... ข้อเสนอของผมที่มอบให้พี่ๆ เจ้าหน้าที่คลินิก เมื่อคืน
ข้อเสนอแนะและมุมมองต่อการพัฒนาแนวทางการดำเนินงาน
คลินิกวัยรุ่นบางรัก
นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ 27/09/09 แก้ไขเพิ่มเติม 28/09/09 -11.10 น.
1. มุมที่ได้สัมผัส : ความรู้สึกต่อคลินิกวัยรุ่นบางรัก
จากการสัมผัสการดำเนินงานของคลินิกวัยรุ่นบางรัก โดยเริ่มตั้งแต่ในส่วนของการวางแผนที่มีกลุ่มเยาวชนเข้าร่วมการจัดเวทีระดมสมอง ณ โรงแรมนารายณ์ มาจนถึงกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ ที่คลินิกจัดทำขึ้นร่วมกับเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชน กทม.เขตวังทองหลาง ตลอดจนการสังเกตการณ์ทำงานของเจ้าหน้าที่รวมถึงการเข้ารับการรักษาของวัยรุ่นอย่างน้อยสามครั้ง
พบว่าในแต่ละครั้งที่ได้มีโอกาสพบกับพี่ๆเจ้าหน้าที่ มักจะเห็นความยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจตรวจรักษา อีกทั้งยังเห็นว่า คลินิกวัยรุ่นได้มีความก้าวหน้าในการปรับปรุงและพัฒนาระบบ-รูปแบบการรักษาพยาบาลแก่วัยรุ่น ถือเป็นมิติใหม่ที่ระบบการบริการของรัฐมีดำเนินงานด้านระบบการดูแลสุขภาพทางเพศอย่างเป็นมิตรให้แก่เยาวชน ทั้งนี้รูปแบบการให้บริการที่เป็นมิตรที่พบได้จากการเฝ้าสังเกตก็คือ การให้บริการด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นกันเองกับผู้เข้ารับบริการ การไม่แสดงท่าทีรังเกียจและการซักประวัติในห้องพูดคุยที่เป็นสัดส่วน อันจะทำให้วัยรุ่นผู้เจ้ารับการรักษารู้สึกว่าเป็นส่วนตัว(การรักษาความลับ)
มีข้อเสนอจากเยาวชนในหลายเวที ทั้งในงานเวทีวิชาการขององค์การแพธ งานเอดส์ชาติ ที่เยาวชนแกนนำจากภูมิภาคต่างๆ ต้องการให้มีระบบบริการสุขภาพ ซึ่งให้ความดูแลครอบคลุมไปถึงขั้นการตรวจรักษาโรคติดต่อต่างๆ ที่วัยรุ่นไม่สามารถทำเองได้
โครงการจำนวนมากมายในประเทศไทย ทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนโลกและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ UNESCO และ UNICEF ที่มีความพยายามในการสนับสนุนกลุ่มเยาวชนแกนนำในเครือข่ายต่างๆ ให้มีการทดลองสร้างระบบบริการที่เป็นมิตรกับเยาวชนขึ้นมา ในรูปแบบต่างๆ กัน บ้างก็เป็นศูนย์ในโรงเรียน บ้างก็เป็นศูนย์บริการที่สำนักงานของกลุ่มเยาวชนนั้นๆ และเรียกขานด้วยชื่อที่แตกต่างกันออกไปตามแต่องค์กรที่ให้การสนับสนุนจะสร้างสรรค์ขึ้น มีทั้ง Youth Friendly clinic, Youth Friendly center หรือ Love care stations แต่ทั้งหมดนั้นมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ หวังจะให้เด็กและเยาวชน ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มใหญ่ในการติดเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการท้องไม่พร้อม เข้ามารับบริการ และหวังว่าจะก่อให้เกิดบริการให้คำปรึกษา การส่งต่อเพื่อการรักษา และการตรวจรักษาอย่างเป็นมิตรกับวัยรุ่นทั้งสิ้น
“คลินิกวัยรุ่นบางรัก” เป็นหนึ่งความกล้าหาญของกรมควบคุมโรค (กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์) และโรงพยาบาลบางรัก ที่กล้าทดลองสนับสนุนและดำเนินการในเรื่องคลินิกวัยรุ่น เรียกได้ว่าเป็นความพยายามสร้างคลินิกที่มีบริการที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่น(ภาครัฐ) ที่จะเข้ามาทำการรักษาที่เป็นจุดเด่นคือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสอบถามความต้องการของวัยรุ่นที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อที่คลินิกจะได้นำข้อเสนอที่ได้รับมาจัดให้มีบริการ ที่ถูกจุดและตรงใจวัยรุ่น และยิ่งไปกว่านั้นการที่คลินิกสนับสนุนให้มีการทำกิจกรรมรณรงค์โดยผ่านเครือข่ายของสภาเด็กและเยาวชน กทม. เพื่อให้คนทั่วไปได้รู้จักสถานบริการแห่งนี้ รวมทั้งช่องทางต่างๆ อาทิ การสร้างWebsite ( www.stithai.org ) การผลิตสื่อรณรงค์ต่างๆ ที่มีสีสันสดใส เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น
หลายสถานบริการ ที่มีการพัฒนาขึ้น ยกตัวอย่างการดำเนินงานของเยาวชน อาทิ โครงการกล้าเลือกกล้ารับผิดชอบ(เครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เครือข่ายเยาวชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง) ที่ผู้เขียนได้สัมผัสกับเครือข่ายที่ปฏิบัติการในระดับพื้นที่ พบว่ารูปแบบบริการส่วนใหญ่จะเน้นการพูดคุย ให้คำปรึกษา หนุนเสริม ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำกิจกรรมของวัยรุ่นในเรื่องการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และเรื่องเพศศึกษาอย่างรอบด้าน รวมถึงการมีบุคลิกการดำเนินงานแบบเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง และมีบริการพื้นฐานด้านการป้องกัน เช่น การแจกถุงยางอนามัยให้กับวัยรุ่นที่ต้องการ และการส่งต่อ Case (ในกรณีที่ต้องรับการรักษา เช่น ติดโรค หรือท้อง หรือมีการร้องขอที่จะทำการตรวจเลือด) เพื่อไปรับการรักษายังสถานพยาบาลในท้องถิ่น
จากกรณีศึกษาดังกล่าว พบว่าพอมีการส่งต่อวัยรุ่นเพื่อเข้ารับการรักษา มักจะได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ให้วัยรุ่นเกิดความเขินอาย ถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว และไม่ได้รับบริการที่รักษาความลับให้ ซึ่งอาจเป็นการแสดงออกอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของให้การรักษา(บุคลากรสาธารณสุข) เช่น การมองด้วยสายตาดูถูก การตั้งคำถามที่มีทัศนคติเชิงลบ การตัดสินและให้คุณค่า การบริการด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร อาจมีการใช้น้ำเสียง ท่าทาง ที่ดุดัน แข็งกร้าว ทำให้วัยรุ่นที่เข้าไปรับการรักษารู้สึกไม่ปลอดภัย และขาดพื้นที่ในความเป็นส่วนตัว ซึ่งนี่เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่นเข้าสู่ระบบการรักษาสุขภาพน้อย หรือทำให้วัยรุ่นไม่กล้าใช้บริการเลย ซึ่งบริการด้านลบที่กล่าวมานั้นมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีให้เห็นในคลินิกบางรัก (เรื่องดีๆ แบบนี้ สามารถพบได้ในอีกหลายคลินิก เช่น 13 คลินิก Love care – ดูได้ที่ http://www.lovecarestation.com/th/ )
การดำเนินงานของคลินิกวัยรุ่นบางรัก จึงถือได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ของภาครัฐที่สนใจ ให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานของตนเอง ให้เหมาะสมกับยุคสมัย (แม้อาคารจะเก่าไปบ้าง) ได้อย่างน่าชื่นชม และจากการสัมผัสในหลายแง่มุมดังที่กล่าวมา ผู้เขียนสัมผัสและรู้สึกได้ว่าการดำเนินงานของคลินิกวัยรุ่นบางรัก “ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”
2. เรื่องที่ควรรักษาไว้ และพัฒนาให้ดีกว่าเดิม
การดำเนินงานนั้นย่อมมีทั้งจุดเด่นจุดดี และจุดที่ควรพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น จึงจะขอกล่าวถึงจุดเด่นที่ควรรักษาไว้ (โดยสรุป) คือ
เนื่องจากพื้นที่การดำเนินงานของคลินิกบางรักอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทบทวนรูปแบบการดำเนินงานอยู่เสมอ เพื่อให้คลินิกเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จึงยังมีข้อที่ควรหนุนเสริม และพัฒนาขึ้น คือ (อันนี้ ท่านที่อยู่ในวงการสาธารณสุขท่านไหนเอาไปปรับใช้บ้างก็ได้นะครับ)
i. ให้ความรู้ คลินิก มีการให้ความรู้เบื้องต้นผ่านการรักษาของเจ้าหน้าที่ โดยมีเอกสารแผ่นพับแจกให้ด้วย การให้ความรู้ในลักษณะนี้จะเป็นการให้ที่ไม่สามารถวัดได้ว่าวัยรุ่นนั้นต้องการหรือไม่ จากการได้อ่านแบบสอบถาม(ประเมิน)ของผู้เข้ารับการรักษา พบว่าหลายคนมีความรู้ แต่ไม่มีความเข้าใจและไม่ตระหนักในการใช้ความรู้ที่มีเพื่อการป้องกันตนเอง เช่น ความรู้เรื่องโรคติดต่อ ที่วัยรุ่นมีน้อยมาก และเรื่องการใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น
ii. ปรับทัศนคติ ข้อนี้คลินิกวัยรุ่นบางรัก และคลินิกหลายแห่ง ขาดแคลนอย่างมาก เพราะมุ่งมั่นตั้งใจให้บริการตรวจรักษาเพียงอย่างเดียว จึงอาจต้องเพิ่มให้มีนักจิตวิทยาเฉพาะด้านพฤติกรรมทางเพศ หรือ นักจิตวิทยา ให้คำปรึกษา หรือ นักจิตวิทยาพัฒนาการ เข้ามาร่วมทำงานด้วย เพื่อเป็นการบูรณาการงานรักษาพยาบาลอย่างเป็นองค์รวม ทั้งนี้ อาจมีการทดลองจัดกิจกรรมพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ หรือทดลอง(นำร่อง)จัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อปรับทัศนคติสำหรับผู้เข้ารับการรักษาควบคู่ไปด้วยได้
iii. สร้างทักษะ ในส่วนนี้ ทางคลินิก มีอาสาสมัคร(เพศหญิง)เข้ามาทำกิจกรรมด้วยซึ่งเป็นสมาชิกสภาเด็กและเยาวชน กทม. เขตวังทองหลาง ซึ่งจะคอยช่วยทำหน้าที่สอนการสวมถุงยางอนามัยให้กับวัยรุ่นผู้เข้ารับการรักษา แต่ตัวอาสาสมัครเองซึ่งเป็นเพศหญิงจึงยังไม่ได้ทำกิจกรรมกับวัยรุ่นเพศชายนัก (เพราะว่ายังเขินอยู่ แต่ตอนนี้เริ่มลองพูดคุยกับวัยรุ่นชายบ้างแล้ว – ข้อมูลจากการสัมภาษณ์) และจากการสอบถามพบว่าในบางราย ไม่กล้าปฏิเสธคู่มีเพศสัมพันธ์ของตนเพราะโดนร้องขอมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย จึงปล่อยเลยตามเลยและไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เห็นได้ชัดว่าการสร้างทักษะให้กับวัยรุ่นผู้เข้ารับการรักษา และอาสาสมัครเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง หรือหากในอนาคต ควรพัฒนาให้ผู้เข้ารับการรักษาพัฒนาตนเองจนสามารถเป็นอาสาสมัครมาช่วยให้ความรู้ในคลินิกได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
(น้องแป๊ก อาสาสมัครวัยรุ่น มาคอยสอนเพื่อนๆให้มีทักษะในการสวมและใช้ถุงยางอนามัย)
3. ก้าวไปข้างหน้า : ความจำเป็นในการศึกษาบทเรียน เพื่อพัฒนาต่อยอด
จากที่กล่าวมาทั้งหมด เห็นได้ชัดเจนว่า คลินิกวัยรุ่นบางรัก เป็นคลินิกนำร่อง ที่ควรมีการศึกษาบทเรียนและพัฒนาแนวทางสำหรับการปฏิบัติการอย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องของระบบการรักษาพยาบาล การปรับทัศนคติของบุคลากรผู้ทำหน้าที่ให้บริการ การส่งเสริมการมีส่วนร่วม และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อผลิตเป็นคู่มือสำหรับผู้ปฏิบัติงานในหน่วยบริการระดับจังหวัด และระดับท้องถิ่น ถึงแนวทางการในการทำงานเพื่อส่งเสริมการรักษาพยาบาลสำหรับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นมิตร อย่างเป็นระบบ
การดำเนินงานนำร่องเพื่อเป็นต้นแบบของคลินิกวัยรุ่นบางรัก (และที่อื่นๆ) หากได้รับการศึกษาอย่างจริงจัง จะทำให้สังคมได้พบว่าระบบบริการสุขภาพที่เป็นมิตรนั้นสามารถสร้างได้อย่างไรบ้าง ด้วยวิธีใด ซึ่งจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขอย่างมาก ทั้งผู้ให้บริการก็จะได้รู้แนวทางของบริการที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น(ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงยาก) วิธีการและขั้นตอนในการจัดบริการให้แก่เยาวชน การพัฒนาบริการที่เหมาะสมให้แก่เยาวชนในพื้นที่ของตนเอง จึงถือเป็นการนำร่องที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาระบบการให้บริการสถานบริการสุขภาพของภาครัฐ
อีกทั้งจะเป็นการปรับแนวคิดการให้บริการ ให้เห็นใจและเข้าใจพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน อันจะเป็นการปรับสมรรถนะในการสื่อสารอย่างเข้าใจเยาวชน เพื่อให้บริการที่เป็นมิตรกับเยาวชนได้
ทั้งนี้ การให้บริการ หรือความพยายามสร้างบริการที่เป็นมิตรทั้งหมดนั้น ควรอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์สถานการณ์และข้อมูลอย่างรอบด้านทั้งระบาดวิทยาพฤติกรรม สถานที่เสี่ยง สำรวจพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนในพื้นที่รับผิดชอบ มีการลำดับความสำคัญ เพื่อนำมาประมวลผลและสร้างระบบบริการที่แก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด โดยการมีการกำหนดพันธกิจ การจัดการประสิทธิผล การหนุนเสริมทรัพยากร การจัดทำแผนที่กลยุทธ์ การระดมทรัพยากร และการบูรณาการแผนปฏิบัติการ ให้มีความสอดคล้อง ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ กระบวนการทางนโยบายที่หนุนเสริมให้การดำเนินงานนั้นสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างเต็มที่ ต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อสุขภาพทางเพศที่ดีของเด็กและเยาวชนในประเทศไทย
ขอบคุณ หัวข้อ ให้้ความรู้ ปรับทัศนคติ และสร้างทักษะ จากหนังสือคู่มือ (การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการป้องกันเอดส์ฯ - ผมจำชื่อจริงๆได้ไม่ถูกต้อง ขออภัยอย่างจริงจังครับ แต่มีเล่มสีแดง กับสีน้ำเงินเข้ม) ของมูลนิธิ สวน ที่ทำให้ผมเอามาขยายความต่อได้อีกมากโข
ปล. ผมรีบเขียนไปหน่อย หากมีเวลาทบทวนมากขึ้น คงได้แก้ไข และคงบันทึกได้ดีกว่านี้ครับ
ท่านที่อยู่วงการสาธารณสุขท่านใด ที่ได้กรุณาแวะผ่านมา
หากอ่านแล้วท่านเห็นว่าขาดตกบกพร่องประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ
แลขอความกรุณาให้คำแนะนำ หรือชี้แนะเพิ่มเติมด้วย
เจ้ากบน้อยอย่างผมจะได้มองเห็นแสงสว่าง ผมยินดีน้อมรับและขอขอบพระคุณล่วงหน้าเลยก็แล้วกันนะครับ
สวัสดีค่ะคุณตาเหลิม
อิอิ อ้าวยังไวรุ่นอยู่ นึกว่าเป็นคุณตา
คุณตาเหลิม สู้ๆ
555++
คุณตา
ขอแสดงความชื่นชม อยากเข้าไปดูงานที่คลินิกบ้าง เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการให้บริการค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ
ตาเหลิมคุณเก่งมาก ขอชื่นชม......เยี่ยม........ขอให้เยาวชนเข้ามาอ่านเยอะๆๆๆๆ