อัปรีย์ไม่พอ


มุมมองคำถาม และ บทวิพากษ์ ต่อพฤติกรรมของนักการเมือง ซึ่งประกาศอย่างภาคภูมิใจในจังหวัดขอนแก่น ถึงพฤติกรรมของตนเอง ที่นำเรื่องราวความขัดแย้งในประเทศไทย ไปมอบให้กับผู้นำเพื่อนบ้าน ที่เป็นคู่กรณีในความขัดแย้งดังกล่าว จนนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเหมาะสมในความเป็นคนไทย ผมจึงมีคำถามจากมุมมองชีวิต ถึงสิ่งอันควร สิ่งไม่ควร สิ่งอันพึงกระทำ และไม่พึงกระทำ เพียงเพื่อตอกย้ำความจริงในจิตเบื้องลึก และ ในฐานะที่เป็นคนไทย บนผืนแผ่นดินแห่งนี้

 

อัปรีย์ไม่พอ

 

 

อ้างอิง - ภาพ Kati1789

 

 

ผมจำได้ว่า

เคยได้ยินประโยค

ที่แสดงถึงตัวตนของคนบางคน

 

ในยามที่เรากำลังพูดถึงประเทศชาติ หลังปี 2535 ครั้งหนึ่งจำได้ว่า มีอาจารย์ท่านหนึ่ง พูดถึงเหตุการณ์ระหว่างสัมมนา ถึงประชาชนคนไทยร่วมชาติ ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย รบกับ รัฐบาลไทย ช่วงหลังปี 2519 ถึง ปี 2523 โดยพูดถึงแนวคิดระดับนำหลายคน

 

กระทั่งคำพูดยืนยันของระดับนำบางคน

ที่ประกาศกลางที่ประชุมพรรคฯ

ไม่ยอมให้ต่างชาติเข้ามา

 

ไม่ยอมที่จะให้ทหารจากชาติใด ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรร่วมอุดมการณ์ หรือสีใด เผ่าพันธุ์ใด กรีฑาทัพเข้ามาในแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือ เป็นการสนับสนุน หรือเป็นแนวทางที่อาจสร้างความได้เปรียบให้กับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่จะมีชัย

 

กระทั่ง

นั่งดูนั่งชมภาพยนตร์

14 ตุลา สงครามประชาชน

 

ที่มีเรื่องราวในชีวิตของ อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล โดยสิ่งที่ประทับใจ ไม่ใช่ความโรแมนติก ของเรื่องราวชายหนุ่มนักรบ อดีตผู้นำนักศึกษา อดีตทหารป่าที่กลับกลายมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นนักวิชาการ เป็นช่างภาพ หรือเป็นนักเขียน ที่ผมเคยอ่านมา

 

ผมสนใจในคำพูดที่ซ้ำซ้อนและยืนยันได้

ถึงความเป็นคนไทยของเขา

เมื่อกล่าวปฏิเสธ

 

ที่จะไม่ให้ใครหน้าไหนเข้ามาในแผ่นดินไทย เพราะเขาถือว่า นี้คือแผ่นดินของคนไทย นี้คือสงครามของคนไทย ที่คนไทยจะแก้ปัญหากันเอง โดยเป็นคำพูดที่อธิบายถึง สามัญสำนึกในความเป็นคน ที่พร้อมจะดำรงอยู่ในชาติเดียวกัน ร่วมแผ่นดินเดียวกันกับคนไทยอีกมากมาย

 

เป็นคำพูดที่ยืนยันได้

แม้ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างผู้พูด

เช่นเดียวกับคนไทยในพรรคคอมมิวนิตส์อีกหลายคน

 

ที่ยืนยันถึงหลักการที่ถูกต้องดีงาม หากจะต้องต่อสู้ เพื่อสร้างประเทศไทยที่สมบูรณ์ ตามแนวทาง ความคิด และความเชื่อทางการเมือง เช่นเดียวกับนักคิดนักเขียนคนไทยมากมาย ที่พร้อมจะสละชีวิต เพื่อสร้างชาติไทยของเราขึ้นมา โดยไม่ยอมเป็นขี้ข้าต่างชาติ

 

ไม่ใช่เพราะคำเหล่านี้

แสดงความยิ่งใหญ่

หรือดูใหญ่โต

 

แต่คำกล่าวเล็กเล็กเหล่านี้ สะท้อนความจริงในจิตเบื้องลึกของผู้พูด และสะท้อนให้เราเห็นได้ชัดเจน เมื่อคนๆนั้น ไม่ยอมพูดประโยคนั้นให้ใครฟัง แต่มีคนที่ประทับใจ อยู่ร่วมเหตุการณ์ หรือรับรู้เรื่องราว ออกมาประกาศความจริงในความเป็นคน ให้คนไทยคนอื่นได้ร่วมตระหนัก

 

 

 

 

เช่นเดียวกับ

ความจริงในความเป็นคนไทย

ซึ่ง พลเอกบัญชร ชวาลศิลป์ เคยถ่ายทอด

 

ในผลงานเขียน กระดูกเข้าบัว ที่สะท้อนความจริงในเบื้องลึกของทหารป่า และ ทหารแห่งกองทัพไทย ซึ่งต่างก็รักชาติบ้านเมือง รักแผ่นดินเกิด และพร้อมจะต่อสู้เพื่อให้แผ่นดินเกิดนี้ เจริญรุ่งเรือง และวัฒนาถาวรต่อไป แม้จะขัดแย้ง แม้จะต้องต่อสู้กัน แต่ก็มีเส้นบางบางแห่งความรักชาติ ให้เราสามารถนั่งลงพูดคุยเจรจาความ และร่วมกันถกเถียง

 

ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนชาติใดเผ่าใด

แต่เป็นผลประโยชน์ของคนไทย

ที่จะต้องแก้ปัญหานั้นร่วมกัน

 

ไม่ใช่ให้ใครมาแก้ไข มานั่งแก้ปัญหา หรือมาเป็นนายเหนือหัว คอยแก้ปัญหาเหล่านั้นให้กับคนไทยร่วมชาติร่วมแผ่นดิน เช่นเดียวกับคำถาม ในยามที่คนไทยขัดแย้งกันทางความคิด ใครคนใด หรือไทยฝักฝ่ายใด จะมีแนวทางเพื่อแก้ปัญหาหรือช่วงชิงการนำ

 

ล้วนต้องอยู่

ในกฎเกณฑ์และครรลอง

หรือวิถีทางที่ถูกต้องชอบธรรมต่อแผ่นดิน

 

โดยไม่ใช่วิธีการที่จะทำให้ชาวต่างชาติ หรือ คนต่างบ้านต่างเมือง ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งเหล่านั้นของคนไทยร่วมชาติ ไม่ใช่กระทำทุกวิถีทางที่จะให้ฝักฝ่ายตนเองได้เปรียบ ได้ชัยชนะ บนความย่อยยับของชาติ หรือบนความพ่ายแพ้ของเพื่อนร่วมชาติ

 

ไม่ใช่อย่างยิ่ง สำหรับสิ่งที่ต้องอยู่ภายใน

ในความรักชาติ รักแผ่นดินไทย

ที่คนไทยต้องรู้

 

ผมอาจไม่คิดมากอะไร หากไม่ได้มีโอกาส เห็นและรับรู้ ถึงพฤติกรรมเลวร้ายของคนไทยบางคน หรือสันดานของนักการเมืองบางประเภท ที่พร้อมจะยอมตัวยอมตน ทำเสมือนหนึ่งเป็นไส้ศึกให้กับชาวต่างชาติ ขายชาติบนแผ่นดินไทย และทำความย่อยยับให้เกิดขึ้น

 

ผมอาจไม่รู้สึก

หากไม่เห็นพฤติกรรมเลวร้าย

ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ

 

โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ ของประชาชนคนไทยร่วมชาติ ที่ยังอยากเห็นแผ่นดินนี้ร่มเย็น เห็นการแก้ปัญหา เพื่อนำไปสู่ทางออกร่วมกันของผู้คนบนแผ่นดิน ไม่ใช่รอคอยเพียงวันฉิบหาย เพื่อหนีหายไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ หรือ ต้องย่อยยับ กระทั่งต้องอาศัยข้าวคนอื่นกิน วันนี้ผมเพียงแต่มีน้ำโห และ อดรนทนไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงใครบางคนพูดคำโกหก

 

จนอดนึกถึงคำของสมาชิก พคท.บางคน ไม่ได้

ที่พูดถึงแนวคิดและแนวทางต่อสู้

ว่าตัวผม อัปรีย์ไม่พอ หรอก

ที่จะให้คนชาติไหนมาเป็นนายเหนือหัว

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 303979เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2009 20:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

... ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน  ...   

... ใครๆ ต่างส่ายหัว เหมือนจะรู้อะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังสงสัยว่า บ้านเราเป็นอะไรไป ทำไมคนนี้ยังมาเป็นตัวแทนอยู่ได้ เฮ้อ อย่าไปบอกใครหนาว่านายเป็นคนไทย อายจัง ...

... ยังมีหวัง ยังรอได้ไหม ที่จะเห็นเมืองไทยไร้คนพรรค์นี้ ...

สวัสดีครับ คุณ Poo

ขอบคุณมากครับ

สำหรับคำทักทาย และ การเยี่ยมเยือน เสมอมา

ขออภัยอย่างมากครับ ไม่ค่อยได้แวะเวียนไปทักทาย หรือถามตอบเรื่องราวทั่วไป

รู้สึกเกรงใจอย่างมาก แต่อดชื่นใจไม่ได้ครับ แวะเวียนมาเขียนทีไร

ก็มีคำทักทายฝากมาเสมอ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง

สำหรับความหวัง และ การรอคอย

เมื่อสักวันหนึ่ง คนเหล่านี้ คนพรรค์นี้

จะสูญสลายหายจากเมืองไทย

คาดหวังเช่นกัน ครับ

ดีใจครับ

วันนี้ ว่าจะสะพายกล้องไปเก็บภาพแถวๆธรรมศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ไป

แต่ดีใจครับที่ได้มาอ่านบันทึกพี่ Kati  อีกครั้ง

สบายดีนะครับ??

สวัสดีครับ คุณเอก

รู้สึกยินดี และ ดีใจ เช่นกันครับ

ที่แม้ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาเขียนเรื่องราวบ่อยครั้ง

แต่ก็มีมิตรภาพ ที่แวะมาเยี่ยมยามอยู่เสมอ

อบอุ่นใจครับ

วันหน้าวันหลัง มีโอกาสดีดี

นัดนั่งสนทนาพาทีสักทีก็คงดี ครับ

ขอเป็นละแวกธรรมศาสตร์ แถวถนนพระอาทิตย์ก็ได้ครับ

อยากพูดคุยทักทายอย่างมากครับ

ช่วงนี้ แม้จะเหนื่อยกับงาน แต่ก็สนุกดีครับ ปรับตัวตามสภาพ

คุณเอก สบายดี นะครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับมิตรภาพที่มอบให้อยู่เสมอ

ยินดีครับพี่ Kati

อย่างน้อยมีโอกาส จิบชา กาแฟ คุยกัน

ผมก็ เดินไปเดินมาเเถวนั่นบ่อยครับ

ตอนนี้มาเป็นนักเรียน(อีกเเล้ว) ที่ ศาลายา ครับ

 

ผมสบายดี งานเรียน งานนอก

งานสารพัดที่สนใจเข้าไปทำ

เลยดูวุ่นๆครับ

แต่สบายใจดีเเน่นอน

วันดีคืนดี ก็เเบกเป้ กลับบ้านที่ต่างจังหวัด

เป็นชาร์ตกำลังใจที่บ้าน

แล้วกลับมามาสู้ต่อในเมืองกรุง

 

ว่าเเต่เมืองกรุง...ก็มีเรื่องราวดีๆเยอะมากครับ

ผมเองก็เรียนรู้ เติบโต

ดีใจครับ ที่ผมมีโอกาส

 

ขอบคุณครับพี่ครับ

 

  • ไส้ศึกให้กับชาวต่างชาติ ขายชาติบนแผ่นดินไทย
  • คงมาอาศัยแผ่นดินเกิด
  • ว่ากันว่า..พวกนี้กะโหลกหนาผิดปกติ
  • จิตสำนึกเลยต่ำทราม..  อิอิ

ณ วันนี้ไม่อยากอ่านหนังสือพิมพ์ เพราะมีแต่ข่าวข้าราชการทุกระดับคอรัปชั่นทุกกระทรวง

ไม่อยากฟังวิทยุ เพราะมีแต่การมอมเมาขายยาสารพัดชนิดให้คนรากหญ้า

ไม่อยากดูทีวีที่ฝ่ายรัฐมัวแต่โอ้อวดโต้ตอบปกป้องตัวเอง

-----------------------------

มีใครสนไหมว่าน้ำเหนือกำลังมา

น้ำเริ่มท่วมทุ่งนาภาคกลางเป็นวงกว้าง

ราคาข้าวปีนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะประกัน หรือไม่ประกัน

--------------------------

มีใครสนไหมว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยอยู่กันอย่างไร

ในภาวะที่ราคา น้ำมันกำลังขึ้นและขึ้น

--------------------------

ฤา เรากำลังถึงกาลล่มสลาย

ไม่ใช่ด้วยน้ำมือคนอื่น

แต่เป็นพวกเรากันเอง

ใครกันหนอที่สร้างความแตกแยกไปทั่วหัวระแหง

ศึกในยังไม่หนักหนาสาหัสอีกหรือ จึงชักศึกเข้าบ้านแบบนี้

------------------------

ไม่อยากให้คนไทยมองเหตุการณ์นี้อย่างนิ่งเฉย

อยากให้ช่วยกันคนละไม้ละมือ

ไทยจะเข้มแข็งได้เพราะคนไทยร่วมมือร่วมใจ

หาใช่แค่การไปร้องเพลงชาติออกทีวีตอนหกโมงเย็นไม่

--------------------------------------

สวัสดีค่ะ...คุณ kati

เห็นด้วยกับคุณว่าอัปรีย์ไม่พอจริงๆ และเห็นด้วยรวมทั้งเป็นกองสนับสนุนคอมเม้นท์คุณ naree suwan อีกคนค่ะ

ชอบคอมเม็นต์ของคุณสามสักมากค่ะ..

ขอบคุณเจ้าของบทความที่พยายามปลุกจิตสำนึก

ให้คนไทยที่อย่างน้อยที่สุดก็สมาชิก g2k ให้เห็น

ความเลวของคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่า

ความรักชาติรักแผ่นดินเกิด...แผ่นดินที่มันมากอบโกยผลประโยชน์

และไปนั่งเห่านอกบ้านเอาเศษเงินสกปรกนั้นมาใช้จ่ายเพื่อทำลาย

ประเทศชาติ...

สนับสนุนทุกความคิดเห็นที่ได้แสดงถึงวุฒิภาวะของทุกท่านที่ไม่

เห็นด้วยและรังเกลียจคนขายชาติเหล่านี้..

ใครที่สนับสนุนคนกลุ่มนี้..อยากกราบขอร้องว่าอย่า

เห็นแก่เศษเงินของพวกมัน...จงขัดขวางทุกวิถืทางอย่าให้

พวกเศษมนุษย์กลุ่มนี้มามีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง

ไม่อย่างนั้นเราอาจไม่มีแผ่นดินอยู่กันถ้ามันเป็นใหญ่

และตัดผืนแผ่นดินขวานทองของเราเฉือนเพื่อสนองความโลภของมัน...

รักเธอประเทศไทย...รักและเทิดทูนในหลวงค่ะ

เป็นถ้อยคำ...ที่กระชากความรู้สึก

กระชาก...อารมณ์

กระชาก...ใจ

...

ถ้อยคำ..ที่เขียนขึ้น สื่อถึงความรู้สึกของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี

เพราะฉะนั้น...ความรุนแรงของคำ

...

จึงเป็นบริบทของความจริง ที่พูดแล้วไม่ตาย

ขอบพระคุณ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท