เจ้ากรรมนายเวร..เป็นใคร ?


กรรมเวรมีจริงเหรอ..? แก้กรรมได้จริงหรือ ?

         หลายครั้งที่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับตัวเรา..เป็นเรื่องดีบ้าง..เป็นเรื่องไม่ดีบ้าง..ซึ่งถ้าเป็นเรื่องไม่ดี..เรามักจะอุทานขึ้นว่า.. "โอ้ กรรมเวร หรือเวรกรรม"  แล้วคุณรู้หรือเปล่าล่ะว่า..เวรกรรมนี้เป็นตัวอย่างไร ? เวรกรรมมีจริงเหรอ ? แก้กรรมได้จริงหรือ ? วันนี้อาตมภาพจะมาเล่าเรื่องกรรมให้โยม ๆ ฟังหรือให้อ่าน พร้อมทั้งจะยกตัวอย่างให้เห็นเด่นชัดขึ้นไป

         คำว่า กรรม นี้  หมายถึง การกระทำทางกาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วยเจตนา  เป็นคำมีความหมาย กลาง ๆ มิได้หมายถึงสิ่งที่ไม่ดีดังที่โยมส่วนใหญ่เข้าใจกัน   ถ้าเรากระทำด้วยเจตนาดี เราเรียกว่า กรรมดี  ถ้าเรากระทำด้วยเจตนาร้าย เรียกว่า กรรมชั่ว  และผลที่เกิดจากการกระทำด้วยเจตนาของเรา เรียกว่า วิบากกรรม หรือ ที่เข้าใจกันว่า  เจ้ากรรม  นั่นเอง

         ส่วนคำว่า เวร นั้น โดยทั่วไปหมายถึง ภาระหน้าที่ เช่น เข้าเวร อยู่เวร หรือ เป็นคำด่า เช่น ไอ้เวร แต่ในทางธรรมะหมายถึง การผูกใจเจ็บแค้น ว่าจะต้องทำคืน เช่น เมื่อถูกเขาด่าก็ด่าตอบ หรือเมื่อถูกทำร้ายก็จะต้องล้างแค้นคืน  ซึ่งผลที่เกิดจากการก่อเวรสืบเนื่องกันมาไม่มีที่สุด นี่เรียกว่า การจองเวร หรือ เราว่า นายเวร นั่นเอง

         ดังนั้น  กรรมเวรหรือเจ้ากรรมนายเวร  ดังกล่าว  ก็คือ กฎแห่งกรรม หรือกฎธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผล  ถ้าเรากระทำกรรมดี เราก็ย่อมได้รับผลแห่งกรรมดี  แต่ถ้าเรากระทำกรรมชั่ว เราก็ย่อมได้รับผลแห่งกรรมชั่วเหมือนกัน  เปรียบเหมือนกับการที่เราปลูกพืชชนิดใด  เราก็ย่อมได้ผลของพืชชนิดนั้นเฉกเช่นเดียวกัน  และเมื่อเราก่อเวรคือ ผูกใจแค้นอาฆาตก่อกรรมไม่ดีต่อกับบุคคลใด  บุคคลนั้นก็ย่อมจองเวรผูกแค้นต่อเราเหมือนกัน..  นี่คือลักษณะของการสร้างเจ้ากรรม-นายเวร นั่นเอง

         อีกประเด็นหนึ่ง..ที่อยากจะอธิบายก็คือ  การแก้กรรม  ที่เป็นประเด็นร้อนในสังคมขณะนี้  หรือที่ออกรายการทีวีในวันก่อน ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า  เราสามารถแก้กรรมได้นั้น   จริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่ขัดกันกับหลักในทางพระพุทธศาสนาที่บอกไว้ว่า  ถ้าทำกรรมดีก็ย่อมได้รับผลดี  ทำกรรมชั่วก็ย่อมรับผลชั่ว  ทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมนั้น  เราไม่สามารถแก้ไขกรรมนั้นได้เลย  ไม่ได้รับผลชาตินี้ก็ย่อมได้รับชาติหน้าไม่ช้าก็เร็ว  ดังพระดำรัสที่พระพุทธเจ้าตรัสรับรองไว้ว่า "กมฺมุนา วฎฺฏตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" และตรัสว่า "สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้"  ไม่มีทางที่จะตัดหรือแก้กรรมที่ทำไว้ได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องบุรพกรรมของพระมหาโมคคัลลานเถระแม้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ยังต้องรับกรรม

         เรื่องมีอยู่ว่า..  ในอดีตชาติพระมหาโมคคัลลานะนั้น  ท่านเป็นคนดีมีกตัญญู ปรนนิบัติพ่อแม่ตา บอดอย่างดี  ฝ่ายแม่ขอให้แต่งงานจะได้มีคนช่วยแบ่งเบาภาระ  ท่านก็ปฏิเสธหลายครั้ง  แต่ในที่สุดแม่ก็หาผู้หญิงมาแต่งให้จนได้แต่สะใภ้ไม่ดี ปรนนิบัติพ่อแม่อยู่ได้เพียง ๒-๓ วันเท่านั้นก็เบื่อ คิดกำจัด บอกสามีว่า  อยู่ร่วมกับพ่อแม่ไม่ได้  เพราะสองคนชอบทำสกปรกเลอะเทอะ  แต่สามีก็ไม่เชื่อ

         วันหนึ่ง พอสามีออกไปข้างนอก เมียก็เอาเชือกปอ ข้าวยาคู พวกน้ำนม มาทิ้งเรี่ยราดเต็มบ้าน สามีกลับมาก็ถามว่ามันอะไรกัน เมียบอกว่าพ่อแม่ทำ จนทำให้เกิดความแตกร้าวกับพ่อแม่ของตัวเอง ในที่สุดหลงเชื่อเมีย คิดฆ่าพ่อแม่  และรับปากกับภรรยาว่า  จะจัดการกับท่านทั้งสอง

         วันหนึ่ง ได้โกหกพ่อแม่ว่าจะพาไปเยี่ยมญาติต่างถิ่น จึงได้พาขึ้นเกวียนเดินทางไปเมื่อถึงกลางป่าจึงบอกพ่อว่าให้ช่วยถือเชือกบังคับโคแทนตนไว้ และโกหกท่านว่าที่นี่มีโจรดักซุ่มอยู่ทำทีว่าจะไปสังเกตการณ์ แล้วได้ปลอมตัวเป็นโจร มาทุบตีพ่อแม่จนถึงแก่ความตายและทิ้งศพไว้ในป่าแล้วจึงกลับไป

         ด้วยกรรมนั้น ท่านนั้นตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาช้านาน ด้วยวิบากกรรม ถูกโจรทุบละเอียดแล้วถึงความตายถึง ๑๐๐ ชาติ ในชาติสุดท้าย เป็นพระมหาโมคคัลลานเถระแม้ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระอัครสาวกฝ่ายขวา ได้รับการยกย่องจาก พระศาสดาว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มาก ยังต้องถูกพวกโจรทุบด้วยกำลังแห่งกรรมถึงนิพพาน แม้จะเป็นพระอรหันต์ก็ยังไม่พ้นบาปกรรมที่ได้ทำไว้แก่พ่อแม่ผู้มีพระคุณในชาติก่อน

         สรุปความได้ว่า...เจ้ากรรมนายเวรนี้  มีติดตัวอยู่กับเราทุกคน  ไม่ว่าจะเป็นคนยาก ดี มี จน ล้วนมีกรรมเป็นของตนเอง  กรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนหรือในชาตินี้ย่อมส่งผลให้เราเป็นไปตามกรรมนั้น  ทั้งที่ให้ผลแล้วและยังไม่ปรากฏผล  การจะแก้กรรมหรือตัดกรรมที่ทำไว้แล้วย่อมทำไม่ได้  แต่จะทำได้โดย.. การตัดกรรมคือการหยุดทำความชั่วหยุดทำบาป ส่วนการตัดเวรคือการหยุดการพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน คือไม่แก้แค้นซึ่งกันและกันรู้จักคำว่าให้อภัยซึ่งกันและกัน นะโยม..เจริญพร..


MusicPlaylist
MySpace Playlist at MixPod.com

 

          เว็บอ้างอิง        http://www.thewayofdhamma.org/page3_1_2/34.html

                                http://blog.hunsa.com/papamama/blog/26605

                                http://www.mindcyber.com/content/data/6/0112-1.html

หมายเลขบันทึก: 295608เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2009 23:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

นมัสการพระคุณเจ้า

มารับธรรมยามเช้าเจ้าค่ะ

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

ถ้ากรรมหมายถึงการกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา ถ้าเราไม่ได้มีเจตนาหล่ะคะถือเป็นกรรมได้หรือไม่

เจริญพร..คุณโยมณัฐรดาและคุณโยมภัสรา

ถ้าไม่มีเจตนา..หรือความตั้งใจจะทำให้เกิดขึ้น..ก็คงไม่ถือว่าเป็นกรรม นะโยม เพราะกรรมย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยความตั้งใจเป็นสำคัญ ถ้าทำไปโดยไม่มีเจตนาก็คงไม่เป็นกรรมของผู้ทำ เหมือนกับคนบ้าไร้สติ..เวลาฆ่าคนตายก็ไม่ถือว่าทำกรรมชั่ว เพราะไม่มีเจตนาจะฆ่า ดังนั้น กฎหมายจึงบัญญัติไว้ว่า..คนบ้าฆ่าคนตายไม่มีความผิด หรือไม่มีกรรมชั่วก็ว่าได้..นะโยม

กรรมไม่ดีเกิดขึ้นได้..ก็เพราะมีความตั้งใจจะทำสิ่งไม่ดี..และส่งผลให้ตนรับกรรมไม่ดีนั้น..ส่วนกรรมดีเกิดขึ้น..เพราะมีความตั้งใจจะทำดี..และย่อมส่งผลให้ตนรับกรรมดีนั้นตอบ..

คงจะพอเข้าใจประเด็นบ้างนะ..คุณโยม..ขอเจริญพร..

นมัสการค่ะ

 กรรมนี้แรงมากน่ากลัว แม้บางครั้งไม่ได้ตั้งใจก็ยังส่งผลหรือคะ

มาอ่านประวัติของพระโมคคัลลา อัครสาวก

เคยถอยรถทับแมวตายโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นกรรมชั่วใช่ไหมคะ (ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกไม่ดีอยู่นั่นเอง) จะถือว่าเป็นกรรมเวรของแมวตัวนั้นเองหรือเปล่าคะ และแมวตัวนั้นจะเป็นนายเวรเราได้ไหมคะ เพราะเขาต้องมาตายเพราะดิฉันถอยรถทับ

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

เราไม่ควรเกลียดใครไปนาน ๆ เพราะจะเป็นกรรมติดตามกันไปใช่มั้ยคะท่าน

แล้วถ้ารู้สึกเฉย ๆ ไม่เกลียด แต่ก็ไม่ชอบ พยายามเป็นกลาง ๆ จะพอช่วยได้รึเปล่าคะ

เจริญพร...คุณโยม..แดง..ภัสรา..โยมเพียร

คำถามที่โยมๆถามมานั้น..อาตมาขอตอบตามภูมิรู้ภูมิธรรมของตนเองดังนี้

โยมแดงและโยมภัสราถามประเด็นว่า..บางครั้งเราพลาดพลั้งไปทำบาปหรือทำกรรมที่ไม่ประกอบด้วยเจตนา เช่น ขับรถเหยียบแมวตาย ดังกล่าว..จะเป็นกรรมเวรแก่ตัวผู้ทำหรือเปล่า ?

ขอตอบว่า..ถ้าเราทำโดยไม่มีเจตนามุ่งร้ายเป็นสำคัญก็คงไม่ผิดอะไรมากหรอกโยม..แต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเพราะเราพลาดพลั้งเผลอลืมสติของเรา..ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดที่เราไม่มีธรรมะข้อสติ..ประมาทไป..ท่านบอกว่า..ทำให้คนตายโดยประมาทก็ถือว่ามีความผิดเหมือนกัน..แต่โทษคงไม่เท่ากันกับมีเจตนาฆ่ามาก่อน..จริง ๆ แล้ว การทำกรรมที่ถือว่าเป็นกรรมดีหรือไม่ดีนั้นต้องประกอบด้วยเจตนาคือความตั้งใจดีหรือไม่ดีแล้วจึงทำสิ่งนั้น กรรมที่เกิดขึ้นย่อมเป็นผลแก่เราเป็นแน่แท้..แต่ถ้าเราไม่มีเจตนาให้เกิดก็คงจะไม่มีผล..หรือถ้าจะมีผลก็คงเป็นเพราะเราไม่มีสติ..ประมาท..จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น..เหตุการณ์นั้นอาจเกิดขึ้นกับเราเพราะความประมาทของคนอื่นได้เหมือนกัน..ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนอยู่เสมอว่า..ให้พวกเราเหล่าท่านทั้งหลายจงมีสติคือความระลึกได้ สัมปชัญญะคือความรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะคิด พูด ทำ อะไรต่าง ๆ ก็ต้องมีสติกำกับเสมอ จะได้เป็นเครื่องควบคุมให้เราไม่ทำกรรมไม่ดีทั้งที่มีเจตนาและไม่มีเจตนาได้..

ในกรณีของการขับรถเหยียบแมวตายนั้น..คงเป็นกรรมของแมวตัวนั้นมากกว่าที่จะเป็นกรรมของโยม..ชาติก่อนแมวตัวอาจขับรถเหยียบโยมตายก็เป็นได้..ชาตินี้เขาก็เลยรับกรรมนั้นไป..แต่ถึงแม้ไม่มีเจตนาทำให้เขาตาย..แต่เขาก็ตายเพราะเราไม่มีสติ..ไม่ระแวดระวัง..ก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีนัก..ทางที่ดี..อาตมาขอแนะนำว่า..ถ้าเกิดโยมทำบุญในบางครั้งบางครา..ก็โยมควรที่จะอุทิศบุญที่ทำไปนั้นให้เขาบ้าง..นั่งสมาธิแผ่เมตตาขอให้เขาอโหสิกรรมให้บ้างก็จะดี..เขาจะได้รู้ว่า..เราไม่มีเจตนาทำให้เขาตายจริง..แล้วโยมก็จะสบายอกสบายใจด้วย..เพราะบุญที่ทำนั้นก็จะส่งเขาหรือโยมเองมีแต่ความสุข..นั่นเอง..

ส่วนคำถามของโยมเพียร..อาตมาขอตอบว่า..การเกลียดคนอื่นนั้น..จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม..ถือได้ว่าเป็นการจองเวรต่อกันและกัน..นะโยม..เป็นกรรมไม่ดีทางใจคือการคิดพยาบาทคนอื่น..ย่อมส่งผลให้โยมรับผลรับกรรมนั้นได้เหมือนกัน..คือเขาก็อาจจะเกลียดโยมตอบหรือคนอื่นๆก็อาจจะเกลียดโยมไปด้วย..ยิ่งถ้านาน ๆ ไปแล้วโยมก็จะอาจจะปลี่ยนจากความเกลียดมาเป็นความอาฆาตแค้น..อาฆาตแล้วก็ย่อมจะทำให้โยมก่อกรรมไม่ดีทางกายทางวาจาต่าง ๆ ตามมา..ดังนั้น..การที่โยมทำใจให้ไม่เกลียดไม่ชังเป็นกลาง ๆ นั่นแหละ..ดีที่สุดแล้ว..พยายามแผ่เมตตาให้กับเขาคนนั้น..พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า.."พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ"..ความโกรธเครียดแค้นคนอื่นนั้นจะทำให้เราหน้าตาไม่ดี..ราศีไม่ผ่องใส..นานๆไปจะเป็นดุจหน้ายักษ์อสูรร้าย..ก็มิปานนะคุณโยม..ขอเจริญพร..

นมัสการพระคุณเจ้า

อยากออกความเห็นนิดนึงน่ะค่ะในเรื่องความเกลียด ความรู้สึกนี้มันบั่นทอนเรานะคะ เราจะหาความสุขไม่ได้จากการเกลียดผู้อื่น ร้อนรุ่ม อยากเห็นผู้ที่เราเกลียดเป็นทุกข์ ครั้นเมื่อเขาไม่ทุกข์กลับเป็นเราที่ทุกข์เสียเอง เมื่อเราเกลียดเขาขนาดนั้นทำไมให้เขามามีอิทธิพลต่อชีวิต ต่อความรู้สึกเราขนาดนั้นหล่ะคะ ปล่อยเขาไปน่าจะดีกว่าใช่ไหมคะ ถ้าเขาผู้นั้นทำไม่ดีกับเรา กรรมไม่ดีที่เขาทำนั่นแหล่ะจะสนองตัวเอง อาจจะยังไม่ใช่วันนี้ แต่มันต้องมาถึงแน่ๆในวันข้างหน้า ปล่อยไปเถอะค่ะ เขาไม่ดี ไม่ได้มีคุณค่าใดๆ กับเราเลย อย่าปล่อยให้เขามามีอิทธิพลกับเราสิคะ

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

ยังไม่ได้เข้าไปอ่าน entry ใหม่เลยค่ะ พอดีต้องมานอนแปลกที่แปลกทางเลยไม่อยากจะคิดมากก่อนนอน แต่ดูหัวข้อแล้วน่าสนใจดีนะคะ วันนี้มีคำถามมาอีกแล้วค่ะ กิจการที่ทำอยู่ในปัจจุบันชอบมีหนูมารบกวนอยู่เรื่อยๆ เครื่องไฟฟ้าโดนหนูกัดสายขาดกระเจิงไปหลายรายการแล้วค่ะ เคยเปลี่ยสายเมาส์ของคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลา ๓ วัน เซ็งไปเลยค่ะ ต้องซื้อเมาส์ใหม่ ๓ ตัว หมดตังค์ไปสองพันบาท ยังไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้นหรอกนะคะ มีอีกมากมายหลายรายการเลยหล่ะค่ะ ไม่ได้มาขอคำปรึกษาเรื่องกำจัดหนูหรอกนะคะ แต่จะทำยังไงที่จะกำจัดพวกมันไปโดยที่เราไม่ทำบาป เคยเอากรงมาดักไว้ก็ได้อยู่หลายตัวเหมือนกันค่ะ จะฆ่าก็ไม่กล้า จะปล่อยก็กลัวว่ามันจะกลับมาทำความเสียหายให้กับข้าวของเราอีก ระหว่างที่คิดยังไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี ลูกน้องก็จัดการทำให้เจ้าหนูพวกนั้นเป็นอาหารน้องแมวไปซะ ลูกน้องจะบาป หรือเราจะบาป หรือน้องแมวจะบาปไหมคะ พอลูกน้องบอกว่าจัดการดังที่กล่าวไปแล้ว ก็เกิดอาการโล่งใจว่า เฮ้อ ไม่ต้องสังหารมันเอง แต่ยังไงซะก็รู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ ถ้าเราทำบุญไปให้ก็ยังทดแทนกับบาปที่เราทำไม่ได้ใช่ไหมคะ

ลืมบอกท่านว่าที่ร้านไม่ได้สกปรกหรือรกเละเทะแต่อย่างใดนะคะ แต่มันอาศัยอยู่บนหลังคาของห้องแถวที่เชื่อมติดต่อกัน จะมาจากหลังคาบ้านไหนก็ไม่ทราบได้ แต่มันก็มาแล้วน่ะค่ะ เคยเห็นแจ่มๆเลยว่ามัไต่ลงมาจากกล่องประตูเหล็กม้วนใต้หลังคา อยากจะกำจัด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทำบาปน่ะค่ะ

เจริญพร..โยมภัสรา

คำถามที่โยมถาม..เท่าที่จับประเด็นได้คือ..ทำยังไงถึงจะกำจัดหนูโดยไม่เป็นบาป..? โยมดักหนูไว้..ลูกน้องเอาไปให้แมว..แมวจึงสำเร็จโทษหนูด้วยการกิน..แล้วบาปจะตกอยู่กับใคร? และทำบุญแทนบาปที่ทำได้หรือไม่?

ขอวิสัชนาคำถามตามความเห็นดังนี้ ข้อที่หนึ่งตอบยากนะข้อนี้.. เพราะการกำจัดทุกอย่างก็จัดว่าเป็นบาปอยู่แล้ว..นอกจากจะกำจัดกิเลสของตนถึงเป็นบุญ..ถ้าไม่ประสงค์บาปก็ควรเลี่ยงการฆ่าเสีย..วิธีที่ดีที่สุดคือ พยายามทำที่อยู่ให้หนูมันไม่น่าอยู่..คือหนูไม่ชอบอยู่ในที่สะอาด เรียบร้อย คำถามนี้ถ้าถามตัวโยมเอง โยมน่าจะตอบได้ดีกว่าอาตมาว่าทำยังไงดี ..

ข้อที่สอง ประเด็นนี้ถ้าจะว่าบาปมีแก่ใครก็คงตอบได้ว่า ถ้ามีความตั้งใจก็เป็นบาปกันทุกคน แต่กรณีนี้เป็นการฆ่าหนูเพราะความจำเป็นในทางโลกเนื่องจากมันมาทำลายข้าวของก่อน อันนี้ก็เป็นเรื่องของทางโลกอยู่แล้ว ถ้าบาปก็น่าจะเป็นบาปน้อยหน่อยเหมือนกับการฆ่าสัตว์เพื่อเลี้ยงชีพเพราะความจำเป็น

ส่วนเรื่องการทำบุญก็คงแทนบาปที่ทำไม่ได้หรอก แต่ถ้าโยมไม่สบายใจก็ควรนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้หนูตัวนั้น ๆ ก็ได้ บุญก็คือส่วนของบุญ บาปก็คือส่วนของบาป แทนกันไม่ได้ ท่านเปรียบเหมือนกับเกลือที่อยู่ในน้ำ ถ้าเอาเกลือหนึ่งช้อนใส่ลงในน้ำแก้วหนึ่ง ชิมดูก็เค็ม ๆ แต่ถ้าเอาเกลือหนึ่งช้อนใส่ในน้ำถังใหญ่ถังหนึ่ง ชิมดูก็กร่อย ๆ ไม่เค็มมาก ถามว่า เกลือมีไหม ก็ตอบได้ว่า มี แต่ถ้าถามว่าเค็มไหม ก็ไม่เค็มเหมือนเดิมเพราะมีน้ำเยอะ เกลือก็เหมือนบาป น้ำก็เหมือนบุญ ถ้าทำบุญมาก ๆ น้ำก็มีมาก บาปคือเกลือก็คงจะบางเบาหน่อย สรุปคือ บุญแทนบาปไม่ได้

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

คิดไว้แล้วค่ะว่าบุญคงทดแทนบาปไม่ได้ แต่ก็อาจจะช่วยให้ความรู้สึกบาปในใจให้น้อยลงนะคะ จะลองนั่งสมาธิแผ่เมตตาค่ะ ไม่ได้ทำมานานแล้วเหมือนกัน ขอบพระคุณที่ให้คำแนะนำนะคะ

หนูขับรถชนแมวบ่อยมากหนูอยากรู้ว่าเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรารึเปล่าคะ

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

คือหนูมีแมว1ตัวแล้วแมวที่หนูเลี้ยงเค้าคลอดลูกออกมา3ตัว หนูรักพวกเขามาก พอเขาอายุได้เกือบเดิน วันเกิดเหตุ แม่แมวได้พาลูกแมวไปนอนข้างล่าง หนูก็ไม่เอะใจอะไร เพราะหนูเห็นว่าข้างบนบ้านร้อนมากแม่แมวคงจะพาลูกแมวไปอยู่ที่เย็น พอสักพักใหญ่หนูได้ยินเสียงลูกแมวร้องหนูรีบวิ่งลงบันได หนูลูกแมวตัวสีส้มถูกกัด หนูรีบไล่สุนัข แล้วตอนนั้นหนูแทบไม่มีสติแต่พอควบคุมได้หนูเลยเอาตัวเขาล้างเลือด เค้าตัวสั้น มากหนูก็ร้องไห้ไปล้างเลือดเขาไป แล้วโทรบอกแม่ว่าให้พาไปหาหมอ แล้วแม่ก็พาแมวตัวนั้นไป

หนูเลยเอาลูกแมวที่เหลือขึ้นบ้าน หนูเอาลูกแมวอีก2ตัวตากพัดลมไว้ เพราะข้างบนร้อนมาก แล้วหนูก็นั่งเล่นคอม สักพักหนูหิวข้าวจึงเดินลงไปข้างล้าง พอขึ้นมาหนูไม่เห็นลูกแมวหนูก็ไม่คิดไร พอหนูเดินเหยียบผ้าห่มหนูรู้สึกเหมือนเหยียบอะไรสุอย่างไปครึ่งแรงแล้วหนูก็เลยรีบเด้งตัวออก พอเด้งออกอีกหนูก็รู้สึกเหมือนหเหยียบอะไรไปครึ่งแรง หนุเลยกระโดดถอยหลังจนหนูล้ม หนูรีบคลานมาดูว่ามีอะไรอยู่ พอเปิดผ้าห่มออกก็เห็นลูกแมวตัวแรกไม่เป็นอะไรหนูเลยโล่งใจ พอหันไปดูอีกตัว อีกตัวทำท่าเหมือนจะคายอะไรซักอย่างตอนนั้นหนูรีบอุ่มเค้าเพื่อจะพาไปหาหมอแต่พอหนุจะขับรถเขาก็ไม่หายใจแล้วแต่หนูก็พยายามพาเข้าไปหาหมอ หนูเลยแวะรับแม่ก่อนที่ร้านซ่อมรถหนูขอร้องแม่ให้พาแมวที่หนูเหยียบไปหาหมอ แต่แม่ก็บอกว่ามันตายแล้ว หนูทำไรไม่ถูกน้ำตาไหลเต็มสองแก้ม แล้วรีบถามแม่ว่า กาฟิว(แมวที่แม่พามาหาหมอ) เป็นอะไรมั้ย หมอรักษาให้หรือมียาหรือเปล่า แต่แม่ตอบกลับมาว่า มันเดีกอยู่หมอเค้าไม่รักษาให้หลอก ตอนนั้นหนูเริ่มรู้สึกไม่ดีน้ำตาก็ไหล เลยพูแค่ว่า มันจะรอดมั้ย

พอกลับถึงบ้านหนูเอาแมวที่เหยียบไปฝัง ก่อนฝังหนูกอดมันแล้ว บอกว่า อโหสิกรรมให้พี่ด้วย พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่รักหนูนะ แล้วก็ฝังเค้าไป พอหนูจะนอนหนูคิดถึงเรื่องพุดดิ้งหนูเลยสวดมนให้เค้าเผื่อจะได้ผลบุญบ้าง แล้วหนูก็เดินลงไปดู กาฟิว หนูเห็นเขานอนหนูเลยเอามือไปจับหัวเขาหนูรู้เลยทันทีว่าเค้าตายแล้ว หนูจับเค้าขึ้นมากอดเขาเล่นเขาเหมือนเขายังมีชีวิตแล้วพูดว่า ไมกาฟิวไม่อยู่เล่นกับพี่ก่อน แต่ถ้ากาฟิวจะไปเกิดก็ไปนะพี่ไม่ว่า แล้วหนูก็ร้องไห้

หนูอยากรู้ว่าหนูบาปมากมั้ยค่ะ หนูควรทำอย่างไงดี หนูจะได้รับบาปหนักมั้ยค่ะ หนูสามารถทำให้เขามีความสุขได้หรือเปล่าค่ะ ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ ตอนนี้รู้สึกแย่มากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท