คนดีที่แม่ฮ่องสอน


"เราพบสร้อยที่ลืมไว้แล้วนะคะ ตอนนี้ทางโรงแรมเก็บไว้ให้แล้ว มาติดต่อขอรับได้ค่ะ"

         จากที่ได้พาครู กศน.เขตห้วยขวางไปแอ่วเหนือกันมา 4 วัน ก็มีเหตุการณ์ที่น่าจดจำและอยากเล่าสู่กันฟังว่า ในสังคมวันนี้ยังมีคนดี ๆ อีกมากมาย

         ที่เล่าว่าวันที่สองของการเดินทาง เราไปพักกันที่แม่ฮ่องสอน โดยมีเพื่อนครู กศน.ด้วยกัน จองที่พักไว้ให้ที่  โรงแรมพานอรามา เป็นโรงแรมไม่ใหญ่มากอยู่ในตัวเมือง เราได้ที่พักกันที่ชั้น 5 ทั้งหมด โรงแรมนี้ไม่มีลิฟท์  ทุกคนต้องพากันเดินขึ้นและลงชั้น 5  แต่ก็จะมีลิฟท์สำหรับขนกระเป๋าขึ้นให้เรา ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง

        เมื่อทานข้าวค่ำและเดินถนนคนเดิน เลือกซื้อของที่ระลึกกันตามสบาย เราก็นัดกันว่าพรุ่งนี้ หกโมงเช้า เราจะไปใส่บาตรและเดินชมตลาดสายหยุด (ตลาดเช้านั่นเอง) ทานอาหารกันตามอัธยาศัย และล้อจะหมุนเวลา เจ็ดโมงเช้า  ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามนัด  หลังจากนั้นเราก็ไปดูกระเหรี่ยงคอยาว  และไปชิมชาร้อน ๆ กับขาหมูยูนานที่แสนอร่อยกับหมั่นโถรสชาดดี ที่หมู่บ้านรักษ์ไทย พร้อมกับถ่ายภาพที่ระลึกกันมากมาย ทริปนี้ได้รับการดูแลและนำเที่ยวโดย น้องแบงค์  ครู กศน.อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งต้องขอขอบคุณอย่างมาก ๆ ไว้ ณ ที่นี้

         เมื่อได้เวลานัดหมายทุกคนก็ขึ้นรถและออกเดินทางมุ่งสูอำเภอปาย  ซึ่งเป็นจุดหมายที่ทุกคนอยากมา เพราะได้อ่านในเน็ตและฟังหลาย ๆ คนเล่า ก็อยากไปเห็นบรรยากาศบ้าง  ระหว่างทางที่เรานั่งอยู่บนรถ และรถก็ขึ้นพาเราผ่านโค้งแล้วโค้งเล่า จนมาถึงจุดชมวิวที่อำเภอปางมะผ้า คนรถซึ่งขับรถเก่งมาก ก็จอดให้พวกเราได้เข้าห้องน้ำและถ่ายรูปสวย ๆ กันไปเป็นที่ระลึก

        หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อมาที่อำเภอปาย กว่าพวกเราจะถึงปายก็เกือบห้าโมงเย็น  บรรยากาศกำลังสบาย รถวิ่งผ่านลาดที่มีคนจับจ่ายซื้อของแบบชาวบ้าน ๆ แต่สิ่งที่เห็นก็คือ วันนี้ ปายเปลี่ยนไปมาก มีตึกท้งชั้นเดียวและหลายชั้นเต็มไปแบบ บรรยากาศในตัวเมืองเหมือนกับอำเภออื่น ๆ ทั่วไป ไปเสียแล้ว หากจะหาความเป็นปายคงต้องออกไปในชุมชนชนบทหรือตามหุบเขาและยอดดอยถึงจะได้พบ  แต่ทุกคนก็ปลื้มที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสมาแม่ฮ่องสอน และอำเภอปาย  จุดสุดท้ายของอำเภอปายทีเราแวะชมวิวและถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกก็คือ  ร้านกาแฟ Coffee  Love  ที่ตั้งอยู่ริมถนน และน่าจะเป็นจุดที่สวยที่สุดเพราะมองไปไกล ๆ จะเห็นบ้านของชาวบ้านทีแทรกตัวอยุ่ในขุนเขาและยอดดอย ทีมีสายหมอกปกคลุมเป็นฉากสวย ๆ ให้พวกเราได้ประทับใจ  และนอกจากนั้นทางร้านกาแฟ  ยังได้ตกแต่งบรรยากาศหน้าร้านและรอบ ๆ ร้าน ด้วยต้นไม้และก้อนหินสวย ๆ ให้พวกเราได้กดชัทเตอร์กันสนุกสนานไปทีเดียว

            อยู่ทีนั่นเสียหลายนาที ก็ต้องรีบเรียกสมาชิกขึ้นรถเพราะหนทางยังยาวไกลนักกว่าจะถึงเชียงใหม่  เมื่อทุกคนพร้อมรถก็เคลื่อนตัว ไปพร้อม ๆ กับเสียงจ้อกแจ้กจอจอ ของสมาชิกทียังเป็นปลื้มกับบรรยากาศ  แต่พลันก็มีเสียงที่ทำให้บรรยากาศดี ๆ เกือบสลายไปในพริบตา  "ผอ.งานเข้า งานเข้าแล้ว"  เราก็ถามว่ามีอะไร ก็มีเสียงตะโกนบอกว่า "อาจารย์อนันต์ ลืมสร้อยไว้ที่โรงแรม"  เมื่อหันไปดูก็พบหน้าที่ไม่สู้ดีนักของอาจารย์อนันต์

            เราก็รีบคิดเลยว่าจะทำอย่างไรดี คนขับก็จอดรถ พร้อมที่จะเลี้ยวรถกลับและคิดว่า ผอ.คงต้องบอกให้กลับไปแม่ฮ่องสอนอย่างแน่นอน   เราก็บอกไปว่าไม่ต้องจอด ไปเลยเดินทางต่อ  ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์ติดต่อหาเพื่อน ครู กศน.แม่ฮ่องสอน เพื่อจะให้เขาติดต่อทางโรงแรมให้  แต่เพื่อนเค้ากลับมากรุงเทพฯและไม่มีเบอร์ของโรงแรม เอาละซิจะทำอย่างไรดี เพราะเราก็เลินเล่อไม่ได้เอานามบัตรหรือขอเบอร์ทางโรงแรมมา  ก็มีวิธีเดียวคือ กดถาม 1133  เมื่อได้เบอร์ของทางโรงแรม  ก็โทร.ติดต่อกลับไป  ระหว่างนั้นเราอยู่บนเขาและสัญญานโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยมี โทรศัพท์จึงหลุดบ่อยครั้ง  แต่ในที่สุดก็ติดต่อกับทางโรงแรมจนได้  จึงได้แจ้งรายละเอียดการเข้าพักพร้อมเบอร์ห้องที่อาจารย์อนันต์พักคู่กับ อ.ทองพูล คือ ห้อง 511 เหตุที่ลืมสร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท พร้อมกับพระเลี่ยมทองอีก 2 องค์ เป็นพระกริ่งมูลก็หลายอยู่  รวม ๆ กันแล้วก็อยู่ที่ประมาณ หนึ่งแสนบาท 

            เมื่อพนักงานรับโทรศัพท์เค้าก็บอกว่า ไม่เห็นมีพนักงานทำความสะอาดแจ้งพบของนะคะ  ขอเวลาตรวจสอบสักครู่  เราก็เลยบอกว่า เราเช็คเอาท์มาเวลาเจ็ดโมงเช้า และยังไม่มีคนเข้าพัก มีเพียงพนักงานเข้าไปทำความสะอาดเท่านั้น จึงขอให้ตรวจสอบพนักงานดังกล่าวด้วย

              ก็รอประมาณสัก 10 นาที ทุกคนก็ล้นระทึกว่าคำตอบจะเป็นดี หรือร้าย หลายคนบอกให้บนหลวงพ่อโสธร  ตัวเองก็นึกขึ้นได้พอดี ก็เหมือนบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือพร้อมกับยกมือไหว้  แล้วก็กดโทรศัพท์กลับไปที่โรงแรมอีกครั้ง  คราวนี้พนักงานรับโทรศัพท์เป็นคนละคนกัน  แต่เสียงที่ได้ยินตอบกลับก็คือ "เราพบสร้อยที่ลืมไว้แล้วนะคะ ตอนนี้ทางโรงแรมเก็บไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มาติดต่อขอได้รับค่ะ"  จึงได้พูดประโยคดังกล่าวให้ทุกคนได้ยิน  เสียงเฮก็ดังขึ้นลั่นรถ ทุกคนก็สบายใจ และเดินทางต่อด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มดังเดิม พร้อมกับเสียงจ้อกแจ็กจอแจ ก็กลับมาดังเดิมเช่นกัน

             หลังจากนั้นเราก็ติดต่อไปที่น้องแบงค์ ซึ่งเป็นครูกศน.ที่พาพวกเราเที่ยว และเล่าเรื่องให้ฟัง พร้อมกับขอให้ช่วยไปรับของที่โรงแรม โดยที่เมื่อไปถึงโรงแรม เราก็โทรศัพท์ยืนยันอีกครั้ง เพราะของมีค่าทางโรงแรมก็กล้ามอบให้กับใคร เป็นอันว่าตอนนี้สร้อยอยู่ในมือน้องแบงค์เรียบร้อยแล้ว

             คนดีของแม่ฮ่องสอนที่อยากจะบอกวันนี้ก็คือ พนักงานทำความสะอาดที่เก็บของได้คนนั้น  ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบชื่อ กำลังให้น้องแบงค์ถามชื่ออยู่ แล้วจะเผยแพร่กันอีกครั้ง  คงต้องชื่นชมความซื่อสัตย์ของพนักงานทำความสะอาดคนดังกล่าว ที่เป็นคนดี มีคุณธรรม และเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงแรมและชาวแม่ฮ่องสอน  พวกเรา ชาว กศน.ห้วยขวาง ขอคารวะ ด้วยความจริงใจ สำหรับน้ำใจนั้นที่จะมอบกลับคืนนั้น อาจารย์อนันต์ได้ส่งทางไปรษณีย์ธนาณัติไปให้พร้อม ๆ กับน้องแบงค์แล้ว

           ทีนี้เราจะไปเอาสร้อยกันอย่างไรละ ก็เลยคุยกับอาจาย์อนันต์แบบตลก ๆ ว่า อาจารย์เดินทางด้วยรถผ่าน 1864 โค้งแล้ว แต่ยังไม่ได้มาแม่ฮ่องสอนด้วยเครื่องบิน สงสัยจะต้องให้เดินทางให้ครบเสียแล้ว  ซึ่งอาจารย์อนันต์ก็ยินดี  หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกับ Call Center ของการบินไทย เพื่อเช็คตั๋วการเดินทางไป-กลับแม่ฮ่องสอนในวันรุ่งขึ้น  ปรากฏว่ามีแต่ตั๋วไป (18 ตค.)ไม่มีตั๋วกลับ ตั๋วจากแม่ฮ่องสอนกลับมีอีกครั้งก็วันที่ 20 ตค. (วันนั้น 17 ตค.) ก็เลยประสานกับแบงค์ว่า ขอให้แบงค์ช่วยดำเนินการนำสร้อยไปบรรจุกล่องและฝากส่งมากับเที่ยวบินเวลา 11:30 น.ของการบินไทย  ซึ่งเครื่องจะถึงสนามบินเชียงใหม่เวลา 12:30 น. แล้วเราจะไปรับของที่สนามบินเชียงใหม่  น้องแบงค์ก็รับปากจัดการให้

          คนดีคนที่สองของชาวแม่ฮ่องสอน  จึงเป็นใครไม่ได้เลย นอกจากน้องแบงค์ ครู กศน.อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน คนนี้  เพราะตลอดเวลาที่อยู่แม่ฮ่องสอน น้องแบงค์ได้รับมอบหมายให้พาพวกเราเที่ยวและดูแลอำนวยความสะดวกทุกอย่าง   ซึ่งน้องแบงค์ก็ทำได้ดีมาก ๆ ดีกว่าไกด์บางบริษัทเสียอีก ซึ่งตอนจะแยกกันเราก็ได้มอบของที่ระลึก พร้อมกับน้ำใจเล็กน้อยให้  น้องแบงค์ก็จะไม่รับ แต่เราก็บอกว่าเราขอบคุณจริง ๆ ในความมีน้ำใจของน้อง เพียงแค่นี้น้อยไปด้วยซ้ำ  น้องแบงค์จึงยอมรับ

         แล้วน้องแบงค์ก็ยังเป็นภาระในการไปติดต่อรับของที่โรงแรม  วันรุ่งขึ้นก็มาบรรจุของ และส่งของขึ้นเครื่องมาตามกำหนดและโทรศัพท์แจ้งรายละเอียดเรื่องสายการบินและทุกขั้นตอน ในการติดต่อขอรับของที่สนามบินให้กับเรา 

          เมื่อได้รายละเอียดเรียบร้อยแล้วทุกคนก็สบายใจ แต่อาจารย์อนันต์ไม่สบายใจ เกรงว่าจะเป็นภาระให้พวกเราเที่ยวไม่สนุก และต้องรอรับของด้วย  อาจารย์จึงบอกว่า ผอ.พวกพวกเราไปเที่ยวและเดินทางกลับกรุงเทพฯ เถอะ เดี๋ยวผมจะรออยู่ที่โรงแรมที่เชียงใหม่และไปรับของ แล้วจะนั่งรถทัวร์กลับไปกรุงเทพฯตอนกลางคืนเอง ก็เลยบอกอาจารย์อนันต์ว่า อาจารย์ไม่ต้องกังวลหรอก เพราะระหว่างที่เรารอของ เราก็ไปไหว้พระกัน ขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ แล้วยังมีเวลาเหลือเราก็ไปเที้ยวสวนสัตว์เชียงใหม่กัน ไปดูหมีแพนด้า ซึ่งหาโอกาสไปดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ  เมื่อออกมาจากสวนสัตว์ก็น่าจะเป็นเวลาที่เครื่องลงพอดี  อาจารย์อนันต์ก็เลยยอม แต่สีหน้ายังรู้สึกเกรงใจอยู่

          ดังนั้น เราก็ตื่นกันตอนเช้า เจ็ดโมงก็ออกจากโรงแรม มุ่งไปที่เชิงดอยสุเทพเพื่อสักการะครูบาศรีวิชัย  และใส่บาตรพระตอนเช้าด่วยกัน  ได้ใส่บาตรด้วยกันมา 2 วันแล้วนะ  รู้สึกดีจัง หลังจากใส่บาตรเสร็จก็สักการะครูบาศรีวิชัย  แล้วก็พากันขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุบนดอยสุเทพ

         มีเรื่องขำกลิ้งที่นี่อีกครั้งก็คือ มีครูสาว ๆ 3 คน นุ่งกางเกงขาสั้นขึ้นไป ทำให้เข้าไปในบริเวณพระธาตุไม่ได้ ต้องไปเอาผ้าซิ่นซึ่งทางวัดจัดไว้ให้มาสวมเพื่อความสุภาพและเหมาะสม  จริง ๆ เรื่องนี้เราทราบตั้งแต่ก่อนรถจะออกแล้ว แต่ไม่อยากบอกเพราะต้องการให้บรรดาสาว ๆ ได้ประสบการณ์ตรง  เพราะเธอเป็นครูแท้ ๆ แต่กลับไม่ศึกษารายละเอียดเรื่องนี้  แต่ก็ขำดี ก็เลยถ่ายภาพ 3 สาวเก็บไว้เป็นทีระลึก

        เมื่อลงมาจากดอยสุเทพ ก็พาคณะไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่กันต่อ เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ คนจึงเยอะมาก เยอะมาก ๆ ด้วย ต้องเข้าคิวกันพอสมควร แต่ก็สนุกดี  ซื้อตั๋วให้นั่งรถชมสวนสัตว์ ซึ่งมีพื้นที่มากและจุดให้ชมสัตว์และชมวิวหลายที่ รวมทั้งสโนว์โดม และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และจุดขายหลักคือ ห้องชมหมีแพนด้า  ปรากฏว่าตอนที่เราไปเป็นเวลาหมีหลับ ไม่ออกมาให้เราได้ชม  พวกเราจึงนั่งไปดูสัตว์ชนิดอื่นก่อน เพื่อรอให้หมีตื่น แล้วจึงย้อยกลับมาดู สักหนึ่งชั่วโมง เราก็กลับมา เป็นเวลาที่หมีตื่นแล้ว  แต่เพียงตัวเดียวนะ คือ ช่วง ช่วง  ส่วนหลินฮุ่ย ยังไม่ตื่นออกมาให้พวกเราได้ชม  รวมทั้งเจ้า หลินปิง ที่น่ารักก็ยังซุกตัวหลับอยู่ เราจึงได้ชมหลินปิง ผ่านทางกล้องวงจรปิด แต่ก็คุ้มค่าแล้วหละ สำหรับทุกคน

            เมื่อชมทั่วแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยงพอดี  เราจึงเดินทางต่อไปที่สนามบินเชียงใหม่  และไปที่ คาร์โก้ ติดต่อขอรับของ จริง ๆ แล้วเป็นเวลาพักเที่ยง แต่เจ้าหน้าที่ก็อยู่ตลอดและอำนวยความสะดวกให้เราเป็นอย่างดี  เมื่อได้รับกล่องของมา ก็ให้อาจารย์อนันต์แกะและตรวจสอบทันที  ซึ่งก็ปรากฏว่าทั้งสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองทั้งสององค์ ยังอยู่ในสภาพเดิมทุกประการ  คราวนี้สีหน้าอาจารย์อนันต์ยิ้มอย่างเต็ม ๆ พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ บอกว่า "ขอบคุณมากครับ ผอ.ที่เป็นธุระทุกอย่าง ทำให้ผมได้ของกลับคืนมาแล้วยังรอผม ให้ผมกลับไปพร้อม ๆ กันอีก"  ซึ่งเราก็บอกว่าไม่เป็นไร ได้ของคืนก็ดีใจแล้ว มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน แล้วพวกเราก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรเลย เพราะโปรแกรมของพวกเราก็จะอยู่เที่ยวที่เชียงใหม่ครึ่งวันอยู่แล้ว 

             มาถึงที่รถ อาจารย์อนันต์ก็โชว์สร้อยให้ดู ทุกคนก็เฮเสียงดังกันอีกครั้ง หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับกันด้วยบรรยากาศชื่นมื่น  ระหว่างทางก็แวะซื้อของตลาดทุ่งเกวียนและโมจิ นครสวรรค์ และชมธรรมชาติของห้องน้ำกันอีกหลายปั้ม จนถึงกรุงเทพฯด้วยความปลอดภัยเวลา 23:30 น.

             นอกจากแม่ฮ่องสอนจะน่าอยู่แล้ว   แม่ฮ่องสอนยังมีคนดีอีกหลายคน ที่ช่วยกันสร้างชื่อเสียงจากความซื่อสัตย์  น้ำใจ และรอยยิ้มบนใบหน้า  สิ่งดี ๆ เหล่านี้จะถูกเล่ากันต่อไป เพื้อให้แม่ฮ่องสอน คนแม่ฮ่องสอน ได้รับรู้ว่า คุณเป็นคนดี

คำสำคัญ (Tags): #ครู กศน.
หมายเลขบันทึก: 307106เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2009 10:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 13:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ดีใจครับ...

ที่ประทับใจในแม่ฮ่องสอน และ ประทับใจกับเรื่องราวของคนดีที่เเม่ฮ่องสอน

อย่าลืมกลับไปเยือนบ้านผมอีกนะครับ

ไปเมืองสามหมอกครั้งแรก ก็ประทับใจเช่นกันค่ะ

นอกจากแม่ฮ่องสอน มีแม่สะเรียง แม่ลามาหลวง

และอีกหลายๆที่น่าสนใจและน่าค้นหาค่ะ

เห็นภาพหมดจด....แต่อิจฉาเพราะไม่มีเวลาอ่านจนครบทุกตัดอักษร กำลังเตรียมการประเมินคุรภาพ รอบแรก เดือนธันวาคม 2552 ขอให้มีความสุขกับการทำหน้าที่ อนาคตอีกยาวไกลนะยอ

สวัสดีค่ะ คนแม่ฮ่องสอน

รับรองว่าต้องกลับไปเยือนแม่ฮ่องสอนอีกแน่นอน เพราะยังมีภาพความประทับใจอีกหลาย ๆ อย่างที่ต้องกลับไปบันทึกให้กับความทรงจำของตัวเอง

สุพรพรร

สวัสดีค่ Poo

ใช่แล้วค่ะ จริง ๆ แล้วแม่ฮ่องสอนมีดีอีกมากมาย และโชคดีของคณะก็คือ ไปม่สะเรียงมา กลับมาถึงกรุงเทพฯ จึงได้ทราบว่า ฝนตกน้ำถนนขาด ไม่สามารถเดินทางได้ ขอแสดงความเสียใจกับความเดือดร้อนของชาวแม่สะเรียงด้วยนะคะ

สุพรพรรณ

สวัสดีค่ะ พี่วุฒิ

ไม่ได้เจอกันเสียนานนะคะ สบายดีใช่มั้ย ตอนนี้ไม่มีเวลาอ่านก็ไม่เป็น มีเวลามาอ่านทีหลังก็ได้ ที่ห้วยขวางก็กำลังเตรียมเรื่องประกันคุณภาพเหมือนกันค่ะ เพียงแต่ว่าใครจะรับการประเมินก่อนกันแค่นั้นค่ะ

ยอค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท