ชวนมาดูเล็บกัน


เล็บขบที่เกิดจากการตัดหนังข้างเล็บที่ เรียกว่า จมูกเล็บ ทำให้หนังที่ขึ้นมาใหม่แข็งกว่าเดิมและจะมีปริมาณหนามากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ เหมือนพวกหนังหนาที่เท้ายิ่งตัดมากจะยิ่งเพิ่มความหนาแข็งมากขึ้น ซึ่งหนังที่แข็งและหนาขึ้นจะไปเบียดดันเล็บทำให้ช่องว่าระหว่างเล็บหายไป

หลายครั้งทีเดียวที่อยากจะบอกเล่าแบ่งปันเพื่อนๆให้ลองนำไปใช้บ้างเผื่อจะมี ประโยชน์ ใช่ว่าดิฉันจะมีฝีมือเก่งกาจอะไรหรอก แต่อาศัยวิธีครูพักลักจำร่วมกับมีท่านที่มาใช้บริการเป็นอาจารย์รับเชิญให้ ดิฉันได้เรียนรู้พัฒนาฝีมือและมีวันนี้มาบอกเพื่อนๆจะได้ไปได้ไกลกว่าโดยไม่ ต้องมาเสียเวลาเริ่มต้นใหม่เหมือนดิฉันค่ะ

ถ้าบอกว่าตัดเล็บที่ปกติโดยเฉพาะเล็บมือบอกได้เลยว่า " กล้วย ๆ " เพราะหน้าเล็บจะเรียบเสมอกันมีความโค้งเล็กน้อยไม่หนา ต่างจากเล็บเท้าซึ่งส่วนใหญ่จะหนาและแข็งมาก กรรไกรตัดเล็บบางอันแทบจะแตกสลายแยกร่างจากกัน ยิ่งถ้าเป็นเล็บเท้าของคนที่มีปัญหาหลอดเลือดด้วยแล้วละก็ต้องใช้วิทยายุทธขั้นสูงปราบเสียนเลย โดยเฉพาะเล็บหัวแม่เท้าทั้งสองซึ่งจะพบปัญหามากมาย เช่น

-เล็บหัก/บิ่น หรือล่อนซ้อนทับเล็บเก่าจากเล็บเคยถูก trauma

-มีเชื้อราสีขาวใต้เล็บเนื้อเล็บจะผุๆเหมือนไม้ผุๆ

-บางรายมีเชื้อแบคทีเรียซึมเข้าบนผิวเล็บที่เคยมีรอยร้าว ลักษณะคล้ายเชื้อราแต่จะสีเขียวเข้มถึงดำ

-มีเล็บขบ 2แบบ ที่พบได้บ่อย ซึ่งดูเป็นเรื่องยุ่งยากกับวิธีดูแล คือ

: เล็บขบแบบกดแทงเนื้อด้านข้างหรือกดแทงเนื้อด้านล่าง (แบบ 90 องศา )

: เล็บขบแบบม้วนห่อรัดเนื้อเอาไว้ แบบนี้ตัดยากจริงๆค่ะ

เวลาตัดเล็บปัญหาที่แก้ไม่ค่อยจะตกก็คือ เล็บขบ ซึ่งกรรไกรตัดเล็บธรรมดา ( Trim clip nipper)เข้าไม่ถึงทำให้เล็บขบกดเนื้อเป็นแผลติดเชื้ออักเสบ จนต้องมาทำการถอดเล็บบางส่วนออก อยู่บ่อยๆ แต่ก่อนที่เราจะแนะนำวิธีตัด พวกเราน่าจะรู้ว่าเล็บขบเกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุเล็บขบที่่ดิฉันพบมี 2แบบ คือ

1. เล็บขบตามธรรมชาติมีความโค้งมากกว่าปกติ เจ้าของเท้ามักบอกว่าเป็นเหมือนกันทั้ครอบครัว
และมักจะโค้งงอทุกนิ้ว

2. เล็บขบที่เกิดจากการตัดหนังข้างเล็บ ที่เรียกว่า " จมูกเล็บ " ทำให้หนังที่ขึ้นมาใหม่แข็งกว่าเดิมและจะมีปริมาณหนามากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ เหมือนพวกหนังหนาที่เท้ายิ่งตัดมากจะยิ่งเพิ่มความหนาแข็งมากขึ้น ซึ่งหนังที่แข็งและหนาขึ้นจะไปเบียดดันเล็บทำให้ช่องว่าระหว่างเล็บหายไป เกิดเป็นเล็บขบแบบแรก ยิ่งถ้าปล่อยไว้นานก็จะไปดันเล็บให้โค้งงอแล้วถ้ายิ่งตัดเล็บสั้นมากเกินก็ จะรุนแรงกลายเป็นแบบห่อม้วนที่มีอาการหนัก ส่วนใหญ่มักพบเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้าในกลุ่มที่ชอบทำเล็บในร้านเสริมสวยซึ่ง ชอบตัดหนังและเนื้อเล็บด้านข้างออก

ใครที่รู้ว่าเพิ่งเริ่มเป็นไม่มากแก้ไขอาการขบได้นะคะ โดยการพยายามเลี้ยงเล็บให้ยาวเลยผิวหนังที่ขบออกมา และเลิกพฤติกรรมการตัดเนื้อเล็บและหนังบริเวณซอกเล็บ อย่าตัดเล็บสั้นเกิน คราวนี้ดูเล็บของเรากันบ้างนะคะ

ยุวดี มหาชัยราชัน

หมายเลขบันทึก: 30391เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2006 15:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 16:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ปุ้ยเป็นคนที่เล็บเท้า ยาวช้ามากค่ะ  แต่ พอ   ยาวที่ไรก้อไม่ค่อยได้ ตัด  เพราะว่า  กลัว   เป้นเล็บขบค่ะ แต่ก้อไม่พ้นเป้นเล็บขบอยู่ดีค่ะ  ไปถอดเล็บทุกปีเลยค่ะ ตั้งแต่ ปี 47-49   นี่ ปี 50  กำลัง  จะไป  ผ่า เล้บ ออก  อีก  แล้วค่ะ ทำไงดีค่ะ  ไม่อยาก  ทำเลย เพราะว่า  เวลา จะไปรพ.  ทีไร มันรู้สึกเสียวแปบๆ  ที่ขั้วหัวใจ ทุกที เลย เพราะว่าไม่ชอบตอนที่หมอ  ฉีด ยาชา เลยอ่ะค่ะ ไม่อยากให้  เป็นอย่างนี้เลยค่ะ เป็นคน รักษา ความสะอาด มากๆๆเลยอะน่ะค่ะ แต่ทำไม ต้องเป็น อย่างนี้ อย่างร้านทำเล็บ ปุ้ยก้อ  เข้า  น่ะค่ะ ทำทุกอย่างรักษา ทุกอย่าง ระวัง  ทะอย่าง

แต่เหมือน ยิ่งระวัง ยิ่งเป็น   มากขึ้นหรือเปล่าค่ะใครสงสารช่วย  ให้กำละงใจ  ปุ้ยทีค่ะ

พี่ก็มีผู้รับบริการหลายรายที่ไม่ต้องถอดเล็บอีกเลยหลังจากที่แวะีมารับคำแนะนำถึงวิธีการดูแลและตัดเล็บเท้าที่คลินิคเท้าเทพธารินทร์
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท