คุณหมอสุปราณี หรือ หมอแหวว มาเกริ่นให้ฟัง ถึง เป้าหมายของโครงการสร้างเสริมทันตสุขภาพ ในช่วงปัจจุบัน ถึงปี 54 ค่ะ ว่า เรากำหนดจุดหมายปลายไปที่ไหนกัน นั่นก็คือ
ที่ผ่านมาเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ จะมีโครงการฟันเทียมพระราชทาน เป็น entry point ของงานทันตสุขภาพผู้สูงอายุ เพราะว่า เป็นความต้องการของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแล โดยการใส่ฟันเทียมทั้งปากให้กับ ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี 2548
เป็นเรื่องของการพัฒนาระบบบริการ ระบบสนับสนุน ระบบข้อมูลการดำเนินงาน ระบบติดตามกำกับประเมินผล ทำให้เกิดกระบวนการทำงานในลักษณะภาคีเครือข่าย ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค
รวมทั้งเป็น Entry point ของงานทันตสุขภาพด้วย เนื่องจากการทำงานนี้ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำงานส่งเสริมป้องกันสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุในเชิงรุกขึ้น
ปี 2549 เราจึงได้พัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก โดยชมรมผู้สูงอายุ ในพื้นที่ทดลอง เป็นการหาโมเดล การทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ในชมรมผู้สูงอายุนำร่อง ของ 7 จังหวัด 21 ชมรมฯ และถึงปัจจุบัน มีการขยายความครอบคลุมไปแล้ว 51 จังหวัด 151 ชมรมฯ ตามวิธีการหลากหลายรูปแบบของพื้นที่ที่ทำกิจกรรม ซึ่งก็จะพบว่า มีการขยายการดำเนินงานไปในพื้นที่อย่างกว้างขวางขึ้นเอง ตามแนวทางความต้องการ การพัฒนากิจกรรมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ ในแต่ละพื้นที่อย่างเป็นอิสระ
ในปี 2551 เราเริ่มมีการปรับระบบบริการ เพื่อการส่งเสริมป้องกัน และมีจังหวัดทำกิจกรรมส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปาก ตามชุดสิทธิประโยชน์ทางทันตกรรม จำนวน 21 จังหวัด 167 หน่วยบริการ เพื่อปรับให้ผู้สูงอายุที่เดินเข้ามาเพื่อรับบริการใส่ฟัน เปลี่ยนเป็นเข้ามาเพื่อขอรับการตรวจ และบริการทันตกรรมป้องกันแทน ในปี 2552 ขยายไปได้แล้วถึง 28 จังหวัด 273 หน่วยบริการ
ในปี 2552-2554 โครงการฟันเทียมพระราชทาน และการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ มีเป้าหมายให้ผู้สูงอายุมีฟันใช้เคี้ยวได้อย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต กิจกรรม คือ พัฒนาระบบบริการส่งเสริมป้องกัน ฟื้นฟู สนับสนุนการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง และลดการสูญเสียฟันก่อนวัยสูงอายุ
มีวัตถุประสงค์เพื่อ
- เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ 84 พรรษา ในปี 2554 โดยแก้ปัญหาการสูญเสียฟันอย่างต่อเนื่อง
- พัฒนาระบบบริการทันตสุขภาพ ให้ผู้สูงอายุดูแลตนเอง และพึ่งพาบริการตามความจำเป็น
- พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีฯ เพื่อทันตสุขภาพผู้สูงอายุ และก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ
- สร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและประชาชน
ผลลัพธ์ในปี 2554
เป้าหมายเมื่อสิ้นสุดโครงการปี 2554
- สนับสนุนการจัดบริการใส่ฟันเทียมทั่วประเทศ 3 ปี 90,000 ราย
- ชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก 1 อำเภอ 1 ชมรมทั่วประเทศ
(1 จังหวัด 1 อำเภอ ปี 2553)
- จัดบริการส่งเสริมป้องกันในหน่วยบริการต้นแบบ จังหวัดต้นแบบ : เต็มพื้นที่ PCU
- พัฒนาระบบบริการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากแบบผสมผสาน 1 ภาค 1 จังหวัด
... ซึ่งเห็นภาพแล้ว คาดว่าจะได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้อีกเยอะ
- พัฒนารูปแบบการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก วัยทำงานและสูงอายุ โดย อสม.
กิจกรรมสำคัญของกองทันตสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
1. พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายภาครัฐ / เอกชน
- เครือข่ายเดิม
- เครือข่ายใหม่ : ฟันเทียม, สุขภาพช่องปากกับสุขภาพและโรคทางระบบ, เทคโนโลยีการส่งเสริมป้องกัน
2. สนับสนุนการดำเนินงานโดยภาคีเครือข่าย
- ฟันเทียม : งบฯ บริการ ตามระบบปกติ ค่าตอบแทนฟันเทียมทั้งปาก 1,000 บาท/ราย (กองทุน)
- ชมรมผู้สูงอายุ
- สนับสนุนศูนย์อนามัย และจังหวัด ในการขยายเครือข่าย 1 อำเภอ 1 ชมรม
- แนวทางการพัฒนาชมรมด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
3. พัฒนาระบบข้อมูลและการรายงาน การติดตามผล
- โปรแกรมบริการทันตสุขภาพผู้สูงอายุ
- การสุ่มประเมินความพึงพอใจผู้รับบริการใส่ฟันเทียม
- การสำรวจ การรายงานสถานการณ์สุขภาพช่องปากผู้สูงอายุรายจังหวัด (4 คู่สบ, 20 ซี่) ชมรมส่งเสริมฯ โดยจังหวัด
- สุ่มนิเทศ ติดตามโดยกองทันตฯ ทุกปี ภาคละ 1 จังหวัด
4. พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการจัดการความรู้
- พื้นที่ที่สนใจแต่ละโครงการ (พัฒนาระบบบริการผสมผสาน 1ภาค 1 จว., พัฒนารูปแบบการดำเนินงานโดย อสม., โครงการศึกษา/วิจัยต่าง ๆ ฯลฯ)
5. รณรงค์สร้างกระแส และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการ
- ร่วมกับโอสถสภา ปีละ 2-3 จังหวัดที่สนใจ
- ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทานและไลอ้อนส์ ปีละ 1 จังหวัด
- ประกวด 10 ยอดฟันดี วัย 80 ปีระดับประเทศปีละ 1 ครั้ง
- เผยแพร่ทางสื่อสาธารณะ โดยเฉพาะปี 54
- ชุดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
- มหกรรมการประชุมวิชาการปี 2554
- สื่อ / สิ่งพิมพ์สำหรับผู้ปฏิบัติงาน/ผู้สูงอายุ
- ฯลฯ
การพัฒนางานส่งเสริมสุขภาพช่องปากโดยชมรมผู้สูงอายุ
1. การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกภาค
- เน้นชมรมเป็นเจ้าของกิจกรรม
- บุคลากรสาธารณสุข / เครือข่ายชมรม
2. จังหวัด / หน่วยบริการ /ชมรมเห็นประโยชน์ กลับไปดำเนินงาน
3. การสุ่มติดตามโดยกองทันตฯ ปีละ 1 ครั้ง (ภายใต้สถานการณ์ที่จำเป็นและเร่งด่วน)
ส่วนกลางจะได้จัดทำ แนวทางการพัฒนาชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ซึ่งตั้งเป้าหมายสนับสนุนแนวทางในปี 2553 ซึ่งเรามีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเพื่อ
- เป็นแนวทางการพัฒนาชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
- ค้นหา และจัดระดับชมรมผู้สูงอายุ ที่จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากดี
- จุดประกายการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ในชมรมผู้สูงอายุ
ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ หนึ่ง เรื่องโครงสร้างชมรมฯ สอง เรื่องการบริหารจัดการของชมรมฯ สาม เรื่อง กิจกรรมที่เกิด สี่ เรื่อง การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในชมรมฯ
การจัดทำ โปรแกรมในหน่วยบริการ มีหลักการเพื่อ ให้ครอบคลุมโครงการ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุในหน่วยบริการทั้งหมด (อยู่ในระหว่างการพัฒนา)
-
ส่วนที่หนึ่ง เป็นข้อมูลการดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ
-
ส่วนที่สอง ความสามารถให้บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากหน่วยบริการ หรือ สสจ. ก็ได้
-
ส่วนที่สาม สามารถเลือกบันทึกข้อมูลส่วนที่เกี่ยวข้องได้ เป็นโครงการๆ
-
ส่วนที่สี่ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณเบื้องต้นได้บ้าง
-
ส่วนที่ห้า สามารถเรียกดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งโดยหน่วยบริการ สสจ. ศูนย์อนามัย และกองทันตฯ
แบ่งออกเป็น 6 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ... เช่น บัตรประชาชน ชื่อ-สกุล เพศ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ญาติที่ติดต่อได้ ฯลฯ
ส่วนที่ 2 สุขภาพผู้สูงอายุ และการแปลผล ... (เป็นประวัติผู้ป่วยในส่วนที่สัมพันธ์กับโรคทางระบบ เพื่อการวางแผนต่างๆ) เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง (BMI) / กลุ่มของผู้สูงอายุ ประวัติความดันโลหิต / เบาหวาน / โรคทางระบบอื่นๆ การประเมินความเสี่ยงต่อเบาหวาน ความดัน การประเมินพฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงในช่องปาก
ส่วนที่ 3 ข้อมูลการตรวจสุขภาพช่องปาก ... เช่น สภาวะฟันผุ รากฟันผุ เป็นรายซี่ สภาวะปริทันต์เป็น sextant สรุปความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปาก สรุปความจำเป็นในการรับบริการส่งเสริมป้องกัน รักษา ฟื้นฟู
ส่วนที่ 4 การจัดบริการทันตกรรมป้องกัน ... เช่น การให้คำแนะนำ Plaque control การใช้ฟลูออไรด์ การขูดหินน้ำลาย แหล่งงบประมาณ การใส่ฟันเทียม (ทำเอง หรือส่งต่อ)
ส่วนที่ 5 การจัดบริการใส่ฟันเทียม ... เช่น ผู้ให้บริการ ชนิดฟันเทียม แหล่งงบประมาณ เวลาที่จัดบริการ
ส่วนที่ 6 การ Follow up หลังใส่ฟัน ... เช่น ปัญหาที่พบและการแก้ไข
ปี 2552 เห็นอะไร ที่ก้าวหน้ากว่าปี 2551 (กิจกรรมที่ผ่านมานั้น ผลการดำเนินงานในผู้สูงอายุมีพัฒนาการขึ้นในหลากหลายวิธีการ) อาทิเช่น
- พื้นที่ร่วมดำเนินงานมากขึ้น ทั้งระบบบริการส่งเสริมป้องกัน / ส่งเสริมโดยชมรมผู้สูงอายุ
- พื้นที่เริ่มทำงานทันตฯ แบบผสมผสาน เช่น อ.สารภี จ.เชียงใหม่, อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง, อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ฯลฯ
- มีการทำงานเป็นทีมกับงานส่งเสริมสุขภาพอื่นๆ ชัดเจนขึ้น
- มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชมรมผู้สูงอายุมากขึ้น
- บางพื้นที่ ท้องถิ่น / PCU มีบทบาทสนับสนุนชมรมผู้สูงอายุชัดเจน
- มีการบูรณาการ การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดัน ทันตกรรม ใน LTC (บางหน่วยบริการ)
- พื้นที่รู้จักแหล่งงบประมาณ และสามารถนำงบประมาณจากพื้นที่มาใช้ได้
- งบฯ บริการในชุดสิทธิประโยชน์ : express demand UC
- งบฯ ภาคประชาชน (ชมรมผู้สูงอายุ) : Community based (กองทุนฯ ตำบล)
- งบฯ ส่วนกลาง
- เห็นความเข้มแข็ง จริงจังของทีมสาธารณสุขภาคใต้ ในการพัฒนางาน
สิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้ คือ
-
เรามีชมรมเข้มแข็ง เวลาทำก็ทำไปได้ แต่ขณะเดียวกัน เขาอาจมีกิจกรรมเยอะ ไปยาก มีคนเสนอว่า ในชมรมที่ไม่มีกิจกรรม หรือเขารวมตัวกันใหม่ๆ ก็สามารถตั้งเป็นกลุ่มทำกิจกรรมได้เหมือนกัน
-
บางชมรม เขายังไม่รวมกลุ่มกัน เราเอางานหยอดเข้าไป เขาก็มีการร่วมกลุ่มทำกันได้ แต่ต้องมีทีมสาธารณสุขช่วยด้วย
-
ชมรมหลายแห่ง แกนนำเป็นข้าราชการ จะบริการจัดการเก่งมาก เกิดกิจกรรมที่หลากหลาย
-
แต่ในบางจังหวัด เป็นชาวบ้านรวมกลุ่มกัน จะทำอย่างไร งานส่งเสริมป้องกัน จะเข้าไปถึงผู้สูงอายุได้ หรืออาจจะไม่เข้าผ่านชมรมก็ได้
-
และชมรมต่างภาค ต่างศาสนา เหมือนสตูล ทำให้ต้องทำแยกกัน ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมด้วย
-
เครือข่ายของเราทั้งหลาย เราเข้าไป contact เดินเข้าไปคุย พบหรือยัง ไปแสวงหาหรือยัง ไป อสม. วัดหรือยัง เข้าชมรม เข้าศูนย์สามวัยได้ไหม หรือวิ่งไปหาสาขาสภาก่อนดี ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางทั้งนั้น เพียงแต่ว่าจะไปทางไหนก่อน หรือจะไปองค์กรท้องถิ่นก่อน ไปหา อบต. ก่อน หรือวิทยาลัยพยาบาล วิทยาลัยการสาธารณสุข ก็จะมีทันตบุคลากร มีพยาบาลที่ทำงานสูงอายุ มีนักวิชาการ เขาก็จะเป็นเครือข่ายของเราได้เหมือนกัน .... อยู่ที่ว่า เจาะไปทางไหนได้บ้าง ... เรื่องนี้ขอฝากไว้
-
อย่าลืมเรื่องของการเชื่อมโยงระบบ ว่า เราอยู่ตรงไหน เพราะว่า กว่าจะถึงผู้สูงอายุจะต้องผ่านหลายอย่างมาก ถ้าทำงานด้วยกัน ช่วยกันทำอย่างนี้ ก็จะช่วยกันทำคนละไม้คนละมือ และไม่ลงงานใครมากไป ช่วยกันไป จนถึงผู้สูงอายุก็เป็นไปได้
-
อย่าลืมว่า ผู้สูงอายุ เขาต้องอิงกับผู้ดูแล กับสภาพแวดล้อมาในยุคของเขา เช่น พฤติกรรมกินผักผลไม้ เขามีชมรมเครือข่ายที่ดูแลเขามากมาย อย่าลืมเรื่องการเข้าถึงบริการ ให้นึกถึงตัวผู้สูงอายุด้วย
-
ตอนนี้ เรากำลังจะมี รพ.ส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล ที่กำหนด job งานไว้ ระบุว่า ในงานส่งเสริมสุขภาพ จะต้องทำในหน่วยบริการในชุมชน ในหน่วยบริการทำอะไรบ้าง ในชุมชนทำอะไรบ้าง ก็จะเป็นโอกาสที่ทำให้เราเอางานเข้าไปบูรณาการได้ด้วย ... อบต. เทศบาล ต้องมีส่วนสนับสนุนอย่างไร คุ้มครองพิทักษ์สิทธิของผู้สูงอายุ หรือเปล่า มีกองทุนผู้สูงอายุ มีการเสริมอาชีพ อย่างไร
-
อีกส่วนหนึ่ง อสม. กับชุมชน จะทำอะไร เขากำหนดว่า ต้องมีส่วนในการสร้างความเข้าใจ ผู้สูงอายุเข้าไปมีส่วนร่วม มีจิตอาสา ให้ความช่วยเหลือ ดูแลในชุมชน เขาได้วางเป็น package โครงสร้างที่แข็งมาให้เรา เราก็คงต้องหยิบตรงไหนไปใช้
-
และในเรื่องของภาพรวมของผู้สูงอายุ เราทำแต่คนที่พึ่งตนเองได้ ส่วนที่อยู่ติดเตียง ยังต้องเป็นอะไรที่ต้องพัฒนาต่อไป