ได้เวลาพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอีกแล้ว
ปีการศึกษา 2553 เป็นปีที่โรงเรียนทุกแห่งต้องต้องเริ่มใช้หลักสูตรแกนกลางสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ประสบการณ์ที่โรงเรียนต่าง ๆ ได้รับจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ที่โรงเรียนต่างก็ใช้เวลาในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่มีเวลาจำกัด องค็ความรู้ต่าง ๆที่ผู้เรียนได้รับนั้นน้อยมาก ทำให้เกิดปัญหามากมายหลายประการผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม การพัฒนาหลักสูตรต้องทำควบคู่กับการพัฒนาครู
หัวใจสำคัญของการพัฒนาหลักสูตรคือการเตรียมความพร้อมของบุคลากร ประการแรกที่โรงเรียนควรกระทำคือ สร้างความตระหนักแก่บุคลากรให้เห็นความสำคัญและความจำเป็นในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ครูทุกคนในโรงเรียนต้องมีส่วนร่วม กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น นักเรียน ต้องมีการจัดทำและเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการที่จะพัฒนาหลักโดยการกำหนดหลักสูตรสถานศึกษา ประการที่สอง การพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สภาพปัญหาและความต้องการ จุดเด่น จุดด้อย ปัจจัยพื้นฐานของโรงเรียน ประการที่ 3 การกำหนดแนวปฏิบัติที่เหมาะในการจัดทำหลักสูตร
หลักสูตรสถานศึกษา ปี พุทธศักราช 2553 ถ้ามีการเตรียมความพร้อม มีการวางแผนและมีการจัดการที่ดีในการดำเนินการ เชื่อมั่นเหลือเกินว่า หลักสูตรดังกล่าวจะเป็นหลักสูตรที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนเก่ง คนดี มีคุณธรรม จริยธรรมเป็นที่ต้องการของสังคมมากกว่าหลักสูตรสถานศึกษาที่ผ่านมาในอดีต
ความเห็น (1)
สวัสดีค่ะ คุณมทูร พูลสวัสดิ์
- ได้ไปอบรมการใช้หลักสูตร 2551 มาแล้วค่ะ กำลังลงสู่การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
- ปีหน้า (2553) ที่โรงเรียนจะเริ่มใช้กับ ม.1 และ ม.4 ค่ะ และครบทุกระดับชั้นในปี 2555 ค่ะ
- ในระดับประถมและมัธยมต้น หลักสูตรแกนกลางแต่ละรายวิชากำหนดตัวบ่งชี้ชัดเจนดีมากค่ะ โดยเฉพาะภาษาต่างประเทศ(อังกฤษ)
- แต่ ม.ปลาย ยังเคว้งคว้างเหมือนเดิมค่ะ (อังกฤษ)