เสียงมอเตอร์ไซด์ดังมาด้วยความเร็วจอดบริเวณหน้าตึกผู้ป่วยทำให้ทุกคนต้องหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีผู้ป่วยนั่งท้ายมาด้วยเหมือนทุกครั้งแต่สังเกตเห็นอาแบคนขับรถเปียกปอนด้วยน้ำฝน ทันทีที่จอดรถก็รีบเดินเข้ามาด้วยหน้าตาตื่นตกใจและพูดว่า “กะนะขอยา ให้เมาะสา หน่อย...เมาะสาล้มเดินไม่ได้ ”
จากการพูดคุยจึงได้รู้ว่าเมาะสาซึ่งเป็นเป็นผู้ป่วยประจำของโรงพยาบาลได้ขอความช่วยเหลือให้มาขอยาจากโรงพยาบาลเพื่อไปให้ตนที่บ้าน ทำให้นึกถึงภาพเมาะสาทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลก็จะหิ้วมะม่วงจากบ้านมาฝากทุกครั้ง ข้าพเจ้าจึงบอกให้อาแบคอยสักครู่ และรีบดำเนินการแจ้งชื่อที่ห้องบัตรช่วยค้นหาประวัติเพื่อเข้าพบแพทย์ทันที
“ หมอค่ะ...ขอยาให้เมาะสาหน่อยน่ะค่ะ เห็นว่าล้มแล้วเดินไม่ได้ ”
“ คนไข้ไม่มาหมอให้ยาไม่ถูกหรอก... ให้คนไข้มาพบหมอดีกว่า ดีมั้ย.. ” กำลังนึกในใจจะทำอย่างไรดีที่จะให้ได้ยา แต่เหตุผลของหมอก็ถูก ก็พอดีเดะยะซึ่งเป็นพยาบาลผู้ป่วยนอกเดินเข้ามา ข้าพเจ้าจึงเล่าเรื่องให้ฟังเผื่อช่วยได้บ้าง พร้อมกับได้ยินเดะยะพูดกับหมอว่า
“ หมอให้ยาแก้ปวดก็ยังดีน๊ะ.. เมาะนี้ลำบากมากบ้านก็อยู่ไกลที่แบหอไม่ค่อยมีรถ ” หมอคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดว่า “ หมอให้แค่ยาแก้ปวดก็แล้วกัน แต่หมออยากให้คนไข้มาที่โรงพยาบาลจะได้ตรวจให้และรับยาที่ถูกต้อง ”
เมื่อได้รับยาแล้วข้าพเจ้าจึงนำยาให้อาแบขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างพาไปให้เมาะสาและฝากบอกว่า“ กินยาแก้ปวดก่อนนะแล้วค่อยมาพบหมอ” ข้าพเจ้ามองรถมอเตอร์ไซด์ที่ขับออกไปอย่างไม่สบายใจ รู้สึกเป็นห่วงเมาะสามากไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างคิดสารพัดห่วงเพราะเมาะสาไม่มีใคร จริงๆแล้วเมาะมีบุตรหลายคนแต่บุตรส่วนใหญ่ไปทำงานไกล ๆ เหลือแต่ลูกชาย คนเดียวที่อยู่บ้านแต่ก็ไม่สามารถที่จะดูแลอะไรได้เลย หลังจากครุ่นคิดทั้งคืนแล้ว ข้าพเจ้าจึงชวนสามีไปบ้านเมาะสาในวันรุ่งขึ้นทั้งๆที่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยรู้จักบ้านเมาะสาเลยแต่ยังไงก็ขอไปเยี่ยมและดูอาการให้เห็นกับตาเผื่อว่าจะได้ช่วยได้มากกว่านี้
หลังจากได้สอบถามมาตลอดทางก็ถึงบ้านหลังหนึ่งมีต้นมะม่วงต้นใหญ่บริเวณหน้าบ้าน และใบไม้ร่วงที่แห้งกรอบเคลื่อนรอบๆต้นมะม่วง ข้าพเจ้าไม่รอช้ารีบตะโกนเรียกชื่อเมาะสา สักพักได้ยินเสียงเจ้าของบ้านขานรับ พร้อมกับประตูที่เปิดแง้มออกมา ข้าพเจ้ารีบเข้าไปทันที สิ่งที่พบเห็นเมาะสาในสภาพนั่ง ขยับขาไม่ได้ “ เมาะหกล้ม....เดินไม่ได้มาหลายวันแล้ว ” และข้างๆเมาะสาก็ มีบุตรชายซึ่งพิการทางสมองนั่งอยู่ใกล้แม่ เมาะสายิ้มด้วยความดีใจที่เห็นพวกเรามาเยี่ยม และวันนั้นชาวบ้านใกล้เคียงก็ได้มาช่วยกันหุงข้าว ทำกับข้าวให้พวกเราได้กินร่วมกันเป็นมื้อเที่ยงที่อร่อยที่สุด ทุกคนชื่นชมโรงพยาบาลรามันและขอบคุณที่พวกเรามีน้ำใจไปเยี่ยมเยือนถึงบ้าน หลังจากกลับจากเยี่ยมเมาะ ข้าพเจ้ารีบดำเนินการยื่นบัตรและรายงานอาการให้แพทย์ฟังอย่างละเอียด หลังจากได้รับยาก็ได้นำไปให้เมาะสาทานถึงที่บ้าน
เมาะสาเดินลงมาจากรถและมุ่งตรงมาที่ข้าพเจ้า พร้อมหิ้วมะม่วงหนึ่งถุงใหญ่ๆอีกครั้งมาฝากข้าพเจ้า เมาะสาหายแล้ว ทุกอย่างเป็นปกติและหลังจากนั้นทุกครั้งที่เมาะมาโรงพยาบาลก็จะมีผักผลไม้ติดมือมาตลอด
ข้าพเจ้าดีใจที่ได้บริการเมาะสา และคนอื่นๆ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้รับบริการที่มามีความไว้วางใจในตัวข้าพเจ้า และนี้ก็คือความสุขที่แท้จริงของข้าพเจ้าในตำแหน่งประชาสัมพันธ์ที่เป็นส่วนหนึ่งที่คอยดูแลและช่วยเหลือในยามที่เขามีปัญห
คิดถึงชาวรามันทุกคนค่ะ
ขอบคุณครับ
คุณ sha-รพ.แก่งคอย
และก้อ ถูกต้องแล้วครับ
ว่า...ครั้งหนึ่ง (28 มี.ค.46 ) รพ.รามัน ได้ไปดูงานกิจกรรม 5 ส ที่ รพ.แก่งคอย ครับ
และเราก็ได้นำสิ่งที่ดีๆ หลายๆ อย่าง มาประยุกต์ใช้กับ รพ.รามัน ครับ
ผมเอง ก็ได้มีโอกาสไปมาแล้ว เช่นกันครับ
และทุกๆ ครั้ง ที่มีหน่วยงานต่างๆ มาดูงาน 5 ส ที่ รพ.รามัน ภาพที่ทีมงาน 5 ส ได้ไปดูงานที่ รพ. แก่งคอย ก็จะถูกบอกเล่าถึงเสมอครับ
ขอบคุณครับ สำหรับสิ่งดีๆ ที่ชาวรามัน ได้รับ...
และขอบคุณ ที่แวะมาให้กำลังใจกันครับ
อัสลามุอาลัยกุม
ผมเป็นนักศึกษาพยาบาลปี 3 มอ หาดใหญ่ บ้านผมก็อยู่ที่วังพญา
ขอชื่นชมพยาบาลมากเลยครับที่เห็นคุณค่าของคนไข้
จากที่ได้อ่านมาเมาะสาน่าจะอายุมากแล้ว แถมเป็น CVA อีกด้วย
แต่ยังไงก้อตามเหตุการณ์ครั้งนั้นถ้าไม่มีพี่พยาบาลคนนี้เมาะสาก้อคงแย่มากกว่านี้น่ะครับ
วาอาลัยกุมมุสสลาม
สวัสดีค่ะ...น้องมุสตอฟา
ขอบคุณนะค่ะที่ส่งกำลังใจมาให้
ยินดีที่ได้รู้จักน้อง กลับบ้านเมื่อไหร่ เเวะมาเยี่ยมพี่พี่ที่โรงพยาบาลรามันนะค่ะ
ชื่นชมรพ.รามันมากค่ะ....
ไม่ผิดหวังเลยค่ะที่ได้มาที่นี่......
รพ.กะพ้อค่ะ
ดิฉันเป็นคน อ.เมือง เมื่อมาอยู่รามันแล้ว ได้มีโอกาสเข้ารับบริการที่ ร.พ.รามัน ก็มีความรู้สึกชื่นชมในการบริการของทุกๆฝ่ายตั้งแต่พยาบาล,ผู้ช่วยพยาบาลและแพทย์ มีไมตรีจิตที่ดี ยิ้มแย้มกับกับผู้ป่วย ให้คำปรึกษาและคำปลอบใจ ไม่เหมือนโรงพยาบาลอื่นๆที่ดิฉันเข้ารับบริการ
อยากให้ทุกท่านที่ทำงานที่นี่เป็นแบบนี้ตลอดไป