การมีอยู่หรือการจากไป...คือละครที่ตัวแสดงโลดแล่นอยู่
อาจมีเราเป็นผู้ร่วมเล่น หรืออาจเป็นผู้กำกับ หรืออาจเป็นผู้ดู
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร...นั่นก็เป็นการแสดงเสมือนอยู่บนโรงละคร...นี้
ไม่มีบทบาทที่แท้...มีเพียงแต่บทที่สมมติขึ้น
ให้เราได้รู้ ได้เห็น และได้เข้าใจ
อย่าพึงได้ยึดเลยว่านี่ นั่น น่ะคือ บทที่แท้จริงของเรา
หากเรายึดอยู่เช่นนั้น นั่นน่ะเราหลงไปว่า "นั่นคือเรา"
แต่ที่สุดแล้ว...ไม่มีอะไรเลยที่เป็นเรา
เรานั้นไปติดยึด...เอง
เรานั้น เป็นเพียงผู้มีหน้าที่ หน้าที่ที่ดำเนินไปตามแต่ละบทเท่านั้น
หน้าที่ที่จะทำตามบทบาทสมมตินั้นอย่างรู้ตัว
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ดร. กระปุ๋ม
ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราเลย แม้แต่ลมหายใจเข้าออกของเรา
ใช้ชีวิตโดยไม่ประมาทกับลมหายใจที่เหลืออยู่ .......
ได้ข้อคิดก่อนไปทำหน้าที่ในโรงละครนี้ต่อไปค่ะ
โกวเล้งกล่าวไว้ว่า..
ชีวิตคือละครบทหนึ่งผู้ซาบซึ้งไม่ถือจริงจัง..
แต่คนยังไม่ซาบซึ้งมีมากเลยจริงจังกันต่อไปขอรับอาจารย์.. สาธุ
หากเรายังไม่ซึ้งลงไปในใจว่า "บทละคร" โรงละคร หรือบทบาทสมมติเป็นเช่นไร...
ก็ลองให้เรานึกย้อนไปเมื่อสมัยเป็นเด็กที่เราเคยร่วมเล่นละครของโรงเรียน ซึ่งเรา ณ ตอนนั้นเราอาจจะเป็นเด็กที่ขึ้นไปแสดงบนเวทีนั้นเอง หรืออาจจะเป็นคนช่วยเพื่อน หรืออาจจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ครูกำหนด หรืออาจเป็นเพียงคนดู...
นึกย้อนไปแล้ว...
ก็กลับมาปัจจุบัน ณ ตอนนี้ เราคือ คนที่อายุเท่านี้ ทำงาน ทำกิจสิ่งนี้อยู่...ภาพละครที่เรานึกย้อนนั้นไม่มีอีกแล้ว จับต้องไม่ได้ เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้นอีกแล้ว มันจบไปแล้ว มันเป็นเพียงความเหลืออยู่เฉพาะ...ภาพความทรงจำที่เราระลึกได้เท่านั้นเอง แต่เราไม่ได้อยู่ ไม่ได้เป็นสิ่งนั้นแล้ว
ขอให้เรากลับ กลับมา...สู่ความเป็นปัจจุบัน ...
ความเป็นปัจจุบันเท่านั้น...ที่เรายังโลดแล่น ...
แต่ความเป็นปัจจุบันนี้ ก็ช่างแสนสั้นและผ่านไปรวดเร็วมาก ดังนั้น เราจึงเพียรอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุดเท่าที่เราจะดำรงอยู่ได้
แวะมาเยี่ยม
มาละอัตตาครับ