หลายอาทิตย์แล้วที่ผมกับคนพิเศษโทรติดต่อกันทุกวัน ผมต้องโทรหาทุกวันหลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ และบางครั้งเวลานั่งทำงานหรือรู้สึกเหงาๆ หรือเบื่อๆ ก็ต้องหลบไปโทรศัพท์หา และบอกเล่าความรู้สึกในช่วงเวลานั้นๆ ว่ารู้สึกอย่างไร บางทีอ่านข่าวการเมืองทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยหรือไม่มั่นคงขึ้นมาเฉยๆ ก็ต้องหลบไปโทรหา แม้กระทั่งเมโลดี้เฉพาะตัวของเพลงแจ๊ซเก่าๆ ที่ผมเปิดทุกวัน บางขณะก็แทรกซึมไปสู่ขั้วหัวใจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว เดียวดาย(ทั้งๆ ที่นั่งอยู่ในออฟฟิศแท้ๆ) ผมก็ต้องไปโทรหาอีก....เฮ้อ...
จนผมมาคิดได้ว่า... เอ๋ เรานี่เห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าที่ต้องให้คนพิเศษของเรามาแบกรับอารมณ์ที่อ่อนไหวของเราอย่างนี้ เลยถามตัวเองว่าเราทำถูกหรือเปล่า ที่ไปเผยความอ่อนไหวขนาดนั้นให้คนๆ หนึ่งที่เราต่างหากควรจะแบกรับความอ่อนไหวจากฝ่ายตรงข้าม... และในวันนี้ในชั่วขณะหนึ่งผมรับรู้ถึงสัญญาณบางอย่างจากความเมินเฉยจากฝ่ายตรงข้าม(หรือบางทีผมอาจคิดไปเองก็ได้) ทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมานิดๆ แต่สุดท้ายแล้วก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า ไม่มีประสบการณ์ล้ำค่าใดๆ จะดีไปกว่าการที่เราประสบเหตุการณ์นั้นๆ ด้วยตัวเราเอง... บางทีความรักครั้งนี้อาจทำให้ผมมีน้ำตา มีการพลัดพราก มีการกระทบกระทั่ง และมีความเบื่อหน่ายเกิดขึ้นได้ ในอนาคต... แต่อย่างน้อย สิ่งเหล่านั้นก็คือ ประสบการณ์และบทเรียนชีิวิตที่มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ควรได้เรียนรู้ และเข้าใจมันบ้างไม่ใช่หรือ...
ไม่มีความเห็น