วิไลรัตน์ มะโนราช
นาง วิไลรัตน์ มะโนราช วิไลรัตน์ มะโนราช

ท่ามกลางการพยาบาลหัวใจฉันก็ยังเจ็บปวด


ระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานไม่สามารถทำให้หัวใจฉันชินชาได้เลยกับผู้ป่วยที่กำลังจะหมดลมหายใจ เพราะฉันก็แค่พยาบาลคนหนึ่งซึ่งมีหัวใจ รู้สึก เจ็บปวด เสียใจ และร้องไห้เป็น ฉันจึงรู้สึกหดหู่ใจและเศร้าใจ กับครอบครัวผู้ป่วยกำลังเข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต

ท่ามกลางการพยาบาล

หัวใจฉันก็ยังเจ็บปวด

 

หลายๆครั้งการทำงานย่อมทำให้เราพบเจอกับเรื่องราวต่างมากมาย ไม่ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย ในการรักษาพยาบาลนั้น มีความงดงามของชีวิตท่ามกลางความเจ็บป่วย เพราะฉันได้ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าฉัน .... ฉันอิ่มเอิบหัวใจทุกครั้งที่ผู้ป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ เข้ามารักษาใน ICU   และสามารถเดินกลับบ้านได้ ยิ้มโบกมือให้ฉันก่อนที่จะกลับบ้าน.... แต่ก็ไม่ทุกคนเสมอไป....... ท่ามกลางการรักษาพยาบาลหัวใจฉันยังคงเจ็บปวดอยู่เสมอกับผู้ป่วยบางคนที่เข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต  .. ระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานไม่สามารถทำให้หัวใจฉันชินชาได้เลยกับผู้ป่วยที่กำลังจะหมดลมหายใจ เพราะฉันก็แค่พยาบาลคนหนึ่งซึ่งมีหัวใจ รู้สึก เจ็บปวด เสียใจ และร้องไห้เป็น ฉันจึงรู้สึกหดหู่ใจและเศร้าใจ กับครอบครัวผู้ป่วยกำลังเข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต 

หลายครั้ง เสียงร้องไห้ ความสูญเสีย และน้ำตาของครอบครัวของผู้ป่วยกระแทกหัวใจฉันอย่างรุนแรง ทำเอาฉันอ่อนไหวไปเลยทีเดียว แต่ฉันมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลยถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่ใช่ญาติพี่น้องของฉัน แต่เขาก็คือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและควรได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดที่มนุษย์คนนึงพึงที่จะได้รับ สิ่งที่จะช่วยเหลือได้คือให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้เข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี ฉันเองก็ช่วยเหลือด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์  มิใช่เพียงแค่บทบาท หน้าที่ที่ฉันสวมหมวกขาว ชุดขาวเพียงเท่านั้น แต่ฉันเป็นพยาบาลด้วยหัวใจ ด้วยสายเลือดของฉัน ที่บอกฉันว่า ฉันเกิดมาเพื่อที่จะเป็นพยาบาล " born to be nurse"  ฉันจึงช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคนของฉันเปรียบเสมือนญาติมิตรของฉันทุกคน  ฉันอำนวยความสะดวกทุกๆอย่างที่ครอบครัวต้องการ และไม่ขัดกับการรักษา  อย่างน้อยฉันก็ได้บรรเทาความเจ็บปวดในหัวใจที่ไม่ได้ปล่อยให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าสู่ระยะสุดท้ายอย่างเดียวดายและทุกข์ทรมาน

               

ความสุขหรือความทุกข์ของชีวิต

บางครั้งเหมือนการมองผ่านกระจก

หากกระจกใสสะอาด

เมื่อมองสิ่งใดย่อมมีแต่ความสุข

ปราศจากความขุ่นมัว

หากกระจกขุ่นมัว

เมื่อมองสิ่งใด แม้เป็นสิ่งเดียวกัน

ก็มีแต่ความทุกข์ใจ

จงจำไว้ว่า ความสุขอยู่ไม่ไกล

เพียงเช็ดกระจกให้ใส

เช็ดใจให้สะอาดเท่านั้น

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 295714เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2009 12:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

การได้อยู่ท่ามกลางการช่วยเหลือชีวิตของคน เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด และเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่สุด การที่คุณได้เป็นพยาบาล เป็นอาชีพที่ประชาชนต้องฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตในลมหายใจ ที่ยังเหลืออยู่ ความเจ็บปวด ไม่ว่าจะปวดกาย ปวดใจ สายตาที่ผู้ป่วยทอดสายตามาหาเรานั้น มันบ่งบอกถึงความรู้สึกได้และมันก็เป็นหนึ่งในกำลังใจที่สามารถให้เราทำงานของเราได้อย่างมีความสุข และก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ ยังงัยก็ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ ที่คุณจะต้องรับสภาพแบบนี้ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่คุณเลือกแล้ว คุณก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้และก็ทำให้ดีที่สุด ถึงแม้มันจะเจ็บปวดก็ตาม.. แต่ก็สุขใจ..ไม่ใช่เหรอค่ะ.. ที่ไม่ได้เห็นแค่คนเจ็บปวด แต่ก็มีคนที่มีรอยยิ้มแห่งความสุขใจที่มีพยาบาลดูแลให้เค้าหายจากการเจ็บปวดได้ โลกสร้างมาสองด้านเสมอ ใคณคงเค้าใจในเรื่องสัจจธรรมดี..

ผู้มีประสบการณ์... คุณพ่อป่วยและได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลพิจิตร ศิริราช เพชรบูรณ์... (โดยเฉพาะพยาบาล น่ารักมากค่ะ)

  • เพียงเช็ดกระจกให้ใส ใจก็สะอาด
  • หากชีวิตคือความว่างเปล่า ไม่มีกระจกใส ฝุ่นจะจับอะไร
  • จิตที่ว่างเปล่า คือ อิสระในตัวตน
  • ขอบคุณบันทึกดีดีครับ

เป็นกำลังใจให้น้องไก่ ทำความดีต่อไป นะคะ...

สวัสดีค่ะ

  • มาชื่นชมกับกำลังใจและพลังที่ทุ่มเทให้กับผู้ป่วยและครอบครัวค่ะ..
  • เป็นเหตุผลที่พี่ไม่เข้มแข็งพอที่จะสามารถทำงานที่เผชิญความเจ็บปวดของผู้ป่วยและครอบครัวได้เช่นคุณ...
  • ชื่นชมจริงๆค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท