ทางด่วน…เมืองฟ้าอมร


 

                สังคมเมืองหลวง นาน ๆมาครั้งจะตื่นตา ตื่นใจ (คงเป็นเพราะ อยู่ต่างจังหวัด ไม่เคยเห็นตึกสูงใหญ่เสียดฟ้า อยู่รวมกันมากมายขนาดนี้)

 

                 เคยใช้ชีวิตบนทางด่วน ด้วยการยืนโหนรถเมล์  สมัยเรียนช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นช่วงหนึ่ง…. ซึ่งไม่ค่อยมีโอกาสมองวิวสองข้างทางแบบเต็ม ๆ เหมือนครั้งนี้

 

 

                 สมัยนั้น…มีเพียงไหล่กระทบไหล่  แขนกระทบแขน กับกลิ่นกายที่คลุกเคล้ากันไป

 

                 รอยยิ้ม ที่ผมเห็นบนรถเมล์ มีไม่บ่อยนัก แม้กระทั่งตัวเองสมัยนั้น   ก็ยังยิ้มไม่ค่อยออกเช่นกัน  สิ่งที่ผมพบเห็นอยู่บ่อยๆ  กลับเป็น..ท่าทาง…ความมุ่งมั่นของผู้โดยสารบางคน ที่สอดส่ายสายตาหาที่นั่งที่ว่างลง  ทำให้คิดถึงการละเล่นสมัยเด็ก ๆ(…ลิงชิงหลัก…ซึ่งชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะความซนสมัยเด็กๆ ที่เปรียบได้เหมือนการละเล่นชนิดนี้  ต้องหาหนทาง หาช่องทางที่จะเล็ดลอด  ตามโอกาสที่อำนวย  เพียงวัตถุประสงค์เดียวคือ.. ซน  ) บางคนมีสัมภาระมากมาย ทั้งกระเป๋า ถุง หรือลังใส่สิ่งของ ยืนจับหลักไว้แน่น   เด็ก ๆ คนแก่ หรือผู้หญิงท้องบางคน ไม่มีโอกาสได้นั่ง ผมเห็นเช่นนั้น จริง ๆ  ลำพังตัวเองก็ยืนจับราวโหนกับสัมภาระ(หนังสือ)ที่เต็มแขน คงเป็นภาพติดตาที่ครั้งหนึ่งเคยประสบพบมาด้วยตัวเอง

 

 

 

               แต่ก็ใช่ว่า…ภาพที่กล่าวถึง  จะปรากฏให้เห็นบ่อยนัก   คง…เป็นความโชดไม่ดี ที่ได้เห็นจิตใจของคนบางคนบางช่วงเวลา ในอีกมุมมองหนึ่ง  เท่านั้น

 

                 มีภาพติดตาตรึงใจ  บนรถเมล์ที่ผมเคยใช้บริการสมัย นั้น หลายๆ ภาพ ที่มองแล้ว…รู้สึกหักล้างความรู้สึกไม่ดี ที่กล่าวไว้เบื้องต้นได้อย่างน่ายกย่อง ชมเชย …. ภาพกระเป๋ารถเมล์ประคองคนแก่ขึ้นรถ  หรือหิ้วกระเป๋าให้เด็กนักเรียน  ภาพนักเรียนโตลุกให้นักเรียนตัวเล็กๆ นั่ง ฯลฯ  ล้วนเป็นภาพที่เห็นแล้ว ยิ้มในใจได้ท่ามกลางความแออัดยัดเยียดเช่นนั้น  และนี่คือความทรงจำ เมื่อครั้งใช้บริการรถเมล์ ในเมืองฟ้าอมรแห่งนี้

 

                 เมื่อกลับไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดแล้ว  รู้สึกว่า…  เมืองหลวง เป็นความตื่นเต้นเสมอ เมื่อได้กลับมาสัมผัสแบบผิวเผินเป็นครั้งคราว

 

 

                 มาครั้งนี้…แตกต่างกับสมัยนั้นมาก  เส้นทางสัญจรของคนในสังคมเมือง ไขว่ไขว้กันอย่างน่าสนใจ  คิดแล้วคงต้องเป็นเช่นนั้น   เมืองที่มีพื้นที่เท่าเดิม แต่ผู้คนที่เข้ามาใช้ชีวิตและเข้ามาเสี่ยงโชค มีมากขึ้น  ถ้าถนนหนทางไม่ไขว้กันเช่นนี้  รถราคงต้องวิ่งใต้ดิน หรือบินอยู่บนฟ้าเหมือนหนังแฟนตาซี ที่เคยดูหลาย ๆ เรื่อง

 

 

 

                  ระบบสาธารณูปโภค…  เป็นสิ่งหล่อเลี้ยง สังคมใหญ่ ๆ เช่นนี้ เพราะเป็นปัจจัยจำเป็น ที่ต้องนำมาใช้กับชีวิตและความเป็นอยู่ของคนเมืองที่นับวัน ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

 

 

 

บนถนนสายทางด่วน  สองข้างทางอุดมด้วยตึกรามบ้านช่อง ที่มีรูปแบบโก้เก๋…บางตึกมีรูปทรงแบบแปลก ๆ จากการสัมผัสได้ด้วยตา ใหญ่โตอลังการงานสร้างเป็นยิ่งนัก…  จิตใจคนถ้าอลังการเช่นนี้ คงดีไม่น้อย

 

              ตึก…ที่มีเสื้อผ้าปลิวไสว  คงเป็นที่พำนักของคนเมืองกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเมืองหลวง  เสื้อผ้าหลากสีสัน ตากท้าแดด ท้าลม และท้าฝน ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า ที่ปลูกสร้างอยู่ไม่ไกลนัก  คงเป็นความสะดวก ที่ไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกลนัก ท่ามกลางความวิกฤตของการจราจรในเมือง (คิดตามความเห็นของตัวเอง)

 

 

 

             ป้ายประชาสัมพันธ์ หรือแนะนำผลิตภัณฑ์ มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ เช่นกัน  แต่สะดุดสายตา สะดุดหัวใจ ด้วยภาพแห่งรอยยิ้ม ภาพนี้

 

 

 

เป็นภาพเดียวที่เห็นแล้ว รู้สึกตื้นตันใจเป็นพิเศษ เป็นรอยยิ้มอิ่มละไม ที่พระองค์ทรงมอบให้ หากมองด้วยหัวใจแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มเป็นพิเศษ

 

เมืองไทยของเรา…พระองค์เป็นสิ่งมีค่าที่อยู่ในหัวใจของทุกคน 

รูปที่ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่มีอยู่ในบ้านตน

ตราตรึงมิเคยเสื่อมคลาย 

               ผมประนมมือ อธิษฐานจิต  ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในสากลโลก ที่ผมระลึกถึง ณ เวลานั้น ขอได้โปรดดลบันดาลให้พระองค์ท่านทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง อยู่เป็นที่พึ่งทางจิตใจของคนไทยไปตราบนานที่สุด  รูปของพระองค์ที่ดูมีความสุขและสงบอยู่ในที

 

              ก่อนที่จะจากลา  ถนนสายทางด่วน เมืองฟ้าอมรแห่งนี้  มีข้อความหนึ่ง ที่อ่านเจอในหนังสือที่พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน  ฉบับหนึ่งแล้วอยากเก็บไว้ในบันทึกนี้

 

 

เพราะระหว่างที่มองทิวทัศน์ สองข้างทางบนทางด่วนสายนี้ รู้สึกถึง

ความสงบ ความเงียบ และความมีน้ำใจ

กับประสบการณ์ชีวิต ที่ได้พานพบบนถนนสายนี้


 

สงบได้        …..จะสำนึกในความวุ่นวายของตน

เงียบเป็น      …..จะสำนึกในความเพ้อเจ้อของตน

มีน้ำใจ          …..จะสำนึกในการด่วนสรุปคนอื่นของตน

 

                                                                        สุภาษิตจีนโบราณ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 302427เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2009 15:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

แวะมาดูบรรยากาศ เมืองกรุงครับ

แวะมาชมวิว ทางด่วน ฟ้าอมร  ของคุณแสง...ค่ะ ดูได้บรรยากาศกว่าตอนขับรถเอง ชมวิวยาก เพราะต้องใช้ความเร็วอะค่ะ อิจฉาคนอยู่ต่างจังหวัดจังเลย

กรุงเทพฯ ฝนตกทั้งวัน

จิตใจคนถ้าอลังการเช่นนี้ คงดีไม่น้อย

     ผมก็หวังเช่นนั้นครับสำหรับ

 กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์

สวัสดี ครับ คุณครูโย่ง

บันทึกนี้...เขียนหลังจากได้ใช้บริการทางด่วน มีโอกาสที่สามารถใช้เวลาจับภาพตึกรามบ้านช่อง บริเวณริมเส้นทางที่รถวิ่งผ่าน

นั่งดูรูปแล้ว...นึกถึงสมัยเรียนที่ตัวเอง ใช้บริการทางด่วนเช่นกัน แต่กลับไม่มีโอกาส ชื่นชม

วันนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิต....ประสบการณ์การวิ่งผ่าน ทางด่วน เมืองฟ้าอมร ตัวเองได้มีโอกาสสัมผัสอีก ครั้ง  ถือเป็นกำไร ของชีวิต ครับ

เมื่อมีโอกาส ก็อยากถ่ายทอด

ขอบคุณ ครับ

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

วันนี้เพิ่งมีเวลาได้กลับมาอ่านบันทึกใน GTK ค่ะ

อ่านแล้วก็ยิ้มไป ชอบถ้อยคำที่เล่าแบบร้อยเรียง ราบลื่นดีค่ะ

คนไม่มีรากใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นประจำค่ะ ไม่ได้ขับรถเอง ซึ่งจะว่าไปก็นับว่าโชคดีมาก เพราะทำให้ได้เห็น "ชีวิต" ในรูปแบบต่าง ๆ เคยเขียนไว้เรื่องหนึ่งค่ะ เป็นเรื่องเล่าบนรถเมล์ ตอนนั้นเขียนให้หลาน ๆ อ่าน เพราะเขาจะบ่น ๆ ว่ารถติด เบื่อ ๆ ทั้ง  ๆที่นั่งอยู่ในรถส่วนตัวของพ่อแม่...

คนไม่มีรากคิดว่า...การที่เราได้อยู่ในสภาวะที่คับขัน ทุกคนเหนื่อย ต้องต่อสู้กันมาก ๆ บางครั้งก็ทำให้เราได้เห็น "แง่มุมดี ๆ เล็ก ๆ ที่หลบซ่อน" อยู่เสมอ

สังเกตได้อย่างหนึ่งว่า ยิ่งรถเมล์หรือรถสองแถว (รถเล็กร่วมบริการ) ที่แน่น ๆ จะมีความเอื้ออารีช่วยถือของ ถือกระเป๋ากันอย่างเต็มอกเต็มใจ ....

หลานชายเคยบ่น ๆ ว่า ทำไมรถเมล์ต้องบอกว่า โปรดเอื้อต่อเด็ก สตรี และคนชรา แสดงว่า ผู้ชายหนุ่มเท่านั้นที่ต้องยืนใช่ไหม...ก็เลยตอบว่า อ้าว...แล้วจะให้เขียนว่า โปรดลุกให้ชายหนุ่มหน้าตาดี ๆ นั่งหรือยังไงกัน....

ได้หัวเราะกันทั้งสองคนจนปวดท้องค่ะ  ^_^

และชอบตรงนี้มาก ๆ ค่ะ...

ใช่แล้ว หากจิตใจของคนอลังการเช่นนี้...คงจะดีไม่น้อย....

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีครับคุณแสง...

มาดูวิวทางด่วนครับ

เวลานั่งรถไม่ค่อยสนวิวเท่าไหร่ เพราะดูไม่ค่อยทัน

แต่มาเห็นอย่างนี้ ก็เพลินอีกแบบ

แต่ส่วนตัวแล้วชอบวิวทะเลมากกว่า

อิจฉาชาวเลจังครับ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณค่ะ สำหรับสุภาษิต

ได้คิดค่ะ

มุมคิดที่ชวนติดตามกับกาลเวลาที่น่าค้นหา...

อ่านแล้วได้อมยิ้ม กับวิถีชีวิตในป่าคอนกรีต ที่เคยหลงอยู่หลายปีเช่นกันค่ะ ... ยิ่งชีวิตบนรถเมล์นี่ หลายเรื่องได้อมยิ้ม ขำ ตื่นกลัว สัปหงก หรือกระทั่งยิ้มไม่ออก ๕ ๕

ความสงบ ความเงียบ และความมีน้ำใจ

ขอบคุณแง่คิดงามๆ ยามเช้านี้ค่ะ

 

สวัสดียามใกล้เที่ยงค่ะ

คิดได้ขึ้นมาถึงที่เคยมีพี่คนหนึ่งบอกว่า....

ชีวิตไม่มีทางลัด หรือ Short cut หรอกนะ และทางด่วน (Toll way/Express way)นั้น แม้จะทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง ... แต่ทั้งทางลัดและทางด่วน...

ทำให้ชีวิตขาดความรื่นรมย์ ขาดปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่เราควรได้ชื่นชม ได้เห็น ได้พึงพอใจ....

คนไม่มีรากคิดว่า...ท่าจะจริงค่ะ

(^___^)

เดินทางแบบนี้....ทุกวัน

แต่...ชอบแบบนี้มากกว่า....

ภาพดูสงบ เรียบง่าย สวยในอารมณ์สุนทรีย์คะ

 

ขอบคุณขาวยำปักษ์ใต้มากนะคะ
ดูแล้วน่าทานจัง ผักมากแบบนี้เจี๊ยบชอบทานคะ


เจี๊ยบ ทานอาหารใต้ทุกเช้าคะ ชอบที่มีเครื่องเคียงเป็นผักสดๆหลายชนิดคะ
ร้านอาหารชาวใต้ของ ชาวนครศรีธรรมราช คะ

 

 

นึกภาพออกเลยค่ะ...ฉายภาพชีวิตคนบนรถเมล์ได้เห็นชัดเจนค่ะ เหมือน "ลิงชิงหลัก" จริง ๆ ค่ะ...เมืองใหญ่อลังการหาก "จิตใจคนถ้าอลังการเช่นนี้ คงดีไม่น้อย" ชอบคำนี้มากค่ะ...

-----

ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับอาหารเที่ยง...ทานแล้วอิ่มใจค่ะ

ปกติขับรถบนทางด่วนไม่มีโอกาสได้มองข้างทาง

รถวิ่งไล่ตามกันก่อนข้างเร็ว

ขอบคุณครับที่ทำให้ได้เห็นภาพที่ไม่มีโอกาสได้เห็น

สวัสดี ครับ

2.

P
สมาร์ท เปรมการ
เมื่อ พฤ. 01 ต.ค. 2552 @ 15:24
บนเส้นทางด่วน...โดยรวมแล้ว รถขับเร็ว ครับ รถคันที่ผมนั่ง ก็วิ่งค่อนข้างเร็ว
แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ ครับว่า ป้าย 80 กม/ชม ที่ติดไว้บนทางด่วน
คงเป็นข้อจำกัดแบบหลวม ๆ ที่กำหนดหรือเปล่า
....
....
และสังเกตระหว่างทางบางช่วง...มีร่องรอยของ อุบัติเหตุ คาดว่า...น่าจะรุนแรง เพราะแค่ความเร็ว 80 กม./ชม ก็ถือว่าแร็ว แล้ว บางคันที่ขับแซงไป คาดว่า น่าจะไม่ต่ำกว่า 100 กม/ชม ความเร็วขนาดนี้ อดคิดในใจลึก ๆ ครับว่า...แรงพอที่จะก่อให้เกิดความสูญเสีย...
ผมเดาครับว่า คุณ สมาร์ท เปรมการ น่าจะมีประสบการณ์ หากวันใดคุณแวะมา อยากฟังความคิดเห็นจากคุณ
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

เดี๋ยวนี้พี่แสงเก่งขึ้นมาก

และที่สำคัญดูเหมือนพี่แสงจะมีความภูมิใจในตนเองและการใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้มากขึ้นๆๆๆๆๆๆ มากขึ้นจริง ๆ น่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะพี่แสง สู้ๆ

เคยไปใช้ชีวิตอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกันค่ะ

วุ่ยวายดี แต่ตอนนั้นวัยรุ่นก็พอทนอะค่ะ

ให้กลับไปตอนนี้ต้องคิดหนักเลยนะคะ...

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

มาทักทายในวันหยุดค่ะ 

เปลี่ยนภาพแล้วหรือคะ แต่ก็ยังจำได้ค่ะ

มีความสุขในวันทำงานนะคะ

(^___^)

ผมเตรียมเทคะเเนนให้เลยนะเนี่ย

สวัสดีครับ แสงแห่งความดี

  • สบายดีนะครับ ไม่ได้มาเยี่ยมหลายเพลา
  • บันทึกนี้สุดยอดจริงๆ ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีที่หักคะแนน
  • ท่านไม่เหมาะที่จะเป็น Blogger ต่อไปอีกแล้ว
  • เพราะท่านกลายเป็นนักเขียนชั้นเยี่ยมไปเสียแล้ว
  • เขียนได้ดีมาก  สมควรได้รางวัลในระดับชาติ
  • แบบนี้ไม่ต้องให้กำลังใจก็ไปโลดแล้ว
  • ขอให้ประสบความสำเร็จ โชคดีครับ

นานมากแล้วเขียนกลอนไว้..และเขียนยังไม่จบ

...

สบายดีหรือไร กรุงเทพฯ
ดื่มเสพควันพิษกันถ้วนหน้า
รถเมล์ เคลื่อนกายเหมือนชายชรา
ขยะเกลื่อนตาทุกมุมเมือง...

....

 

คิดถึงป่าคอนกรีตในบางมุม บางอารมณ์

... จะไปเยี่ยมเยือนรร.เก่า ไหว้หลวงปู่ ..

มีความสุขกับสิ่งที่เลือกบนถนนสายชีวิตนะคะ

 

มาอ่านและเห็นจึงรู้ว่ากรุงเทพมหานครมีความงดงามซ่อนอยู่

ขอบคุณผู้นำทางครับ

  • มาดูบรรยากาศเมืองกรุง..และ
  • ข้อคิด คำคม ท้ายเตือนสติได้ดีจริงๆ
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ แสงแห่งความดี

  • บันทึกไหนที่มี ท่านมา ลปรร.
  • เติมเต็มให้ มันมีความรู้สึกเหมือน
  • มันครบถ้วนสมบูรณ์จริงๆ
  • คล้ายกับมี แสงแห่งความดี
  • มาช่วยส่องสว่างโชติช่วงชัชวาล
  • ขอบพระคุณจริงๆ

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

- วันนี้มีโอกาสไปเยี่ยม เลยถือโอกาสอ่านบันทึกหลายบล็อก คุณแสงมีหลายบล็อกจังเลย แต่ก็ดีนะ เพราะเป็นการจัดระบบองค์ความรู้ที่เป็นหมวดหมู่ แยกออกจากอย่างชัดเจน เป็นตัวอย่างที่ดีมากค่ะ  นับถือ.....

- สังคมเมืองหลวง ก็วุ่ยวายเป็นปกติ คนไม่มีเวลาที่เงยหน้ามองท้องฟ้า ต้นไม้ ดอกไม้ข้างทาง หรือหันหน้าไปทักทายกันเหมือนคนต่างจังหวัด ทุกอย่างต้องรีบเร่ง แข่งขัน ฯ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด

- อยู่ต่างจังหวัด จังหวัดเล็กๆ สงบไม่วุ่ยวายดี  และชีวิตส่วนหนึ่งก็อาจขาดประสบการณ์อย่างที่คนในเมืองใหญ่ได้เจอ....

ชอบข้อคิดตอนท้ายค่ะ สุภาษิตจีน

สงบได้        …..จะสำนึกในความวุ่นวายของตน

เงียบเป็น      …..จะสำนึกในความเพ้อเจ้อของตน

มีน้ำใจ          …..จะสำนึกในการด่วนสรุปคนอื่นของตน

                                                                 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ตามมาขอบคุณสำหรับคำอวยพร และขอให้พรย้อนกลับให้คุณแสงแห่งความดีเป็นแสงแห่งความดีอันรุ่งโรจน์ตลอดไปค่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท