เพราะทำดี จึงได้ดีเช่นวันนี้
“ โอ๊ย โอ๊ย ช่วยด้วยหมอ “
ภาพของชายร่างท้วม ผิวขาว ถูกตีด้วยวัตถุชนิดหนึ่ง จนเลือดอาบนองไปทั้งศีรษะ เมื่อ 5 ปีก่อน ยังเด่นชัดในความทรงจำของฉันอยู่ เสมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ชะตาชีวิต ช่างโหดร้ายกับผู้ชายคนนี้เหลือเกิน ภาพที่ฉันเห็นตรงหน้านี้ เป็นชายคนเดิม ที่นอนร้องโอดโอยจากการปวดหลัง สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ร่างของเขาถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ เพื่อหาสาเหตุของความเจ็บปวดครั้งนี้
ฉันย้อนระลึกถึงเมื่อ 5 ปีก่อน ฉันรู้จักแม้น ในฐานะผู้ป่วยลมชัก ที่ถูกบิดาเมาเหล้าทุบตี จนเลือดโทรมกายอยู่เป็นประจำ ตอนนั้น ฉันชื่นชมเขา ที่ถึงแม้สมองจะไม่สมประกอบ แต่ก็ยังดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ โดยการรับจ้างนวด ซึ่งมีคนเมตตาสงสาร ให้ครั้งละ 50 – 60 บาท แต่กระนั้น ก็ยังไม่วายถูกบิดาที่ติดเหล้า ทุบตี เพื่อนำเงินอันน้อยนิดของเขา ไปซื้อเหล้ากิน ฉันถามแม้นว่า รู้สึกยังไงกับพ่อ แม้นตอบว่ารักพ่อ
วันนี้แม้น ถูกส่งตัวกลับจากโรงพยาบาลศูนย์ หมอบอกว่าเป็นวัณโรคที่กระดูก ขา 2 ข้างของเขาอ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้เหมือนเคย มีอาการปวดหลังเป็นช่วงๆ ฉันรู้สึกสงสารเขาขึ้นมาจับใจ
ในบ้านของแม้น นอกจากจะมีพ่อ ซึ่งติดเหล้า จนร่างกายพ่ายผอมแล้ว ยังมีแม่ที่เป็นโรคหัวใจและโรคเก๊าท์ มีอาการมาก ปวดขาจนไม่สามารถจะเหยียดขาได้ เป็นมาหลายปี ทำให้ข้อติดไปหมด ผลสุดท้าย ก็ไม่สามารถจะเดินได้ ต้องใช้วิธีกระเถิบไปเรื่อยๆ แทนการเดิน ฉันเคยไปเยี่ยมบ้าน จำได้ดี ถึงภาพบ้านครึ่งปูน ครึ่งไม้ ใต้ถุนสูง แม้นกับแม่จะนอนกางมุ้งอยู่ข้างล่าง หุงหาอาหาร ก็อยู่ข้างๆ มุ้งนั่นแหละ มีทีวีอยู่ 1 เครื่อง ไว้ดูกันทั้งบ้าน พ่อซึ่งมีนิสัยพูดจาโผงผาง ถ้าไม่กินเหล้า ก็ไม่ทุบตีใคร แต่ถ้ากินเหล้า จะชอบอาละวาด ทุบตีทั้งแม้นและแม่อยู่เป็นประจำ จนคนแถวนั้น เอือมระอากันหมด เงินสำหรับใช้จ่ายในครอบครัว ก็ได้มาจากแม้นที่รับจ้างนวด เพียงวันละไม่ถึงร้อยบาท แต่ว่าตอนนี้ แม้นไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป แล้วจะเอาเงินมาจากไหนล่ะ
หลังแม้นออกจากโรงพยาบาลได้ 3 วัน ฉันไปที่บ้านแม้น พร้อมนักกายภาพบำบัด เพื่อฝึกขาให้มีแรงขึ้น ฉันไปพูดกับพ่อแม้นว่า ให้เลิกเหล้า เพราะพ่อต้องเป็นหลักในการดูแลครอบครัว พร้อมทั้งบอกให้แม้นและแม่เลิกบุหรี่ โดยเอาชาชงหญ้าดอกขาว ไปให้กินเวลาอยากสูบบุหรี่ ทุกคนรับปาก ทำให้ฉันรู้สึกดีใจ และคิดไปเองว่าคงสำเร็จแน่
แต่ทุกอย่าง ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ ฉันไปบ้านแม้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องรู้สึกผิดหวัง เมื่อพบว่าพ่อของแม้น ยังดื่มเหล้าหนักและดุด่าว่าแม้นเหมือนเคย ทำให้แม้นและแม่เครียด จนต้องกลับไปสูบบุหรี่ ฉันรู้สึกมึนไปหมด ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยหรือนี่ ฉันจะทำอย่างไรดี ถึงจะทำให้พวกเค้าดีขึ้น ฉันเหลือบไปเห็นหน้าของแม่แม้น ดูป้าแกสิ หน้าตายับย่น บ่งบอกถึงสังขารอันร่วงโรย ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า มีแต่ท่าทางที่เหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา แววตาดูแห้งแล้ง เหมือนคนที่ไม่มีความหวังหลงเหลืออยู่ ฉันทนดูแววตาคู่นั้นไม่ได้อีกต่อไป
“ ลุง ลุง อยู่ข้างบ้านแม้น ใช่ไหม “
“ ใช่ หมอมีอะไรกับฉันเหรอ “
“ ลุงว่า ทำยังไง ถึงจะให้พ่อแม้นเลิกเหล้าได้ล่ะ “
“ โอ๊ย อย่าไปยุ่งกับมันจะดีกว่า มันกินมาตั้งสิบยี่สิบปีแล้ว ต้องให้มันตายนั่นแหละถึงจะ
เลิกได้ “
คำพูดของลุงข้างบ้าน ทำให้หัวใจของฉัน ห่อเหี่ยวลงอีกครั้ง แต่ฉันก็จะลองดู ฉันนึกในใจ ว่าแล้วก็ให้คนที่อยู่รอบๆ บ้าน มานั่งช่วยกันคิดหาทางช่วยเหลือ โดยพวกเขาคิดว่า จะไม่ให้เหล้าและบุหรี่กับคนบ้านนี้ เวลาจ้างให้นวด ก็จะไม่ให้ค่าจ้างเป็นเหล้า,บุหรี่ และจะไม่ชวนดื่มเหล้าเป็นอันขาด
1 เดือนต่อมา แม้นขยันทำกายภาพบำบัดให้ตัวเองทุกวัน จึงมีอาการดีขึ้นมาก ขา 2 ข้างเริ่มมีแรง สามารถใช้สี่ขาพยุงเดินได้ดี แม่และแม้นเลิกบุหรี่ได้ แต่พ่อยังดื่มเหล้าเหมือนเดิม เอาเงินจากที่ตัวเองหันมารับจ้างนวด ไปซื้อเหล้ากินเอง โชคดีที่ทางเทศบาลได้ให้เบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยผู้พิการกับครอบครัว ทำให้ฉันเริ่มเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของแม้นและแม่เป็นครั้งแรก
เหตุการณ์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อวันที่หมอนัดแม้น มาตรวจที่โรงพยาบาล พ่อซึ่งกำลังเมามาย ไม่ได้สติ ขึ้นมาอาละวาดบนโรงพยาบาล จนต้องให้ตำรวจจับส่งบ้าน ความหวังที่จะทำให้พ่อแม้นเลิกเหล้า ดูเหมือนเลือนรางเต็มที ในความคิดของฉัน
หลังเหตุการณ์วันนั้น ฉันตัดสินใจไปบ้านแม้นอีกครั้ง และพูดกับพ่อแม้นว่า “ หมอจะไม่ยุ่งกับลุงอีกแล้วน่ะ เพราะลุงไม่เลิกเหล้าเสียที ถ้าลุงมีอาการคราวนี้ คงจะให้ตำรวจจัดการแล้วล่ะ”
3 เดือนผ่านไป
“ หมอ ผมทำว่าว มาให้ลูกหมอเล่น “
ฉันเจอแม้น ในวันที่มารับยาตามนัด แม้นชูว่าวตัวใหญ่ให้ฉัน
“ สวยจังเลย ขอบคุณมากน่ะ ทำเองเหรอ “
“ ผมทำเองครับ ตอนนี้ มีคนมาจ้างผม ทำว่าวทุกวันเลย “
แม้นเล่าว่า ตอนนี้ที่บ้านเริ่มมีเงินใช้ พ่อก็เลิกเหล้ามาหลายเดือนแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์ แม้นให้พ่อหมด เพราะรักพ่อ ฉันรู้สึกชื่นชมผู้ชายคนนี้เหลือเกิน ถึงพ่อจะเคยโหดร้ายกับเขาแค่ไหนแต่เขาก็ยังรักพ่อเสมอ
มาถึงตอนนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พ่อของแม้นถึงได้ตัดสินใจเลิกหล้าได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ทำยังไง ก็ไม่สามารถเลิกได้ซะที แต่ไม่ว่าเพราะสาเหตุใดก็ตาม ฉันก็พลอยอิ่มเอมใจไปกับครอบครัวนี้
ภาพที่ฉันอดยิ้มกับตัวเองทุกครั้ง เมื่อได้เห็น เป็นภาพของพ่อลูก ที่อดีตเคยทุบตีกันอย่างรุนแรง บัดนี้เปลี่ยนมาเป็นพ่อขี่สามล้อเครื่องให้ลุกนั่ง พร้อมกับหยอกล้อกันไปตลอดทาง
นี่เป็นผลของความกตัญญูที่แม้นมีให้พ่อหรือเปล่าน่ะ
“ ถึงเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเป็นคนดีได้ “
คนที่ยึดมั่นในการทำความดี ก็ย่อมจะส่งผลดีทั้งต่อตัวเองและผู้ที่อยู่รอบข้างเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว ขอเพียงอดทนในการทำความดี อย่าย่อท้อต่ออุปสรรค เฉกเช่น แม้น เพราะทำดี จึงได้ดีเช่นวันนี้
ผู้เขียน
สุภา ทองพรหม
กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน
เชิญพี่ๆน้องน้องมาอ่านและแสดงความคิดเห็นด้วยนะจ๊ะ กว่าจะลงblogได้ลองผิดลองถูกหลายครั้งเลยค่ะ แต่ตอนนี้ลงได้แล้วดีใจมากๆค่ะ....น้องหมูเองจ้า
เยี่ยมมากครับ เป็นกำลังใจให้ทำต่อไป สู้ๆๆๆครับ
เชื่อมั่นเหมือนกันว่า..เพราะทำดี จึงได้ดี