หนานเกียรติ
เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร

อ่อบื๊อซอโข่ ตอนที่ ๑


“อ่อบื๊อซอโข่” หรือ “กินข้าวใหม่” เป็นประเพณีสำคัญของชาวปกาเกอะญอ ในระหว่าง ๗ วัน หลังขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๑ ซึ่งเป็นช่วงเวลานี้ชาวบ้านสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวและขนข้าวขึ้นหลอง (ยุ้ง) เสร็จเรียบร้อยแล้ว

๑...

      ในขณะที่เส้นทางสายแม่สอด อุ้มผาง หรือ ถนนลอยฟ้า ในช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศมุ่งหน้าสู่น้ำตกทีลอซู แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ผมพร้อมด้วย อ.กวาง หญิงสาวของผม อ.หน่อง เพื่อนผู้พี่และ ตอยเพื่อนผู้น้อง ใช้เส้นทางเดียวกันนี้เดินทางไปบ้านทีจอชี เพื่อร่วมประเพณี อ่อบึ๊อซอโข่ หรือ กินข้าวใหม่

      ถนนลอยฟ้า ที่มุ่งหน้าสู่อำเภออุ้มผาง เป็นเส้นทางที่น่าตื่นตาตื่นในสำหรับบางคน ในขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นเส้นทางที่น่าหวาดเสียวกับอีกหลายคน แม้ว่าจะเป็นถนนลาดยาง ผิวถนนราบเรียบ แต่บางช่วงก็ลาดชัน เกือบทั้งเส้นทางคดโค้งลัดเลาะไปตามไหล่เขา บางช่วงไต่สันเขามองเห็นหุบเหวอยู่เบื้องล่าง

      บ้านทีจอชี ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก เป็นชุมชนชาวปกาเกอะญอขนาดร้อยกว่าหลังคาเรือน ประชากรราว ๕๐๐ คน ตั้งบ้านเรือนแทรกอยู่ในหุบเขา ด้านทิศตะวันตกแนบชิดอยู่กับเชิงเขา ทิศตะวันออกอยู่ติดลำห้วยทีจอชี ทิศเหนือและใต้ยาวไปตามเทือกเขาและลำห้วย พื้นที่ของหมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผาง

      ผมไปบ้านทีจอชี คราวนี้เป็นครั้งที่ ๓ มาครานี้ตั้งใจมาร่วมงานกินข้าวใหม่ ตามคำเชิญชวนของพะตีจ่อวาเอ เมื่อการมาเยือนหมู่บ้านครั้งก่อน

      อ่อบื๊อซอโข่ หรือ กินข้าวใหม่ เป็นประเพณีสำคัญของชาวปกาเกอะญอ ในระหว่าง ๗ วัน หลังขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๑ ซึ่งเป็นช่วงเวลานี้ชาวบ้านสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวและขนข้าวขึ้นหลอง (ยุ้ง) เสร็จเรียบร้อยแล้ว พอใกล้ถึงวันผู้นำพิธีกรรมของชุมชนจะปรึกษากับผู้อาวุโสในชุมชนว่าจะจัดงานเมื่อใด แล้วจึงแจ้งให้ชาวบ้านทราบ

      งานจริง ๆ มีเพียงวันเดียว แต่ชาวบ้านต้องใช้เวลาเตรียมตัวหลายวัน ต้องเตรียมสถานที่สำหรับการประกอบพิธี ต้องเตรียมต้มเหล้า เตรียมหาวัตถุดิบทั้งพืชและสัตว์หลายชนิดเพื่อมาประกอบอาหาร ตะกะโป่ รวมทั้งการเผาข้าวหลาม และตำข้าวปุ๊ก เป็นต้น

 

๒...

      ตะวันโด่งตอนสายใกล้เที่ยง ผมค่อยขับรถลุยลำห้วยเพื่อเข้าหมู่บ้านอย่างไม่ยากเย็น ผิดกับก่อนหน้านั้น มาครั้งแรกลำห้วยวันนั้นกว้างราว ๒๐ เมตร น้ำลึกเกือบเมตรไหลเชี่ยว ต้องจอดรถทิ้งไว้แล้วเดินลุยข้ามลำห้วยอย่างทุลักทุเล ครั้งถัดมาแม้ว่าน้ำจะลดลงมากแล้ว แต่ยังไหลเชี่ยว ต้องทำใจและรวบรวมความกล้าอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะขับรถลุยข้ามไป

      ผ่านลำห้วยทีจอชี ผมขับรถเลยไปท้ายหมู่บ้าน เห็นชาวบ้านหลายสิบคนทั้งคนเฒ่าคนแก่ คนหนุ่มและเด็ก ๆ มารวมตัวกันที่ลานกว้าง บ้างก็กำลังสับฟาก บ้างก็ตัดไม้ไผ่ บ้างก็จักตอก บ้างก็นั่งพักหลบแดดอยู่ใต้ถุนเวที บ้างก็นั่งคุยหลอกล้อกันอยู่บนหลองข้าวจำลอง

      ผมจอดรถใต้ร่มไม้ทางทิศใต้ของลานกว้าง เดินไปทักทายพะตีจอวาเอ ที่หลองข้าว

      เห็นหุ่นนกทำจากไม้ พะตีจ่อวาเอ เล่าให้ฟังว่า หุ่นนกตัวนี้เป็นหุ่นจำลองของนกโถ่บีข่า ซึ่งชาวปกาเกอะญอให้ความเคารพนับถือ ในพิธีอ่อบื๊อซอโข่ จะมีการส่งนกโถ่บีข่านี้กลับคืนสู่สวรรค์ด้วย

      โดยปกติแล้วนกโถ่บีข่าจะอยู่บนสวรรค์ ในช่วงที่ชาวบ้านเริ่มหยอดข้าวก็จะทำพิธีเรียกนกโถ่บีข่าให้ลงมา เพื่อคุ้มครองข้าวในไร่ให้อุดมสมบูรณ์ มีพอกินและเหลือพอที่จะแบ่งปันให้แก่ผู้ทุกข์ยาก จวบจนเก็บเกี่ยวข้าว ขนข้าวขึ้นหลองหมดแล้วก็จะทำพิธีส่งนกกลับคืนสู่สวรรค์ พร้อมกับบอกกับนกว่าถ้าปีหน้าเห็นตอไม้ดำ (เกิดจากการเผาไร่) ก็ขอให้ลงมาอีก...

      พวกเราใช้เวลาอยู่กับชาวบ้านที่นี่หลายชั่วโมง ผมเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพกิจกรรมของชาวบ้าน ส่วนหญิงสาวของผมเพลิดเพลินอยู่กับการสานกวางจากตอกไม้ไผ่ สอนโดยหนุ่มใหญ่ชาวปกาเกอะญอผู้หนึ่ง แม้พูดกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการสอน

      เราเลือกพักบ้านผู้ใหญ่บ้าน เพราะใกล้กับลานกลางบ้านที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม รวมทั้งมีห้องน้ำสาธารณะอยู่ใกล้ ๆ ให้เราได้ใช้อย่างไม่ลำบากนัก

      บ้านผู้ใหญ่ คล้ายกับบ้านชาวบ้านทั่วไป เป็นบ้านใต้ถุนสูง โครงสร้างและวัสดุส่วนใหญ่ทำจากไม้ไผ่ โดยเฉพาะฝาและพื้นบ้าน เวลาเดินต้องลงเท้าเบา ๆ มิฉะนั้นผีเรือนอาจสะดุ้งเอาได้ ส่วนเสาบ้านทำจากไม้ทั้งต้น เครื่องเคราต่าง ๆ ส่วนใหญ่ใช้ไม้ท่อนขนาดเท่าต้นแขน

      ผู้ใหญ่บอกว่าเขาออกแบบบ้านเอง เมื่อเราถามว่าใครเป็นผู้ออกแบบ บ้านน่าอยู่ทีเดียวครับ แบบบ้านเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ มีการแบ่งสัดส่วนลดหลั่นกันคล้ายบ้านทรงไทย หน้าบ้านมีระเบียง ถัดจากมาเป็นห้องโล่ง ห้องนอนเจ้าของบ้านกั้นเป็นห้องเล็ก ๆ อยู่หน้าห้องครัวซึ่งอยู่ตอนท้ายของบ้าน หลังบ้านมีพื้นที่ยื่นออกไปเป็นนอกชาน เจ้าของบ้านให้เราพักห้องโล่งด้านหน้าติดระเบียง เพื่อนผู้พี่ผมยึดระเบียงเป็นที่นอนนับดาว

 

๓...

      หลังอาหารมื้อเย็นเราพากันเดินไปที่บ้านพะตีจ่อวาเอ พูดคุยกับแกพักใหญ่ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประเพณีอ่อบื๊อซอโข่ แล้วเดินต่อไปบ้านหน่อมึ ใกล้ ๆ กัน

      หน่อมึ เป็นหญิงสาวชาวปกาเกอะญอที่น้ำใจงดงามเป็นอย่างยิ่ง แม้จะพูดน้อย ถามคำตอบคำ คำว่า ไม่รู้ มักจะเป็นคำตอบสำเร็จของเธอ แต่เธอก็คอยดูแลพวกเราทุกครั้งที่ลงมาเยี่ยมเยียนกันถึงในหมู่บ้าน และเมื่ออำลากลับก็มักมีสิ่งของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย บางคนมิได้มาหน่อมึยังอุตสาห์ฝากของไปให้

      บ้านหน่อมึยามนี้ เต็มไปด้วยหนุ่มสาว บรรดาสาว ๆ กำลังขะมักเขม้นปักย่ามที่ทอกันเองหลายสิบใบ รู้ภายหลังว่าย่ามเหล่านี้จะเป็นของฝากจากทีจอชีให้แขกเยือนและผู้ที่มิได้มา ในขณะที่หนุ่มน้อยสองสามคนนั่งดีดเตหน่า ร้องเพลง ขับลำนำ (ธา) อยู่หน้าบ้านอย่างเพลิดเพลิน

      ยามค่ำคืนที่บ้านทีจอชีอากาศหนาวเย็น ผิดกับตอนกลางวันที่ค่อนข้างร้อน เราลงจากเรือนหน่อมึฝ่าความหนาวเย็นกลับที่พัก หนาวมากครับ เสื้อกันหนาวอย่างหนาช่วยบรรเทาได้เพียงเล็กน้อย

      ระหว่างทางผมแหงนมองฟ้าด้วยความเพลิดเพลิน จนลืมความหนาวเย็นไปชั่วขณะ ฟากฟ้ายามนี้เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เพิ่งจะผ่านขึ้น ๑ ค่ำมาไม่นาน ดวงจันทร์ยามนี้จึงเป็นจันทร์เสี้ยว งดงามไปอีกแบบ หญิงสาวของผมชอบดวงจันทร์ยามนี้เป็นที่สุด

      ผมเป็นโรคแพ้ดวงจันทร์และดวงดาว ชนิดว่าเป็นเอามาก ลาเกอปอ จึงเป็นชื่อหนึ่งที่ขอให้ชาวปกาเกอะญอตั้งให้ มันหมายถึง แสงจันทร์ อันเดียวกันกับ แสงจันทร์กระจ่าง ส่องนำทางสัญจร คิดถึงนางฟ้าอรชร ป่านนี้นางนอนหลับแล้วหรือยัง... นั่นแหละครับ

      แต่ก่อนที่ผมยังเดินทางแรมรอนกลางป่าเขา ก็มักจะหาโอกาสนอนในที่โล่งแจ้งมองหมู่เดือนและหมู่ดาวได้สะดวกโดยไม่สะทกสะท้านกับความหนาวเย็น และหลายครั้งเมื่อกลับบ้านยามที่พ่อแม่เข้านอนแล้ว ผมมักจะแอบออกจากบ้านมาผูกเปลนอนชมจันทร์และนับดาวจนหลับคาตา บางคราวตื่นขึ้นมาดวงจันทร์และดวงดาวอยู่เบื้องหน้า หรือบางคราวตื่นขึ้นมาพบแสงแรกของวัน เป็นความสุขที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม...

      ก่อนถึงที่พักผมและเพื่อนผู้พี่ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาจากศาลากลางบ้าน แม้เสียงจะเบา แต่พอตั้งใจฟังขอบอกว่าเสียงไพเราะจับใจจริง ๆ ทั้งที่ง่วงและหนาวแต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะพาตัวเองไปสู่ต้นเสียง ซึ่งเป็นอย่างที่คิดไว้ หนุ่มชาวปกาเกอะญอ ๓ คน นั่งเล่นเตหน่า ร้องเพลงและขับลำนำ (ธา) อยู่บนศาลานั้น เราขออนุญาตนั่งฟัง ซึ่งศิลปินบ้านป่าก็ยินยอม ร้องเล่นให้เราฟังหลายเพลง

      เตหน่า เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของชาวปกาเกอะญอ มีมาแต่โบราณ รูปร่างคล้ายพิณ ฐานทำด้วยขอนไม้น้ำหนักเบา เจาะเป็นโพรง คันมีลักษณะโค้งงอ ระหว่างฐานและคันจะขึงสาย ๖ เส้น

แต่ก่อนชายหนุ่มปกาเกอะญอจะต้องมีเตหน่าไว้เป็นดนตรีประจำกายทุกคน เพราะเป็นเครื่องมือในการจีบสาว ใครเล่นเก่งก็มักจะมีสาว ๆ มาชอบ ใครเล่นเตหน่าไม่เป็น อาจต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต

      ปกาเกอะญอมีคำสั่งสอนที่ตกทอดมาจากบรรพชนที่เรียกว่าบทลำนา (ธา) การขับลำนำสั่งสอนลูกหลานของคนเฒ่าคนแก่ให้น่าฟัง มักจะใช้เตหน่าเป็นเครื่องดนตรีประกอบด้วย

      เวลาของคืนนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมกลับมาซุกตัวเข้าถุงนอนบนบ้านไม้ไผ่ หลับลงด้วยความอิ่มเอมใจ ภาพจันทร์เสี้ยวและดวงดาวยังติดตาตรึงใจ เสียงขับลำนำ บทเพลงและเตหน่ายังดังแว่วอยู่ในโสตประสาท

หมายเลขบันทึก: 291812เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2009 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่นาสนใจ

ขอบคุณครับ

บทความนี้ผมเขียนไว้นานแล้ว ที่ผ่านมาอ่านอยู่สองคนคือผมกับภรรยา

คิดว่าอยากแบ่งปันให้เพื่อน ๆ กัลยาณมิตรอื่น ๆ ได้อ่านบ้างครับ

  • ได้มาดูเรื่องที่หนานเกียรติเขียนนี้ ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหนานเกียรติอยากวาดรูปได้
  • หนานเกียรติสัมผัสโลกรอบข้าง เขียนถ่ายทอด และสะท้อนภาวะแห่งตน ในแต่ละสถานการณ์ได้ดีและน่าติดตามอ่านจริงๆ
  • หากเขียนรูปและวาดรูปประกอบ เล่าไปด้วยกันระหว่างความกับภาพ เรื่องอย่างนี้ก็คงจะเป็นหนังสือน่าอ่านอย่างมีความสุขมากนะครับ

สวัสดีครับ อ.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

ขอบคุณอาจารย์มาก ๆ ครับ ที่แวะเข้ามาอ่าน ให้ข้อคิดเห็นและให้กำลังใจครับ

ผมเขียนบันทึกแบบไม่มีหลักการใด ๆ เขียนแบบไม่มีทิศทางเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ

และก็คงคิดว่าคนอ่านก็คงอ่านไปเรื่อย ๆ เพลิน ๆ

ผมอ่านงานของอาจารย์แล้วเห็นความเนียนระหว่างปรากฏการณ์และหลักการนามธรรม จึงชอบงานของอาจารย์

เป็นไปได้อยากเขียนได้แบบนี้บ้าง

แต่ที่เคยเรียนกับอาจารย์ไว้ ผมเองกาจจะต้องบ่มเพาะเงื่อนไขบางอย่างก่อน

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท