สมเด็จพระสังฆราชของไทยกับพระเกียรติยศจากรัฐบาลพม่า


พระสังฆราชของไทยกับสังฆมณฑลพม่า

สวัสดีครับ.

       ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด้จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ครบ ๘ รอบ ๙๖ พรรษาในวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒ นี้ ถือเป็นมงคลบูชาอันดีที่ผมจะได้กล่าวถึงพระเกียรติคุณ ในเรื่องความสัมพันธ์ด้านการพระศาสนาระหว่างพระประมุขแห่งสังฆมณฑลไทย กับรัฐบาลพม่าที่ได้ทูลเกล้าฯถวายสมณศักดิ์ชั้นสูงสุดแห่งสังฆมณฑลพม่าไว้ในชั้น “อภิธะชะมหาระฐะคุรุ” ซึ่งแปลว่า “พระครูผู้ได้รับความเคารพยกย่องอย่างประเสริฐของประเทศ ซึ่งทรงคุณอันไพศาลโดดเด่น ประดุจธงที่ประดับไว้ในที่อันสูงส่ง(ภัททันตะติโลกสาระ,๑๙๙๑:๓๐) ซึ่งแน่นอนว่าตำแหน่งสูงสุดแห่งคณะส่งนี้ย่อมมิใช่ให้เพื่อเป็นเกียรติแต่เพียงส่วนเดียวแต่ยังต้องประกอบด้วยเกณฑ์พิจารณา ๔ ข้อที่ครบถ้วนได้แก่

                ๑. เป็นผู้ได้รับแล้วซึ่งตราตั้งตำแหน่งอัคคมหาบัณฑิต

                ๒. เป็นผู้มีสิกขาพรรษาอย่างน้อย ๓๐ ปี อายุ ๖๐

                ๓.การเป็นพหูสูตทางการศึกษา เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก

                ๔.เป็นผู้เคยเขียนวรรณกรรมตำราทางพระพุทธศาสนาอันเป็นคุณูปการ แก่หมู่สงฆ์สามเณร(อฉิ่งปัญญาสามี,๑๙๙๑:๕๗)

          ซึ่งคณะสงฆ์พม่าและรัฐบาลได้พิจารณาถวายแก่พระประมุขแห่งสังฆมณฑลไทยถึง ๒ พระองค์ 

            องค์แรกได้แก่ "สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์" (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๓ ของกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงได้รับการทูลเกล้าฯถวายในปี พ.ศ.๒๔๙๙ เมื่อครั้งงานฉลองสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่๖และฉลองกึ่งพุทธกาล ซึ่งในครั้งนั้นมีพระมหาเถระชาวต่างประเทศอีก ๓ รูปได้เข้ารับการถวายตราตั้งตำแหน่งนี้จากรัฐบาลพม่าด้วยพร้อมกัน คือ ๑.ท่านอสรณ สรณสีริสรณังคร แห่งประเทศศรีลังกา ๒.ท่านธัมมญาณ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณภูมิ หลวงพระบาง ประเทศลาว และ ๓.ท่านมหาสุเมธาธิบดี วัดอุณาโลมาราม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันพระมหาเถระชาวต่างประเทศที่ได้เอ่ยพระนามและนามมาทั้งหมดนั้นต่างก็สิ้นพระชนม์และถึงแก่มรณภาพแล้วทั้งสิ้น

 

 Image

สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์

 

         หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า ๓๕ ปีรัฐบาลพม่าก็มิได้จัดถวายตำแหน่งนี้ให้แก่พระมหาเถระชาวต่างประเทศรูปใดอีกเลย จนในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ทางสังฆมณฑลพม่าและรัฐบาลจึงได้ถวายตำแหน่ง "อภิธะชะมหารฐคุรุ"นี้ให้แก่ " สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก" (เจริญ สุวัฒโน) พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลไทยองค์ปัจจุบันขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก็ด้วยพระคุณอันประเสริฐ์และศีลาจารวัตรอันงดงามของพระองค์

          นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า ๑๘ ปีที่พระองค์ยังทรงเป็นพระสงฆ์ผู้ทรงศีลาจารวัตรงดงามเป็นแบบอย่างให้แก่พุทธศาสนิกชนของไทยและพม่า เป็น "มหาคุรุแห่งแผ่นดิน" และเป็นเวลากว่า ๕๐ ปีที่พระสังฆราชาทั้ง ๒ พระองค์ทรงเป็นประดุจ "ธงชัยแห่งพระพุทธศาสนา" นำประชาชาติทั้งไทยและพม่าให้ถึงสังฆสามัคคีย์ ตลอดกาลนานเทอญ

Image

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

ฑีฆายุโกโหตุมหาสังฆราชา

ขอธรรมมงคลจงมีแด่ทุกท่านครับ 

สิทธิพร เนตรนิยม

เอกสารอ้างอิง : ๑.ปัญญาสามิ,วารสารเมี๊ยตมิงกลา ฉบับที่ ๖ เลขที่ ๑๐ ประจำเดือน เมษายน ปี ค.ศ. ๑๙๙๑

                     ๒.www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7725

                     

หมายเลขบันทึก: 306951เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2009 17:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
สุรเทพ ธนะทรัพย์ชูศักดิ์

ฑีฆายุโก โหตุ สังฆราชา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท