เราจะเริ่มต้นกัน...ตรงไหนดี


ความรู้ ... (การศึกษา)

เราจะเริ่มต้นกัน...ตรงไหนดี?

                                                  โดย คุณสมจิตร

 

คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง  สาดแสงสีนวลผ่องเข้ามาในห้องนอนของฉัน  สายลมพัดแผ่วเบา  แมลงกลางคืนส่งเสียงร้องดังระงม  เป็นคืนที่แสนสุขของใครหลาย ๆ คน  แต่คืนนี้ฉันกลับนอนไม่หลับ คิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมาพร้อมกับคำถามในใจของฉัน......เราจะเริ่มต้นกันตรงไหนดี?

 สายวันหนึ่ง....ฉันได้รับ  case ให้คำปรึกษาก่อนตรวจเลือดหาเชื้อHIV  Case หนึ่ง  ผู้หญิงวัยสามสิบต้น ๆ   รูปร่างผมบาง  ผิวคล้ำกร้านแดด  ลักษณะเป็นคนที่กรำงานหนักมาพอสมควร  ใบหน้าของเธอดูเหมือนไม่พบรอยยิ้มมานานแล้ว ดวงตาเศร้าและสับสน ฉันกล่าวทักทายสวัสดีและแนะนำตัวเอง สอบถามเบื้องต้น พบว่าเธอมาโรงพยาบาลคนเดียวโดยขับจักรยานยนต์มาเอง  จะมาขอตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ  HIV เพราะเพิ่งทราบว่าสามีติดเชื้อและรับยาต้านไวรัสที่โรงพยาบาลนี้อยู่  พอพูดตรงนี้น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา  เหมือนทำนบเขื่อนที่อั้นน้ำไว้ไม่ไหว  จนมันแตกออกมา  เธอบอกว่า    พี่รู้ไหมว่าหนูโง่ขนาดไหน สามีหนูเป็นเอดส์เขารู้กันทั้งหมู่บ้าน  แต่หนูไม่รู้  เขาไม่เคยบอกหนูเลย  หนูเคยสงสัยว่าทำไมชาวบ้านเขามองหนูแปลก ๆ  บางคนพูดว่า หนูอยู่กับสามีมาตั้งนาน  ทำไมไม่แสดงอาการออกมาสักที  ขนาดสามีของมันแอบไปกินยาในสวนยางทุกวัน  มันยังไม่รู้เรื่อง หนูจึงไปสอบถามสามี  คาดคั้นจนเขายอมรับว่า  เขาติดเชื้อมานานแล้ว  ก่อนที่เขาจะไปขอหนูแต่งงานเสียอีก  พี่รู้มั้ยตอนนั้นหนูรู้สึกอย่างไร  มันเหมือนโลกทั้งใบหล่นทับมาบนตัวหนู  มันชาไปหมดทั้งตัว  พอได้สติหนูวิ่งไปหยิบมีดจะแทงเขาให้ตาย  เขาร้องไห้ยกมือไหว้หนู  บอกว่าขอโทษ...เขาไม่กล้าบอกหนู  กลัวหนูทิ้งเขาไป  เขาบอกว่าเขารักหนูมาก  เขาให้พ่อแม่ไปสู่ขอหนูถึงที่บ้านที่อิสาน  ทั้ง ๆ ที่หนูเป็นม่ายมีลูกติดคนหนึ่ง  กับลูกของหนูเขาก็รัก  เรียกเขาว่าพ่อทุกคำ ตอนนี้หนูพาลูกของหนูไปฝากให้ตากับยายดูแล  ไม่อยากให้ลูกคลุกคลีกับเขามากนักเพราะช่วงหลังเขามีอาการไอบ่อยครั้ง  ตอนที่ยังไม่รู้ว่าเขาติดเชื้อ  เขาไม่เคยใช้ถุงยางอนามัยเลย  พี่คิดดูว่าเขารักหนูแบบไหน  ปากบอกว่ารักหนู  แต่เขาไม่กลัวว่าหนูจะติดเชื้อจากเขาเลย

ตลอดเวลาที่เธอเล่าเรื่องราวของเธอให้ฉันฟัง  น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วมันก็ไหลออกมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ฉันให้กำลังใจเธอเป็นระยะ ๆ    หลังจากเธอสงบลง  ฉันเริ่มคุยเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจเลือด  ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์และการนัดฟังผลเลือด  ดูเธอค่อนข้างเรียนรู้เร็ว  ซึ่งก่อนตัดสินใจมาตรวจเลือด  เธอคงหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคมาบ้างแล้ว  จึงเป็นการง่ายในการทำความเข้าใจ  ก่อนเจาะเลือดฉันถามเธอว่า   ถ้าติดเชื้อเธอจะทำอย่างไร ? เธอบอกว่าถ้าหนูเป็น  หนูคงกลับบ้านที่อิสานไม่ได้  ที่บ้านหนูใครเป็นโรคนี้เขาจะรังเกียจมาก  หนูจะรักษาตัวที่นี่  วันนี้กว่าจะสรุปCase นี้ได้  ฉันใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง

2 สัปดาห์ต่อมา... นัดฟังผลเลือด  วันนี้ฉันได้เห็นรอยยิ้มของเธอ  ได้เห็นความไว้วางใจต่อระบบการให้คำปรึกษาของโรงพยาบาลเรามากขึ้น  เธอบอกว่า  เธอรู้สึกดีขึ้นที่มีคนเข้าใจและเห็นใจ  ไม่ว่าผลเลือดจะออกมาอย่างไร  เธอคิดว่าจะรับมือกับมันได้

แต่พี่รู้มั้ย...หนูไม่อยากให้มีกลางคืนเลย  หนูกลัวเขาจะมาขอนอนกับหนู  ทั้งๆ ที่ใส่ถุงยางอนามัยแต่หนูรู้สึกขยะแขยงไม่ยอมนอนกับเขา  เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น  เขามักออกไปกินเหล้ากับเพื่อนบ่อยมากขึ้น  งานการไม่ทำ  ปล่อยให้หนูต้องเก็บยางอยู่คนเดียว  มันก็ดีสำหรับหนู   เมื่อทำงานหนักมากขึ้น  จะได้ไม่มีเวลาคิดมาก  ขออย่างเดียวอย่าให้เขามานอนกับหนู

ผู้หญิงคนนี้  ไม่ใช่คนเดียว...คนแรก...หรือคนสุดท้าย  ที่มาหาเราด้วยปัญหาอย่างนี้  มีหลายคนที่ต้องเจ็บปวดกับโรคร้ายที่มาพร้อมกับคนที่เธอรักและไว้วางใจมากที่สุด  ทั้งๆ  ที่โรงพยาบาลเรามีการบริการต่าง ๆ เช่น  การให้คำปรึกษาและตรวจเลือดก่อนแต่งงาน   แต่ก็มีคู่รักน้อยรายที่มาใช้บริการของเรา เขารักกันจริงหรือเปล่า ?  เราให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์เข้าไปถึงโรงเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา  มัธยมศึกษา  แต่ก็พบว่าผู้ติดเชื้อHIV เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยลง ๆ เรื่อยๆ  คลินิกให้บริการผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์  เราติวเข้มเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยทุกคน  เพื่อลดการติดเชื้อไม่ว่าจากคู่สามีภรรยา  หรือจากแม่สู่ลูก  แต่เราก็พบว่าผู้ติดเชื้อยังใช้ถุงยางอนามัยได้ไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ติดเชื้อที่มีอาการดีขึ้น  สุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  กลับไปมีครอบครัวใหม่  มีลูกใหม่  โดยเฉพาะกลุ่มที่ปกปิดตนเอง....  ฉันพยายามหาคำตอบว่า        

                                  

          ความรู้ ... (การศึกษา)

       ความรัก  ความเมตตา... (จิตสำนึก)

                หิริและโอตัปปะ...(คุณธรรม)

     เราควรจะเริ่มต้น.......ตรงไหนดี ?

หมายเลขบันทึก: 292074เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2009 07:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หลายๆ คนที่ทำงาน เกี่ยวกับ couseling คงจะเจอ case แบบนี้ เข้าใจความรู้สึกพี่เค้าเลย

เราคนหนึ่งก็เคยเจอ case คล้ายๆ กัน โอ้โฮ ... จี๊ดเลยแหละ แต่ ก็ละนะ ต้องบังคับหัวโขน couselor ไว้ให้อยู่

ไม่งั้นละงานเข้าแน่....ถ้า อิน ไปกะผู้ป่วย

หลายๆครั้งที่เคยพูดคำๆนี้ .....เราจะเริ่มต้นกันตรงไหนดี .....

มันสะกิดใจมากเลย ในระบบของการทำงาน หลายๆคนคงจะมีคำถามแบบนี้ แว๊บ เข้ามาในสมอง

ตั้งสติ.....แล้วจะมีคำตอบ ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท