sha-รพ.หนองจิก
โรงพยาบาลหนองจิก จังหวัดปัตตานี

เรื่องราวของฉัน...ผ่านวันเวลา


หัวใจความเป็นมนุษย์

เรื่องราวของฉัน...ผ่านวันเวลา

“มูหะหมัด  วันสุไลมาน”

นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ

งานประกันสุขภาพถ้วนหน้า

โรงพยาบาลหนองจิก  จังหวัดปัตตานี

 

                แบมะ นักวิชาการสาธารณสุขหนุ่มอารมณ์ดี ที่เรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็นเสมอ ทั้งที่ชีวิตต้องถูกทำร้ายทั้งตัวเองและครอบครัวอันเป็นที่รัก จากปัญหาความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้วยหัวใจแห่งการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ให้กับทุกคนแม้คนที่เคยทำร้ายครอบครัวอย่างแสนสาหัส การก้าวผ่านหรือวิธีคิดที่ทำให้ยอมรับและการจัดการกับความแค้น และดำรงชีวิตภายใต้ความขัดแย้งและการถูกกระทำได้นั้น นับเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่งของชายหนุ่มอารมณ์ดีผู้นี้ “มูหะหมัด วันสุไลมาน”

 

เรื่องราวของฉัน...ผ่านวันเวลา

“มูหะหมัด  วันสุไลมาน”

 

“ตัวฉัน” เรื่องราวในสิ่งที่ฉันมี

                ฉันเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ พี่น้อง ที่พร้อมหน้าพร้อมตา เป็นครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย อยู่ในฐานะจนถึงปานกลาง ตอนเด็กๆ ถึงจะมีกินบ้าง อดบ้าง แต่ก็มีความภาคภูมิใจที่พ่อแม่ทำงานอาชีพสุจริต สามารถส่งตัวฉันและพี่ๆ น้องๆ ร่ำเรียนจนจบปริญญาเกือบทุกคนและมีงานทำ

 

“ฉันได้เรียนรู้”  กระบวนการเรียนรู้ของฉันผ่านวันเวลา

                ฉันได้เรียนรู้ว่า การมีครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งมีพ่อแม่ พี่ๆ น้องๆ อยู่กันหลายๆ คน มีความสุขที่เปรียบไม่ได้ สร้างเสริมความสามัคคีในหมู่ครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น อันเป็นจุดเริ่มต้นในความสำเร็จของชีวิต และสามารถพึ่งพาในยามเดือดร้อนได้

 

“ฉันเติบโต”  ปรากฏการณ์ที่เข้ามาในชีวิตที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้และเติบโต

                ฉันและครอบครัวของฉันเติบโตในผองเพื่อฝูงมากมาย ฉันคิดว่าทุกๆคนที่เป็นเพื่อนของฉันในสมัยเด็กๆเป็นคนดีกันทุกคน เรียน เที่ยว กินข้าวหม้อเดียวกัน แต่พอเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนๆที่ฉันคิดว่าเป็นคนดีกันทุกคน เหินห่างฉันและครอบครัวฉัน ไม่มีใครที่สามารถพึ่งพาอาศัยในยามยากได้ ...(ฉันซึ้งมาก...ซึ้งจริงๆ)

 

“จุดเปลี่ยนของฉัน”

                ครอบครัวของฉันโดนทำร้ายจากเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉันและครอบครัวไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่บ้านตนเองที่สร้างด้วยหยาดเหงื่อของฉันและครอบครัว ต้องมาอาศัยเช่าบ้านอยู่ในตัวเมืองซึ่งที่ๆฉันคิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุดในขณะนี้ เพื่อให้ห่างไกลจากสถานการณสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ฉันต้องยอมละทิ้งบ้านให้อยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย เพื่อรักษาชีวิตของฉันและครอบครัว แต่...สักวันหนึ่ง ฉันจะกลับไปอยู่บ้านที่ฉันสร้างด้วยตัวเอง แต่...ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานอีกสักเท่าไร 1 เดือน 1 ปี หรือ 2 ปี หรือจะต้องรอให้ชีวิตฉันหาไม่เสียก่อน

 

“สิ่งที่ฉันภาคภูมิใจ”

                ฉันภาคภูมิใจในตัวคุณพ่อคุณแม่ของฉันที่มีฐานะยากจน มีลูกหลายคน สามารถส่งเสียฉันให้เรียนจบปริญญาละมีงานทำเป็นหลักแหล่งจนถึงปัจจุบัน ซึ่งงานที่ฉันทำปัจจุบันนี้มีหน้าที่ช่วยเหลือ ให้การสนับสนุนผู้คนที่มารับบริการ ณ โรงพยาบาล

 

บริบทการพัฒนาจิตปัญญา

                1. ช่วยคนแม้เคยถูกทำร้าย  การให้ความช่วยเหลือตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยไม่เลือกว่าผู้ป่วยนั้นจะเป็นผู้ที่เคยทำร้ายเรามาก่อนหรือไม่ ยังคงให้บริการตามกระบวนการโดยเท่าเทียมกัน ซึ่งผลจากการช่วยเหลือและทำด้วยความตั้งใจทำให้เกิดสิ่งดีๆ ขึ้นมาในชีวิต  “ช่วงหลังบางครั้งมีคนมากระซิบข้างๆ หูว่าให้ระวังตัว ช่วงสัปดาห์นี้ อย่าใช้เส้นทางนี้ ให้ใช้เส้นทางโน้นในการเดินทาง หรือบางทีเด็กๆก็จะมาบอกว่า อย่าใส่เสื้อเหลืองหรือสีชมพู หรือไม่ก็เวลาจะเข้าไปในเมืองเด็กๆ ก็จะบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไปตลาดน่ะ เหมือนกับการส่งซิกบางอย่าง มีความรู้สึกว่าความดีตรงนี้ น่าจะส่งผลกระทบกลับคืนมาตรงนี่ได้”

                2. รู้อดทนและให้อภัย  จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกับพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจถูกลอบยิงจนพิการตลอดชีพ และตำรวจสามารถจับผู้ร้ายในที่เกิดเหตุได้ สืบสาวเรื่องราวพบว่า ผู้ร้ายที่ลอบยิงพี่ชายนั้นเป็นญาติทางฝ่ายพ่อ ตั้งคำถามไว้ในใจว่าทำไม่เขาถึงทำกับเราได้ แต่ในท้ายที่สุดได้ยินยอมไม่เอาความจนกระทั้งเขาได้ออกจากคุกมา ด้วยความคิดของการเป็นผู้ให้ ไม่ต้องการให้ผู้ใดต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย ทุกข์กาย และทุกข์ใจ มูหะหมัด จึงเป็นผู้ให้ได้เสมอแม้กระทั่งผู้ที่เคยทำร้ายตนเองและครอบครัว

 

วิธีคิดและจุดเปลี่ยน

                1. ชีวิตผูกกับสถานการณ์ความรุนแรง  เนื่องจากบ้านอยู่ในพื้นที่ที่โซนอันตราย(สีแดงเข้ม) ทำให้ครอบครอบต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินบ่อยครั้งที่เกิดขึ้น ด้วยเพราะครอบครัวส่วนใหญ่รับราชการ ซึ่งเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ “คล้ายๆกับว่า บ้านผมขวางทางเค้า นี่จากประสบการณ์จริง บ้านผมอยู่ตรงโค้งพอดี อยู่ทางแยกสามารถจะเป็นทางหนีทีไล่ เข้าป่าได้ สามารถซิกแซกไปทางอื่นได้หลายทาง..ผมประสบด้วยตัวเอง บ้านผม บ้านพี่ชายเคยโดนเผา รถยนต์ที่จอดอยู่ก็โดนเผา ฯลฯ นี่คือเหตุการณ์ 1 ใน 12 ครั้ง ที่ผมและครอบครัวประสบ”

 

                2. การได้รับกำลังใจครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน  ด้วยความเข้าใจของผู้อำนวยการโรงพยาบาลในฐานะผู้บังคับบัญชา และผู้ร่วมงานในฐานะเพื่อน ทำให้มูหะหมัดได้รับกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตแห่งชีวิตที่ได้รับ และมีพลังในการทำงานให้เป็นผู้ให้อย่างไม่มีข้อจำกัดด้วยจิตแห่งการบริการอย่างแท้จริง

 

ประสบการณ์การทำงานหรือประสบการณ์ชีวิตที่อยากเปิดเผยให้รู้

                การพัฒนาตนเองที่นำไปสู่การพัฒนางานให้บริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ของมูหะหมัด เรื่มต้นจากนำประสบการณ์ของตัวมาทบทวน วิเคราะห์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การให้กำลังใจตังเองด้วยความภาคภูมิใจ ร่วมกับโอกาสที่ได้รับ และการมีศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ ปัจจัยต่างๆ ประกอบกันจนทำให้เกิดการพัฒนาเป็นลำดับขั้น ดังนี้

                1. ถอดบทเรียนชีวิตจากประสบการณ์  เป็นการทบทวนตัวเองถึงลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของตน รวมทั้งการปฏิบัติต่อตัวต่อผู้อื่น ซึ่งอาจด้วยการเป็นคนโผงผาง พูดก่อนคิด อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตนต้องประสบเหตุต่างๆในชีวิต ดังนั้นจึงเกิดการปรับเปลี่ยนทั้งวิธีคิดและวิธีปฏิบัติของตนภายใต้บริบทของการเป็นผู้ให้บริการที่มีความเป็นกันเองทั้งกับผู้รับบริการและเพื่อนร่วมงาน

                2. สร้างความภาคภูมิใจแก่ตนเอง การให้กำลังใจตนเองเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเองของมูหะหมัด ซึ่งมูหะหมัดได้นำความภาคภูมิใจมาเสริมสร้างกำลังใจแก่ตนเอง โดยความภาคภูมิใจในชีวิตอันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานที่สำคัญ คือ การได้เป็นข้าราชการรับใช้แผ่นดิน ความสามารถพิเศษในทักษาภาษาไทย  คณิตศาสตร์ และหมากกระดานที่ได้รับการยกย่องเป็นครูของหลายๆคน และผลสำเร็จจากการทำงานในหน่วยงาน UC ของโรงพยาบาล

                3. โอกาส  ผู้บริหารมีความไว้วางใจและให้โอกาสมอบหมายงานให้ทำโดยไม่มีการก้าวก่ายการทำงานและการตัดสินใจ จนกระทั่งได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในงาน ซึ่งการได้รับโอกาสจากผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานถือเป็นกำลังใจและแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาที่สำคัญของมูหะหมัดและเพื่อนร่วมงานทุกคน

                4. ศาสนาและสมาธิ การดูแลจิตใจของตนในยามประสบเหตุ หรือเหนื่อยล้ากับการทำงาน มูหะหมัดมีศาสนาเป็นที่พึ่ง โดยการสร้างสมาธิเพื่อพิจารณาเหตุแห่งปัญหาด้วยเหตุและผล อันไปสู่การยอมรับและปรับเปลี่ยนเพื่อให้พ้นจากความอ่อนแอและก้าวต่อไป

                กล่าวโดยสรุป มูหะหมัด ริ่มต้นจากการสร้างกำลังใจให้ตนเอง เพื่อนำไปสู่การมอบความรักให้แก่ผู้อื่นผ่านการให้บริการที่เป็นกันเอง และจริงใจด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

หมายเลขบันทึก: 300658เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 11:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ดีจ๊ะ..แบมะ(เกือบหล่อ)

น้องจะคอยเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้อัลลอฮ์คุ้มครอง

เป็นกำลังใจให้แบมะสุดหล่อ ขอให้แบมะเข้มแข็งและขอชื่นชมกับงานเขียนของแบมะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท