การสั่งการและอำนาจ...
เป็นรูปแบบของความคุ้นเคยที่มนุษย์ที่เป็นคนหน้างานติดยึดอยู่ อำนาจที่ว่านี้มีหลากหลายแปรออกมาเป็นรูปแบบ...อำนาจแห่งการสั่งการ ดั่งเช่นเป็นนโยบาย เจ้านายสั่งให้ทำ ... เอาเงินหว่านลงไป หรืออะไรก็แล้วแต่ที่โน้มมาทางแนวนี้
อำนาจดั่งกล่าว เป็นอำนาจที่ดูเป็นการลดทอนศักยภาพแห่งความเป็นมนุษย์
เป็นอำนาจที่ทำให้มนุษย์ผู้เป็นคนหน้างาน ไร้ซึ้งความหมายและคุณค่า ของการใช้ปัญญา
ในการทำ R2R ก็เช่นกันเมื่อเป็นกระแสที่ชื่นชอบ เพราะมนุษย์ได้มาเสพพลังแห่งความสุข แต่มนุษย์ต่างขาดการใคร่ครวญว่าความสุขที่ว่านั้นเกิดมาได้อย่างไร มนุษย์เราก็เคลื่อนกลับไปสู่การติดกับดักอีกเช่นเคยกับการใช้อำนาจและการสั่งการ เพราะคิดว่า การทำเช่นนี้จะทำให้เกิดความเจริญและการพัฒนา...
แต่ผู้คลั่งในอำนาจ...กลับลืมมองว่ามีอำนาจอันหนึ่งที่แฝงและทำให้ความดีความงามแห่งการปรากฏของ R2R เกิดขึ้น นั่นคือ อำนาจแห่งความดีที่มีอยู่ในความเป็นมนุษย์ ... เป็นอำนาจแห่งความงดงามที่ออกมาจากใจ
ในการพัฒนา...คนที่มุ่งหน้าพัฒนาแต่ลืมเรื่องของจิตใจไป
พัฒนาไปมากเท่าไร ก็ยากที่จะเห็นผล เพราะคนที่กำลังการพัฒนานั้นปราศจากซึ่งความสุข เป็นการพัฒนาด้วยอำนาจด้านลบ และพลังแห่งความก้าวร้าวในจิตใจ ที่มุ่งไปแต่การแข่งขันมากกว่าการแบ่งปัน...
การเรียนรู้การทำ R2R ของข้าพเจ้าที่ผ่านมา ... อำนาจด้านลบไม่สามารถนำมาสู่การลดทอน
และการกลับไปติดกรอบและกับดักใดใดได้...
การก้าวเดิน ... คือ การร้อยเรียงใจจากคนหน้างานมาสู่กันและกัน ซึ่งในบุคคลที่หลงใหลในอำนาจอาจมองว่าทำแล้วเหนื่อยและเห็นผลช้า ... แต่นั่นไม่ได้สำคัญในทัศนะของข้าพเจ้าเอง การดำเนินไปเช่นนี้ทำให้เกิดยั่งยืนมากกว่า เพราะเป็นความยั่งยืนที่มาจากศรัทธา ซึ่งความศรัทธานี้ทำให้คนหน้างานมีความอดทน มีความเพียร ที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายของการทำงานนั่นคือ งานที่ทำเจริญขึ้น และที่สำคัญจิตใจของคนทำงานก็เจริญตาม ... เป็นการก้าวไปในเส้นทางการทำงานที่ไม่ติดกับดักในลาภ ยศ สรรเสริญ ที่มาในรูปของเจ้านายชื่นชม ได้สองขั้น เงินเดือนเพิ่ม...แต่สิ่งที่ได้มีคุณค่ามากกว่าอันยากที่จะบอกใครได้นอกจากบุคคลนั้นจะเคลื่อนนำพาตนเองมาซึมซับด้วยตนเอง...
ในสมัยพุทธกาล...
พระพุทธองค์เผยแพร่ความรู้ที่พระองค์ได้ค้นพบ พร้อมเหล่าสาวก... เป้าหมายของพระพุทธองค์ไม่ได้มุ่งไปที่เจ้าสำนักใดสำนักหนึ่ง(หัวหน้า/ผู้นำ)... หากแต่เคลื่อนไปในทุกๆ สรรพสิ่ง ...แต่ว่าถ้าหากเจ้าสำนักใดเกิดปัญญาเห็นชอบในคำสอนที่พระพุทธองค์เผยแพร่ ... ก็ย่อมน้อมนำในคนในสำนักนั้นเห็นพ้องไปตามได้ เพราะธรรมชาติมนุษย์มีความขลาดต้องจำพึ่งจ่าฝูง (ผู้นำ) อยู่ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นกฏตายตัวธรรมชาติ เพราะมนุษย์เป็นผู้เกิดมาพร้อมการขยายโครงสร้างทางปัญญา...ดังนั้น ในการเผยแพร่ขยายวงแห่งการเรียนรู้นี้จึงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบที่ตายตัวแน่นอน...
แต่โจทย์...มีว่า ทำอย่างไร ที่เราจะน้อมนำให้ผู้คนได้เกิดปัญญา...อันมาจากศรัทธาที่แท้ได้
ในทัศนะการทำ R2R ของข้าพเจ้าจึงค่อนข้างเคารพในคนหน้างาน เพราะคนหน้างานนั้นเป็นมนุษย์...มนุษย์ที่พร้อมก้าวไปสู่การเรียนรู้ทางปัญญามากกว่าการถูกครอบงำด้วยอำนาจใดใด...หรือหากเป็นอำนาจก็ขอให้เป็นอำนาจแห่งภายในบุคคลนั้นเอง อันได้แก่ ความศรัทธา ความวิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา...มากกว่า
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมักถามตนเองเสมอว่า...ทำ R2R เพื่ออะไร
เพื่อน้อมนำให้คนหน้างาน...ได้มองเห็นและได้ใช้กระบวนการคิดอันเป็นระบบที่สอดคล้องกับความเป็นจริงแห่งธรรมชาติที่ว่า ปัญหามีเหตุที่มา และลงมือแก้ที่เหตุแห่งนั้น พร้อมทั้งเรียนรู้จากบุคคลอื่น สิ่งอื่นมาประกอบการแก้ปัญหานั้น (review) แต่ไม่ใช่นำมาใช้ทั้งหมด...จากนั้นก็วัดและประเมินผลดูว่า ที่เราได้พิจารณาและกระทำมาดังกล่าว มีผลเป็นอย่างไรมีตรงไหนยังเป็นจุดอ่อนหรือเป็นจุดแข็ง มีประเด็นใดบ้างที่ยังเป็นโอกาสของการพัฒนาต่อได้...จากนั้นก็มีการบันทึกเก็บไว้ (รายงานวิจัย)...
กระบวนการเช่นนี้...มุ่งผลที่เกิดที่เป็นการมุ่งผลเกินกว่าที่จะได้เพียงแค่ว่า "รายงานวิจัย" หนึ่งฉบับ...เท่านั้น
เมื่อคนหน้างานได้เรียนรู้...เส้นทางวิถีการงานนี้ต่อตนเอง...
การดำรงอยู่ในแต่ละวินาทีของคนหน้างานจะมีคุณค่า มีความหมายมากขึ้น เพราะคนหน้างานเหล่านี้ได้เริ่มเคลื่อนไปสู่ความเป็นอิสระ...อิสระที่จะได้ใช้ปัญญาของตนเองอย่างใคร่ครวญ...นั่นเอง
ความเป็นอิสระดังกล่าว...
ต้องไม่ได้มาจากการสั่งการ เพราะการสั่งการไม่ได้เป็นเส้นทางเคลื่อนไปสู่ความเป็นอิสระ...
หากแต่ความเป็นอิสระนั้นมา...จากความศรัทธา ซึ่งอันหมายถึงใจ...
เห็นด้วยค่ะ
อำนาจที่สั่งการนอกจากจะทำให้คนหน้างานรู้สึกสมเพศตนเองแล้ว ยังเป็นการบ่อนทำลายความเป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์ลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ขอบคุณค่ะ
ไม่ใช่แค่อาศัยอำนาจแล้วจะสามารถสั่งการทุกอย่างได้ แล้วอำนาจก็ไม่ได้มาซึ่งความชอบธรรมใดๆ
ผู้บริหารหากรู้จักใช้ R2R ด้วยใจ คงเข้าถึงใจของลูกน้องทั้งหลายได้ไม่ยาก และองค์กรคงพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว