่มีความเห็น