ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

รักแท้นั้นไซร้อยู่ใกล์แค่ใจเรา


เมื่อใดก็ตาม เรายิ้มให้กับความรัก และเข้าไปสัมพันธ์กับความรักประดุจดัง "กัลยาณมิตร" รวมไปถึงการมองความรักอย่างเข้าใจ และมีปัญญา เมื่อนั้น ความรักก็จะมอบ "ความเข้าใจ" "ปัญญา" และ "กัลยาณมิตร" ตอบแทนต่อเราเช่นกัน

วันนี้ได้รับฟังข่าวร้ายจาก "ลูกศิษย์" คนหนึ่งที่สูญเสียน้องสาว "อันเป็นที่รัก"  และเป็นน้องสาว "คนเดียว" ที่เธอบอกว่า "รักมากที่สุด"  แต่สุดท้ายน้องสาวของเธอต้อง "กินยาล้างห้องน้ำ" ฆ่าตัวตายเพื่อประชดรักที่ "ผู้ชายคนหนึ่ง" ตัดสินใจตีจากไปมีผู้หญิงคนอื่น

ประเด็นคำถามที่น่าสนใจคือ เมื่อถึงจุดหนึ่งของภาวะวิกฤติ  ทำไมเธอจึงไม่เลือก "พี่สาว" ที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอดชีวิต โตมาด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน และนอนห้องเดียวกัน แต่เธอกลับไปเลือกที่จะตายเพื่อ "ประชดผู้ชาย" ที่เพิ่งผ่านเข้ามาในชีวิตได้ไม่ถึงปี และหมดสิ้นความรักในตัวเธอ

ความจริงแล้ว จากการทำวิจัยเรื่อง "การฆ่าตัวตาย" และสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ตัดสินฆ่าตัวแต่ไม่ตาย ได้พบคำตอบที่น่าสนใจข้อหนึ่งว่า "การที่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย" ไม่ได้เกิดจากการที่เธอไม่รักตัวเอง  สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เพราะเธอรักตัวเองมากที่สุดเธอจึงต้องฆ่าตัวตาย

ทำไมหล่ะ? พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ความรักเสมอด้วยตนย่อมไม่มี" หมายความว่า ไม่มีใครหรอกที่จะรักคนอื่นมากกว่าการรักตัวเอง ฉะนั้น การฆ่าตัวตายคือการที่เธอไม่ต้องที่จะให้ตัวเองต้องทุกข์ทรมานกับอดีตที่เลวร้าย และไม่ต้องการให้ตัวเองต้องจมปลักอยู่กับความเจ็บปวด และการเลือกฆ่าตัวตายคือการเลือกที่จะหนี หรือไปเจอ และแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าหรืออนาคตที่ดีกว่าให้แก่ตัวเอง

แล้วเราควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรักอย่างไร? จึงจะพบทางรอดในอนาคต เมื่อหันกลับมาพิจารณา "ความรัก" สรุปโดยหลักใหญ่ใจความในบริบทนี้มี ๒ ประการ คือ

(๑) รักเทียม  คือ ความรักที่เราต้องเอาเขามาทำให้เรามีความสุข  แม้ว่าเขาจะทุกข์ทรมานจากการนำเขามาเพียงใดก็ตาม (สิเนหา) เป็นความรักแบบมีเงือนไข และเต็มไปด้วยพรมแดน เคียดแค้นยามไม่สมหวังในรัก ซึ่งเป็นความรักหญิงสาวที่มีต่อชาวหนุ่มที่ตอบแทนเธอด้วยรักเทียม

(๒) รักแท้ คือ ความรักที่เราต้องการจะทำให้เขามีความสุข คำว่า "เขา" ในที่นี้ หมายถึงใครก็ได้ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ และตายในโลกนี้ ความรักแบบนี้ เราเรียกว่า "เมตตา" เป็นความรักสากล (Universal  Love) ที่ไม่มีเงื่อนไข (Uncondition) อิสระ (Freedom) ซึ่งเป็นความรักที่ "ลูกศิษย์" พยายามมอบให้แก่น้องสาวตัวเองตลอดเวลา ที่ไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้องรักตอบ

แท้ที่จริง "ความรัก" เป็นคำกลางๆ  "ไม่ดี หรือเลวร้าย"  แต่การที่เราต้องร้องไห้ หรือเสียใจ จนนำไปสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อประชดรัก หรือผิดหวังในความรัก ก็เพราะเราเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือมีท่าทีที่ไม่ถูกต้องต่อความรัก  แต่เมื่อใดก็ตาม เรายิ้มให้กับความรัก และเข้าไปสัมพันธ์กับความรักประดุจดัง "กัลยาณมิตร" รวมไปถึงการมองความรักอย่างเข้าใจ และมีปัญญา เมื่อนั้น ความรักก็จะมอบ "ความเข้าใจ" "ปัญญา" และ "กัลยาณมิตร" ตอบแทนต่อเราเช่นกัน

ฉะนั้น การที่จะแสวงหาความรักนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย  เพราะความรักที่แท้จริงนั้น มันซ่อนตัวและนอนนึ่งอยู่ภายในใจของเรา เราสามารถสร้างให้มีขึ้นภายในใจของเรา เป็นความรักที่ไร้เงื่อนไข ไร้ทุกข์ ไร้เสียงร้องให้ และไร้น้ำตาอันเกิดจากการสูญเสีย  หากเราจะมีรักสักครั้ง ทำไมเราต้องวิ่งไปหาสิ่งภายนอกมาทำให้เรารู้สึกว่า "เรามีรัก" เพื่อให้รัก "เติมเต็มให้กับชีวิตของเรา" การวิ่งหาความรักเช่นนี้ เราจะตอบตัวเองได้ไหม กี่ปี กี่เดือน เราจึงจะค้นพบรักแท้ แต่ใครจะรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว  "รักแท้นั้นไซร์อยู่ใกล้แค่ใจเรา"

คำสำคัญ (Tags): #ครูเพื่อศิษย์
หมายเลขบันทึก: 296683เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2009 23:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

นมัสการ ค่ะ

เป็นมุมมอง ความคิดที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ พระคุณเจ้า

อนุโมทนาขอบใจคุณโยมที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน และหวังว่าสิ่งที่ได้จะเจริญประดัจดัง "ต้นไม้แห่งปัญญา" นำพาชีวิตของเราให้อยู่กับ "รักแท้" ตลอดไป

นมัสการพระคุณเจ้า . . . ผมมีบันทึกยาวหลายตอนเรื่องความรัก อยู่ที่ http://beyondkm.gotoknow.org ครับ

อนุโมทนาขอบคุณอาจารย์ประพนธ์

อาจารย์จะถือโอกาสแวะไปเยี่ยม และขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม

อนุโมทนาขอบคุณอาจารย์ประพนธ์

อาจารย์จะถือโอกาสแวะไปเยี่ยม และขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม

นมัสการพระคุณเจ้า

มนุษย์นี้หนา นานาจิตตัง เป็นสิ่งที่ดีที่พระคุณเจ้าได้เล่าเรื่องดี ๆ เผยแพร่สิ่งที่เตือนสติมนุษย์

นมัสการพระคุณเจ้า....ได้อ่านแล้วรู้สึกว่ามีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตขึ้นอีกแยอะนะเจ้าคะ

และถ้าทุกคนรู้จักการปล่อยวางได้ชีวิตก็คงจะมีแต่ความสุข....

ขอบใจโยมท้องฟ้า และโยมกรุณาที่ได้แวะเวียนมากเยี่ยม และให้กำลังใจหลวงพี่

นมัสการพระคุณเจ้า

นู๋เจ็บปวดเหลือเกิน แผลนู๋มันสดนัก อยากตายก็ไม่ตาย รักมากช้ำมาก ทำอย่างไรดีคะ

นมัสการเจ้าค่ะ...จริงแท้ว่ามนุษย์ทุกคนนั้นรักตัวเอง...การไม่อยากมีชีวิตอยู่ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากอารมณ์ของความปวดร้าวเพียงชั่ววูบ ที่คิดว่าไม่มีเขาเราจะอยู่ต่อไปไม่ได้ มองตนไม่มีคุณค่า อยากประชดคนรัก อายสังคม...สิ่งเหล่านี้ เกิดจากสภาวะของจิตใจเกิดความอ่อนแอ ความเตลิดของสติปัญญา...หากมนุษย์หมั่นฝึกที่จะอยู่กับปัจจุบัน "ที่นี่และเดี๋ยวนี้" ทุกขณะจิต ปัญหาต่าง ๆ ย่อมไม่เกิดขึ้น...แต่มนุษย์ย่อมนำอดีตมาพันกับปัจจุบัน และวาดฝันไปถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง...น่าเสียดายชีวิตยิ่งนัก

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ...

ก้าวเดินของความรัก...

“ความรัก” ของคนเรา ก็มีเท้าเดินเหมือนกัน

เมื่อแรกเริ่ม . . . ความรักก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เพราะ . . . อยากจะถึงจุดหมายที่หวังไว้

คือ . . . ใครคนหนึ่งที่เรารู้สึกดีๆด้วย

เมื่อสมหวังแล้วความรักก็เดินไปเรื่อยๆ

. . . ไม่ต้องก้าวยาวและเร็ว

. . . เดินไปตามปกติและก้าวต่อไปเรื่อยๆ

. . . ในช่วงนี้ถ้าเดินเร็วไปอาจจะเจอหลุมและสะดุดได้

ก็คงจะต้องเดิน . . . อย่างระมัดระวัง

. . . และก้าวให้ได้จังหวะ . . . ที่เหมาะสม

แต่เมื่อถึงเวลา . . . ที่ความรักผิดหวังหรือจบลง

ความรัก . . . ก็จะเดินช้าลง

บางทีอาจจะช้า . . . ช้าจนเหมือนเราเดินถอยหลัง

เหมือนกับ . . . คนที่หกล้มแล้วขาเจ็บ

จะเดินไม่ถนัดนัก . . . ต้องรอเวลาเพื่อรักษาให้แผลที่เกิดจากการหกล้มหาย

แล้วค่อยก้าวเดินต่อไป . . . อย่างปกติ

ความรักก็มี step ในการก้าวเดินไปอย่างนี้เรื่อยๆ

ช้าบ้าง . . . เร็วบ้าง จนกว่าจะถึงวันหนึ่งที่เราได้เจอคนที่ใช่จริงๆ

วันนั้น . . . ความรักคงเดินต่อไปได้เรื่อยๆ

ถึงจะหกล้มบ้าง ตกหลุมบ้าง

แต่ . . . ก็ยังมีคนที่คอยประคอง คอยเดินไปด้วยกัน

ไม่ใช่หกล้มแล้ว . . . ต้องลุกเดินต่อด้วยตัวเองอีกต่อไป

เมื่อความรัก . . . ก้าวเดิน

เราจึงต้องก้าวตาม . . . อย่างระมัดระวัง

จะหกล้มบ้าง จะสะดุดบ้างก็ต้องพยายามลุกขึ้น

กลาบนมัสการพระคุณเจ้า

ค่ะ

กราบนมัสการพระคุณเจ้า ครับ

แท้ที่จริง "ความรัก" เป็นคำกลางๆ  "ไม่ดี หรือเลวร้าย"

เมื่อใดก็ตาม เรายิ้มให้กับความรัก และเข้าไปสัมพันธ์กับความรักประดุจดัง "กัลยาณมิตร" รวมไปถึงการมองความรักอย่างเข้าใจ และมีปัญญา เมื่อนั้น ความรักก็จะมอบ "ความเข้าใจ" "ปัญญา" และ "กัลยาณมิตร" ตอบแทนต่อเราเช่นกัน

ผมเห็นสิ่งที่พระคุณเจ้าตั้งใจสื่อออกมาครับ

ตอบแทนสิ่งสวยงามที่พระคุณเจ้ามอบให้ ด้วยสิ่งสวยงามของสรรพสิ่งในโลกนี้ นะครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพ ครับ

 

โยมแสงแห่งความดี และน้ำเกลือหวาน

  • ขอบใจมากที่กรุณาแวะมาเยือนและร่วมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอสิ่งดีๆ งามๆ
  • โลกทั้งผอง พี่้น้องกัน ความรักคือกุญแจสำคัญในการที่จะเชื่อมและร้อยรัดให้พวกเราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
  • ปัญหาคือ "ความรักที่คนไทยกำลังประสบนั้นเป็นฉันใด" ยากที่จะบรรยาย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท