ด้วยหวังและกำลังใจ


เมื่อใดที่เรามีกำลังใจและความหวัง ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

ด้วยหวังและกำลังใจ

วันนั้นฉัน ขึ้นปฏิบัติงานเวรบ่าย  ขณะกำลังก้มลงฉีดยาให้ผู้ป่วยเตียง17  ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง  หมอ...ช่วยด้วย  ผมเจ็บก้นเหลือเกิน ฉันเหลือบตาขึ้นมองว่าเสียงนั้นมาจากไหน  ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้ยินอีกครั้งว่าขยับก้นให้ผมหน่อยเจ็บก้นมากเลย  เป็นเสียงของผู้ป่วยดังมาจากเตียง14    ฉัน...ซึ่งกำลังฉีดยาเสร็จ  รีบเก็บอุปกรณ์แล้วเดินมาหาธานี  นึกแปลกใจ..เพราะปกติแล้วธานีจะไม่เคยเรียกร้องอะไรมาก  จะนอนนิ่งๆอยู่เฉยๆไม่คุยกับใคร  จนบางครั้งฉันตกใจว่ายังหายใจอยู่หรือเปล่า  ทุกครั้งที่ฉันขึ้นปฏิบัติงานก็จะเดินไปถาม  หรือให้น้องผู้ช่วยเหลือคนไข้ไปถามว่าธานีจะกินน้ำ  จะเอาอะไรไหม  ธานีบอกว่าขอกินน้ำแก้วนึง  แล้วจะขอบคุณทุกครั้ง   เช้า กลาง  วัน  เย็น  ก็จะมีน้องผู้ช่วยเหลือคนไข้เป็นผู้ป้อนอาหารให้เพราะมือของธานีหยิบจับอะไรไม่ได้เลย 

  ฉันก้มลงถามว่าจะให้ช่วยอย่างไรธานีตอบว่าช่วยขยับก้นให้ผมหน่อยผมเจ็บก้นเหลือเกิน  ฉันขยับก้นให้ธานีเล็กน้อย  เพราะถ้าขยับมากก็กลัวจะไปกระทบกระเทือนกระดูกสันหลัง

ธานี  ชายร่างผอมผิวขาว อายุ 43 ปี  ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลพุทธชินราช  เพื่อรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน  มีภาวะบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังต้องใส่เฝือกเหล็กระหว่างศีรษะคอไหล่  ทำให้ไม่สามารถขยับตัวใดๆ ได้เลย  แขนขาก็ไม่มีแรง  ต้องนอนเหยียดตรงท่าเดียว    เพราะเหตุนี้ ธานีจึงมีแผลกดทับที่ก้น  และมีภาวะติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ  ต้องให้ยาฆ่าเชื้ออยู่หลายวัน    สภาพของธานี ตอนนี้  มีเพียงการหายใจและการกลืนอาหารเท่านั้น ที่เค้าสามารถทำเองได้ นอกนั้น ต้องมีคนช่วยทำให้ทั้งหมด  แล้วถ้ากลับไปบ้าน ใครจะเป็นคนดูแลเค้าน่ะ  ฉันคิด  ตั้งแต่ธานีมานอนโรงพยาบาล ยังไม่เคยเห็นญาติคนไหน มาเฝ้าเลย มีแต่มาเยี่ยมแล้วก็กลับไป    คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าแขนขาของธานี จะกลับมามีแรงเหมือนเดิม  เรื่องใหญ่เลยล่ะ

เมื่อ20ปีก่อนผมก็เคยมีเมียแต่ตอนนี้เลิกกันไปนานแล้ว  มีลูกผู้หญิงคนหนึ่งป่านนี้ก็คงโตเป็นสาวแล้วล่ะ  ผมกินเหล้าเมายาตามประสาไม่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี  เมียผมเลยหนีไป  ผมอยู่กับแม่แก่ๆ  ตามองไม่เห็น  เดินไม่ได้  ผมรับจ้างเล็กน้อยทั่วไป  ใครจ้างทำอะไรผมก็ไป  เลี้ยงแม่มาตลอด  พ่อผมเหรอ  บวชเป็นพระหลายปีแล้ว  ไม่เคยมาดูแล  ผมมีพี่สาวอีกสองคนทำงานอยู่กรุงเทพฯ  ส่งเงินมาให้ใช้แต่นานๆครั้ง  ธานีเล่าเรื่องชีวิตตัวเองด้วยเสียงเศร้าๆ ในตอนบ่ายวันหนึ่ง  เมื่อฉันไปนั่งคุยด้วย

ไม่รู้ผมจะเดินได้หรือเปล่า ฉันนั่งฟังแล้วก็ได้แต่สงสารและพูดปลอบใจว่าให้ธานีสู้ๆสักวันธานีต้องเดินได้ 

ระหว่างนอนโรงพยาบาล  ธานีได้รับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างดี  ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความสะอาดทั่วไป  ป้อนอาหาร  ทำแผลกดทับจนแผลที่ก้นดีขึ้น  มีนักกายภาพบำบัดมาฝึกให้ธานีทำกายภาพทุกวัน  ฝึกยกถุงทราย  ขยับแขนขาและให้ฝึกทำช่วงเวรบ่ายเวรดึก  โดยมีพี่ๆน้องๆพยาบาล  ผู้ช่วยเหลือคนไข้เต็มใจช่วยกันฝึกเป็นอย่างดี  ทำให้ธานีมีกำลังใจที่จะทำ  จากแขนขาขยับไม่ได้เลย  จนสามารถยกแขนขาได้เอง  สูงขึ้นเป็นลำดับ  จับไม้กั้นเตียง  ขยับก้นได้ด้วยตนเอง  ทำให้ทุเลาอาการเจ็บก้น  เวลาที่มีนักกายภาพบำบัดมาฝึก  ธานีจะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัด  หัวเราะสนุกสนาน  ฉันยืนมองอยู่ห่างๆ  แอบยิ้มอยู่คนเดียว  ดีใจกับธานีที่อาการของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ 

ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ธานี ก็ยังไม่มีวี่แววของญาติที่จะมาเฝ้าอาการของเขา มีเพียงพี่สาวที่จ้างผู้ช่วยเหลือคนไข้ในการดูแลอาบน้ำ  ป้อนข้าวให้ธานี  ( พี่สาวค่อนข้างมีเงินพอสมควร ) 

เวลาผ่านไปเกือบเดือน  ธานี  อาการดีขึ้น  แพทย์เจ้าของไข้ ให้ตามญาติมารับธานีกลับบ้าน  ฉันต่อสายโทรศัพท์ให้แพทย์คุยกับญาติ  เสียงของแพทย์ที่อธิบายถึงอาการของโรค  แผนการรักษา    การดูแลต่อเนื่องที่บ้าน  จบด้วยต้องมารับธานีกลับบ้าน  พอหมอวางโทรศัพท์ฉันก็รีบถามหมอทันที  อย่างคนอยากรู้ว่า  อาผู้ป่วยพูดว่าอะไรบ้าง  หมอรีบบอกโดยเร็วว่า  อาเขาบอกว่ายังรับกลับไม่ได้  ไม่มีคนดูแล  พี่สาวเขาก็ปล่อยแล้วไม่เอาแล้ว  อาก็มีครอบครัวต้องดูแล  ฝากโรงพยาบาลไว้ก่อนก็แล้วกัน  หมอบอกว่าให้อยู่ต่อจนถึงวันที่โรงพยาบาลพุทธชินราชนัด

อีก 3 วันต่อมา  หมอให้รถโรงพยาบาลไปส่งธานีไปโรงพยาบาลพุทธชินราชตามนัดแต่เช้าโดยมีอาของธานีไปด้วย  วันนั้นฉันมาขึ้นปฏิบัติงานเวรเช้ามองไปที่เตียง14  เห็นเตียงว่างเปล่าก็ใจหายเหมือนกัน  เพราะดูแลกันมาเกือบเดือน

ฉันยกนาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลา   บ่ายโมงกว่าแล้ว  ฉันพร้อมด้วยทีมเยี่ยมบ้าน เป็นพี่พยาบาลสองคน  นักกายภาพบำบัด  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยและอาสาสมัครสาธารณสุข  ลงจากรถ  เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยบอกต้องเดินข้ามคลองไปอีก  ฉันเดินตามพี่พยาบาลที่ไปด้วยกันข้ามคลองซึ่งมีไม้กระดานแผ่นเล็กๆวางคู่กันอยู่สองแผ่น  ฉันนึกในใจจะตกหรือเปล่านี่  ฉันเดินข้ามคลองไปด้วยขาสั่นๆเพราะกลัวตกสะพาน  แต่ก็ข้ามได้สำเร็จ  ซึ่งก็บ่นเบาๆว่าทำไมลำบากอย่างนี้  มาหยุดอยู่ที่  บ้านไม้เก่าๆสองชั้น  ใต้ถุนโล่งสูง   อาของธานียืนรอต้อนรับอยู่ตรงบันได  อ้าวหมอมากันแล้วเหรอ  ขึ้นบ้านเลย  คนป่วยนอนอยู่บนบ้านพวกเราเดินขึ้นบันไดโดยมีอาเดินนำหน้า    สูงพอสมควร  เดินขึ้นบันได้ยังไม่ถึงบนบ้าน  ฉันเห็นยายแก่ๆ  รูปร่างผ่ายผอม  นั่งเหยียดขา  ตาไม่ลืม  นั่งพูดอะไรอยู่คนเดียว  ฉันนึกในใจต้องเป็นแม่ธานีแน่ๆเลย  เมื่อขึ้นไปบนบ้านสายตาของพวกเราก็หันไปมองธานี  เห็นแล้วจะขาดใจ  บรรยายไม่ถูก  ธานีนอนอยู่บนฟูกเก่าๆ  ไม่มีผ้าปูรอง  อาของธานีบอกว่า  ผ้าปูฉันพึ่งรื้อออกเดี๋ยวนี้เอง  ธานีถ่ายไว้เต็ม  ฉันเลยไม่รู้จะทำอย่างไรเลยไปซื้อแพมเพิร์สมานุ่งให้  นุ่งก็ไม่เป็น  นุ่งแบบนี้ถูกรึเปล่าหมอ  ยังไม่รู้เลยว่าผ้าปูนี้ใครจะซัก  อาของธานีบ่น  ฉันมองไปที่ธานีที่นอนอยู่บนฟูก  เสื้อไม่ได้ใส่เหงื่อเต็มกาย  มีแพมเพิร์สห่อบริเวณก้นอยู่ในสภาพหลุดลุ่ย  ฉันนั่งลงข้างธานี  ได้กลิ่นตัวเต็มที่  จนต้องกลั้นหายใจ  แสดงว่าธานีไม่ได้รับการเช็ดตัวเลย  ธานีมีสายสวนปัสสาวะคาอยู่  ถุงปัสสาวะวางอยู่ข้างๆตัว  มีปัสสาวะอยู่ในถุงสีเหลืองเข้มขุ่นเต็มถุง  อาธานีบอกว่าฉันก็เทออกไม่เป็น  ฉันรีบกุลีกุจอนุ่งแพมเพริสให้ธานี  สังเกตเห็นบริเวณปลายอวัยวะเพศมีหนองซึม  สายปัสสาวะขุ่นเป็นหนอง  ในใจนึกว่าจะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำหรือเปล่าน่ะ  สภาพเฝือกเหล็กดูโคลงเคลงไม่เข้าที่  ฉันถามน้องกายภาพบำบัดว่าขยับได้ไหม  น้องกายภาพบำบัดดูแล้ว  บอกว่าน๊อตหลุดไป2ตัว 

  พี่ช่วยหนูจับตรงหัวนะ  หนูจะขยับเหล็ก  เราช่วยกันอย่างทุลักทุเล  ฉันจับตัวธานีร้อนมาก  ถามธานีว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

ตัวร้อนปวดคอกินพาราแล้ว

โรงพยาบาลพุทธชินราชไม่ได้ให้ยาอะไรมาเลยฉันเห็นเขาปวด  ฉันเลยไปเบิกยาที่โรงพยาบาลมาเมื่อกี้  อาธานีบอก

ฉันรีบดูถุงยามียาแก้ปวดกับยาคลายกล้ามเนื้อ  ก็รีบให้ธานีกินยาทันที  ระหว่างที่ฉันกำลังสาระวนอยู่กับธานี  พี่พยาบาลที่ไปด้วย2คน  นั่งคุยกับแม่ของธานี  ถามถึงอาการของแม่เป็นอย่างไรบ้าง  แม่บอกว่าตาก็มองไม่เห็นขาก็เดินไม่ได้ น้องกายภาพบำบัดก็มาฝึกเดิน  แม่บอกเดินไม่ได้  ถ้าเดินต้องล้มแน่เลย  พวกเราก็ให้กำลังใจว่าแม่ต้องเดินได้  ตอนนี้ไม่รู้ใครจะดูแลใคร 

พวกเราคุยกับอาของธานี   ว่าจะให้พ่อที่บวชเป็นพระดูแลหรือสึกออกมาดูแลภรรยา  ลูก  ซึ่งอยู่ในสภาพนี้ทั้งสองคน 

โอ๊ยเขาไม่มาหรอกหมอเขาคงไม่สึกหรอก  ไม่รู้จะทำอย่างไร ฉันก็มาอยู่ทั้งวันไม่ได้  เพราะเมียฉันเป็นอัมพาตเหมือนกัน  อาของธานีบอก

ฉันนั่งฟังแล้ว  รู้สึกสะเทือนใจ 

พวกเราปรึกษากันและลงความเห็นว่า  ต้องพาธานีไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ  สงสัยจะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำ  แผลกดทับก็ไม่ได้ทำ  พวกเราติดต่อรถEMSไปรับ ธานีติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจริงๆ  ต้องส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลพุทธชินราช  ฉันคุยกับพี่พยาบาลที่ไปด้วยกันดีนะที่พวกเราไปเยี่ยมเร็ว  ถ้าไปช้ากว่านี้ธานีคงติดเชื้อในกระแสเลือดตาย  วันนั้นที่ว่าจะไปเยี่ยมคนไข้หลายคน  เลยได้เยี่ยมธานีคนเดียว  แต่ก็คุ้มค่า

                ธานีเข้าออกโรงพยาบาล2-3ครั้ง  ด้วยเรื่องติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ  น๊อตของเฝือกเหล็กหลุด  ต้องส่งไปใส่ใหม่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช  เพราะโรงพยาบาลบางกระทุ่มไม่มีอุปกรณ์  โดยมีอาของธานีคอยดูแลรับส่ง(มารู้ตอนหลังว่าพ่อที่เป็นพระก็ไม่ทอดทิ้ง  ให้เด็กวัดเอาอาหารมาให้ทุกวัน  จ้างอาที่ดูแลอยู่โดยให้เงินใช้)  ธานีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ  จนตอนหลังธานีไม่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะแล้ว  ปัสสาวะเองได้  เฝือกเหล็กอันใหญ่ๆก็ไม่ต้องใส่แล้ว  ใส่แค่SOFT  COLLARดามบริเวณคอเท่านั้น

                วันนี้  ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้  ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย  แขนขา 2 ข้างไม่มีแรง  ต้องให้ผู้อื่นช่วยเหลือแทบทุกอย่าง จะกลับมาเป็นคนใหม่  ที่หน้าตาสะอาดเกลี้ยงเกลา  ลุกนั่งเองได้  ไม่ปวดหลัง  ไม่มีแผลแล้ว    

ฉันกินข้าวได้เองแล้วนะ ธานียกช้อนให้ฉันดูด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม  นักกายภาพบำบัดบอกว่า  ตอนนี้ธานีฝึกเดินแล้วนะ  ฉันบอกกับธานีว่าพยายามหน่อยนะธานี  ความพยายามอยู่ที่ไหน  ความสำเร็จอยู่ที่นั้น  เดี๋ยวก็เดินได้แล้ว  ธานียิ้มแล้วตอบว่าผมจะสู้ครับ  เดินได้จะได้ช่วยดูแลแม่ผมด้วย  ผิดกับเมื่อก่อนที่ธานียังไม่ป่วย  ธานีบอกอยู่ไปวันๆ  กินเหล้า  หาเช้ากินค่ำ  ตอนนี้ธานีอยู่ด้วยความหวัง  ด้วยว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินได้  และมีอาชีพที่มั่นคงหาเลี้ยงแม่ต่อไป  ฉันก็ได้แต่อวยพร  ขอให้ธานีเดินได้จริงๆดั่งตั้งใจ

 

 

ผู้เขียน

ยุภาพร  เรณุมาร

พยาบาลวิชาชีพ  ระดับชำนาญการ

งานผู้ป่วยใน  โรงพยาบาลบางกระทุ่ม

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 293117เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2009 22:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เขียนดีครับ เป็นกำลังใจให้เขียนอีกน่ะ

หากเราได้ไปสัมผัสชุมชนบ่อยๆ เราจะเข้าใจความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเขา

แล้วทำถาม หรือคำต่อว่า ที่ว่า "ทำไม...? ทำไมถึงไม่...?"จากเราต่อคนไข้จะไม่มีอีก

ขอเป็นอีก 1 กำลังใจ ที่จะเดินข้ามสะพานไม้กระดานแผ่นเดียวเพื่อช่วยคนไข้ไปกับคุณ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท