ฉัตรชัย....แห่งเมืองเจ้าน้อย...(ทุกข์2)


"ไม่เป็นไร เอาไปให้ธีระวัฒน์เถอะ เขาทุกข์กว่าผมมาก สงสารเขา ผมยังมีคนมาเยี่ยมบ้าง แต่ก่อนนี้คนมาเยี่ยมผมมาก มีของมาก ผมก็เอาไปให้ธีระวัฒน์ ตอนนี้ไม่มี ผมไม่ได้ให้อะไรธีระวัฒน์อีก เอาไปให้ธีระวัฒน์เถอะครับ"

หลังจากผมขับรถออกมาจากโรงเรียนสังวาลย์วิทย์ 3 สัก 50 เมตร หักเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแคบ ๆหลังโรงเรียนที่ทั้งแคบและมีน้ำที่ไหลตามถนนลงไปที่แม่น้ำ ห่างจากปากทางประมาณ 200 เมตร มีบ้านที่จริงต้องบอกว่ากระท่อมหลังเล็ก ๆหลังหนึ่ง เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงประมาณเมตรกว่า ๆพื้นบ้านปูด้วยไม้ปีกและฟาก ผมและทีมงานก้าวขึ้นไปบนบ้าน พบชายหนุ่มร่างกายผอมเกร็งแขนขา แข้ง เท้าบิดเบี้ยว นอนอยู่บนฟูกเก่า ๆ น๊อต นักกายภาพบำบัดที่เคยมาเยี่ยมฉัตรชัยแล้วครั้งหนึ่งร้องทัก

"สวัสดีครับฉัตรชัย...มาเยี่ยม"

"สวัสดีครับ ขอบคุณครับ" เสียงตอบที่ไม่ชัดเจนเพราะทุกส่วนของร่างกายฉัตรชัยเกร็งและกระตุกไปหมด คำพูดที่ฉัตรชัยพูดกว่าจะผ่านออกมาได้ค่อนข้างยากเย็นนัก

พร้อมกันนั้นฉัตรชัยก็หันไปมองฝรั่งที่เดินขึ้นมาบนบ้านและหันหน้าไปมองน๊อตทำนองว่าพาใครมา

น๊อตจึงอธิบายว่า ลุงฝรั่งชื่อมิสเตอร์วีล เป็นคนใจดี วันนี้พามาเยี่ยมด้วย

"เขาะคูคะมิสะเตอร์วีว" ฉัตรชัยพยายามพูดและหันหน้าที่แสนยากเย็นมองมาทางผมและมิสเตอร์วีล

"What happen???" มิสเตอร์วีลถามผม

ผมจึงเล่าสั้น ๆว่า "ฉัตรชัยขณะนี้อายุ 28 ปี เมื่อเขาอายุประมาณ 5-6 ปี วันหนึ่งเป็นไข้ไม่ทราบสาเหตุ ก็เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน พ่อก็หอบหิ้วมาที่โรงพยาบาล หมอตรวจเสร็จส่งไปเชียงใหม่ วินิจฉัยว่าเป็น Encephalitis หลังจากนั้นฉัตรชัยก็อยู่ในสภาพนี้มากว่ายี่สิบปี ภายใต้การดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากพ่อแม่และเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยบ้านเมืองน้อยที่แวะเวียนมาเยี่ยม"

ที่ผ่านมาฉัตรชัยมักถูกทิ้งอยู่บ้านคนเดียวเพราะพ่อและแม่ต้องไปทำไร่ ยังดีที่มีคนใจบุญเอาเทป เอาทีวี มาบริจาคและอาศัยที่อยู่ใกล้โรงเรียนจึงมักมีนักเรียนมาอยู่เป็นเพื่อน มาอ่านหนังสือ นิทานให้ฉัตรชัยฟัง ซึ่งทั้งเทบทั้งหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องธรรมะ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

เสร็จจากการเล่าให้มิสเตอร์วีลฟัง ผมจึงหันไปพูดกับฉัตรชัย

"ช่วงนี้เป็นไงบ้าง สบายดีไหม"

"สบายดีครับ"

"ฉัตรชัย เทปฉัตรชัยดีหรือยัง ทีวีใช้ได้ไหม"

"ของผมดีอยู่ครับ อยากให้ไปเยี่ยมธีระวัฒน์บ้าง"

"หลังจากเยี่ยมฉัตรชัยแล้วจะไปเยี่ยมฉัตรชัย"

ลุงวีลคงนั่งฟังอยู่นานจึงถามว่า

"ไม่มีวิดีโอ หรือรูปภาพให้ฉัตรชัยดูบ้างหรือ"

"ฉัตรชัยอยากได้เครื่องฉายวิดีโอไหม"

"ไม่เป็นไร เอาไปให้ธีระวัฒน์เถอะ เขาทุกข์กว่าผมมาก  สงสารเขา ผมยังมีคนมาเยี่ยมบ้าง  แต่ก่อนนี้คนมาเยี่ยมผมมาก มีของมาก ผมก็เอาไปให้ธีระวัฒน์ ตอนนี้ไม่มี ผมไม่ได้ให้อะไรธีระวัฒน์อีก เอาไปให้ธีระวัฒน์เถอะครับ"

ผมอึ้งกับคำพูดของเขา ทั้ง ๆที่เขาพิการช่วยเหลือเองได้แค่การพลิกตัวไปมาอย่างยากลำบาก กำมือยังกำไม่ได้เลย ยังมีใจคิดไปถึงคนอื่น คิดว่าเขาทุกข์กว่า "ธีระวัฒน์"

ก่อนลงจากบ้านผมฝากเงินค่าขนมไว้ให้ฉัตรชัย เขายังบอกว่า

"ไม่ต้องให้ผมก็ได้  ผมมีข้าวกินอยู่ ผมไม่ได้ใช้อะไร..เอาไปให้ธีระวัฒน์ดีกว่า"

"ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปเยี่ยมธีระวัฒน์ก็จะให้เหมือนกัน"

ผมเดินลงจากบ้านของฉัตรชัยที่ผมว่าน่าจะเรียกว่ากระท่อมมากกว่า ด้วยการที่ตั้งอยู่รีมแม่น้ำ หากนำท่วม น้ำเอ่อขึ้นมาจะทำอย่างไร....

 

หมายเลขบันทึก: 303969เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2009 19:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไม่ได้มาทักทายตั้งนานมากๆค่ะ

เพราะงานยุ่งๆมากๆ ไม่ค่อยได้มาที่นี่บ่อยเช่นเคย

แวะมาทักทายค่ะ

มีความสุขในการทำงาน ในการพัฒนามาตุภูมินะคะ

ด้วยความเคารพเสมอค่ะ ^-^

สวัสดีครับคุณสายธาร

เมืองเจ้าน้อย ยังรอผู้คนมาเยือน

มีอะไรหลายอย่างที่นี่ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท