ผลสำรวจที่น่าสนใจคือ เว้บไซต์เพื่อความบันเทิงติดอันดับ 1-20 เว็บไซต์ยอดนิยมทั้งหมด ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนคำสืบค้นยอดนิยมก็คือคำว่า เกมส์ ตีความหมายว่าคนไทยยังนิยมค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเกมส์เป็นหลัก ขณะที่เว็บไซต์เกี่ยวกับการศึกษาได้รับความนิยมน้อยมาก เว็บไซต์บันเทิงได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับต้น ๆ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้เพราะเป็นธรรมดาที่คนเข้าอินเทอร์เน็ตจะสนใจเว็บบันเทิง
ข้อเสนอของของ สสส. ก็คือควรจัดเรตติ้งเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เข้าสู่เว็บโดยเฉพาะเด็ก ๆ ได้แยกแยะได้ว่าเป็นเว็บไซต์ลักษณะใด ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า
การจัดเรตติ้งให้เว็บไซต์ จะช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บมีวิจารณญาณในการเข้าใช้งานได้มากขึ้นหรือไม่
วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2552
คมชัดลึก :
“สสส.”เผยผลสำรวจ พบไทยเด็กติดเกมส์งอมแงม แถมผู้ใหญ่ดูเว็บบันเทิง โอดเว็บดีดีอยู่ไม่เกิน 2 ปี
แนะรัฐเร่งเรตติ้ง พร้อมค้านใช้วิธีบล็อกเว็บไซต์
(20ต.ค.) นายไกลก้อง ไวทยากร รองผู้จัดการแผนงานไอซีทีเพื่อสุขภาวะออนไลน์และการสนับสนุนภาคีเครือข่าย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวในการแถลงข่าวการประกวดสื่อดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นความร่วมมือของสสส. มหาวิทยาลัยศรีปทุมและเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิวดอทคอม( www.thaigoodview.com)ว่า
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือจากผลสำรวจเว็บยอดนิยม 20 อันดับแรก ที่คนไทยเข้าใช้บ่อยที่สุดพบว่าเว็บบันเทิงยังครองแชมป์ 20 อันดับแรก ขณะที่เว็บการศึกษาตกมาอยู่ที่อันดับ 28 และ 42 นอกจากนี้ยังพบว่าคำยอดฮิตที่ถูกเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปี
ค้นหาอันดับ 1 คือ คำว่าเกมส์ รองลงมาเป็นดูดวง และบันเทิง อย่างไรก็ตามปัญหาตอนนี้ คือ เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเหมาะสมจะอยู่ได้ไม่ถึง 2 ปี ส่วนเว็บไซต์เนื้อหาล่อแหลมจะมีผู้ใช้บริการมาก และไม่เห็นด้วยกับการบล็อกเว็บไซต์ เพราะจะยิ่งกลายเป็นการส่งเสริมเด็กให้อยากรู้อยากเห็นมากขึ้น วิธีแก้ไขคือ รัฐบาลควรจัดเรตติ้งเว็บไซต์ เพื่อให้เด็กสามารถแยกแยะได้
ไม่มีความเห็น