ธัมมะสวัสดีครับ
กัลยาณมิตรทุกท่าน
หลังจากมีความตั้งใจว่าจะทำมาเป็นเวลาแรมปี
บุญกุศลของเด็กๆและที่ทุกท่านร่วมกันทำมาก็ส่งผลให้ธัมมะจัดสรรค์ได้อย่างน่าอัศจรรย์
เหตุปัจจัยต่างๆมาลงตัวกันพอดี ในวันที่9 เดือน9 ปี 2009
ช่วงเช้าได้ติดตามพระอาจารย์ ไปประชุมในเวที "TPBS" เวที รับฟังความคิดเห็น "ถอดบทเรียน เขียนอนาคต ทีวีไทย”
ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องแรกที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของสถานีโทรทัศน์
โดยแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเป็น 10 กลุ่ม คือ
1. ข่าวและสารคดีเชิงข่าว
2. รายการที่เกี่ยวเนื่องกับข่าว
3. รายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว
4. รายการสารคดีและสารประโยชน์
5. รายการศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรี เกมโชว์ เรียลลิตี้โชว์
6. รายการเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต ชนกลุ่มน้อย อาหาร สุขภาพ คุ้มครองผู้บริโภค เกษตร ชุมชน ผู้พิการ ธรรมะ
7. รายการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ สิ่งแวดล้อม
8. รายการกีฬาและนันทนาการ
9. รายการละครและภาพยนตร์
10. รายการวาไรตี้และท่องเที่ยว
ในระหว่างที่ มีการแบ่งกลุ่มย่อย ร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนารายการของทีวีไทย
กลุ่มรายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว จะเป็นกลุ่มที่มีผู้เข้าร่วมระดมความคิดกันมากที่สุด
จึงหาที่นั่งในกลุ่มอื่นๆ ที่มีคนน้อยๆ
หลังจากเดินดูแต่ละวงย่อย จึงมาขอนั่งกับกลุ่มรายการละครกับภาพยนต์
หลังจากเริ่มแนะนำตัว ก็พบว่ากลุ่มย่อยนี้น่าสนใจมาก เพราะมี คุณเทินพันธ์ รายการ hotshot film คุณพนิดา สถาบันคลังสมองของชาติ
คุณประภาส kiddee project รวมถึงเจ้าหน้าที่ผังรายการจาก TVTHAI และ NGO ท่านอื่นๆ
การแลกเปลี่ยนสนทนาเริ่มขึ้นได้ไม่นาน พี่แดง บ.จินตนาการ ก็เดินทางมาถึงและมานั่งร่วมวงสนทนาด้วย รู้สึกแปลกใจที่พี่เขามานั่งในกลุ่ม
ภาพยนต์และละครโทรทัศน์ เพราะถ้าพี่แดงร่วมแสดงความคิดเห็นในกลุ่มรายการสารคดีจะตรงกับสายงานด้านที่ทำอยู่มากกว่า......
หลังจากแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ในประเด็นต่างๆ ที่มีการเสนอให้นำกวีซีไรต์ เรื่องราวดีๆ นำมาทำเป็นบทละครภาพยนต์
คุณพนิดา ก็เสนอว่า องกรค์ภาครัฐอย่างเช่นกระทรวงวัฒนธรรม ควรจับมือร่วมกับ
ผู้ผลิตสื่อ สร้างปรากฎการณ์อย่างเช่น "เดจังกึม"
ซึ่งเราก็พบว่า การที่เด็กๆได้ลุกขึ้นมารวมกลุ่มกันทำความดีนี้ มีอุปสรรคมากมาย และพวกเขาก็ฟันฝ่ามาได้ เราควรจะสร้างสื่อที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาสังคมบ้าง หลังจากที่เราสร้างสื่อแล้วทำลายเยาวชนมามากแล้ว...
แนวความคิดหนึ่ง ที่ทำตามๆกันมา คือการยกย่องคนดีแบบเดี่ยวๆ เช่นในโรงเรียนมีนักเรียน 1000 คน ยกย่อง คนดีเลิศ คุณธรรมต้นแบบ สองสามคน หรืออย่างมากชั้นละคน
ในมุมคนให้รางวัลคือ ต้องการให้นักเรียน ถือเอาเป็นแบบอย่าง ทำความดีตาม
แต่ในมุมของคนที่ได้รางวัลและมุมของเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆคือ เขาเป็นตัวประหลาด เราจึงพบปรากฏการณ์ที่คนอายที่จะทำความดีขึ้น
ความคิดที่ตามๆกันมาหลายๆสิบปีนี้ ก็เป็นกระแส ให้สื่อใหญ่ เช่นรายการ คนค้นคน เกิดขึ้น คนที่ชมรายการ ก็บอกว่าดีนะ แต่ไม่ทำตามหรอก ดีเกินไป
การยกย่องคนดีต้นแบบ เช่นนี้ เป็นสิ่งสำคัญ และต้องมีอยู่ แต่ควร ทำควบคู่กับการยกย่องคนที่ทำความดี เป็นทีม เป็นกลุ่ม เป็นหมู่คณะด้วย
คงถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ที่กำลังใช้สื่อทำลายชาติ หันมา ใช้สื่อสร้างชาติอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีบ้าง
เราคงต้องมีคำจำกัดความของเสรีสื่อกันใหม่
คือปล่อยให้สามารถสื่อสารความดีได้อย่างอิสระเสรีเต็มที่
แต่จะไม่ยอมให้สื่อไม่ดี ออกมาทำร้ายลูกหลาน ทำลายสังคม สร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติอย่างทุกวันนี้
ซึ่งต้องฝ่ากันอีกหลายด่านทศกัณฑ์ เพราะในยุคสังคมโมหะภูมินี้
การทำอะไรดีๆ หรือให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นในสังคม
จะทำได้ยากเย็นแสนเข็น.....แทบจะผลัก...กันไม่ไหว
และจำไม่สามารถทำได้สำเร็จเลย.... หากไม่มีกัลยาณมิตรทุกท่านมารวมพลังกัน
ขอเชิญร่วมชมนิทรรศการ โครงงานคุณธรรม
ในงาน"พลังเยาวชน พลังสังคม" ครั้งที่ 1
"ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้"
และร่วมเวทีเสวนา
วันเสาร์ที่ 10 ต.ค. : ถอดองค์ความรู้โครงงาน สร้างเป็นบทภาพยนต์โทรทัศน์
เวลา10.00-16.30น. ณ หอประชุมชั้น5 หอศิลป์ฯ กทมฯ
วันอาทิตย์ที่ 11ต.ค. : ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ
เวลา13.00-18.00น. ณ หอประชุมชั้น5 หอศิลป์ฯ กทมฯ
ท่านสามารถรับชม การทำความดีของเด็กๆ จากสารคดีสั้นดอกไม้บาน ได้ใน youtube นะครับ
ที่มาของแรงบันดาลใจในการถอดบทเรียนเรื่องราวของพวกเขาออกมาเป็นบทภาพยนต์โทรทัศน์ครั้งนี้
ขอขอบคุณอนุโมทนาต่อศูนย์คุณธรรม และ บ.จินตนาการ
มาชื่นชม สื่อสร้างสรรค์แนวใหม่ เป็นกำลังใจค่ะ
สื่อ มีอิทธิพลต่อวิถีประชา จะนำพาไปทางใด
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ ขอบพระคุณท่านที่ส่งข่าวดีๆไปให้..น่าดีใจที่มีสื่อดีๆ..แต่ว่าจากการสังเกตในพื้นที่ไม่ค่อยมีคนเปิดชม ..ส่วนใหญ่ดูช่องที่มีละคร..ขออนุญาตพูดตรง ๆ นะครับ สื่อกระแสหลักนี้เป็นเรื่องของทุนนิยม มีแต่โฆษณา...ทั้งทีเป็นของรัฐทั้งนั้น...ยิ่งการใช้เนต ในชนบทบ้านนอก...น่าเสียดาย มีที่ อบต.ให้ใช้ฟรี ตามโรงเรียนเห็นมีจานดาวเทียม แต่ไม่ทราบว่า เด็กๆ จะมีโอกาสเข้าถึงมากน้อยแค่ใด...คนบ้านนอกยังขาดโอกาส แต่ว่าทุกวันนี้ตามบ้านนอกจะมีเครื่องเล่นวีซีดี ดีวีดี กันเกือบทุกบ้าน ...ทำแจกทำขายราคาถูก ๆ รายการดีๆ คงเข้าถึงคนบ้านนอกได้บ้าง ขออนุญาต ลปรร. ครับผม
ด้านสื่อคงต้องช่วยกันขับเคลื่อนแบบคลื่นใต้น้ำต่อไปครับ
หากแนวคิด share bank ด้านสื่อลงตัวแล้ว คงจะเชิญชวนให้กัลยาณมิตรทุกท่านมาลงแขกลงขันช่วยกัน ทั้งแรงกายแรงใจต่อไปครับ
แวะมาชื่นชมสื่อที่สร้างสรรค์ค่ะ