ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไช้หวัดนก 1st wave และ 2nd wave


ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไช้หวัดนก 1st wave และ 2nd wave

http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=288897&ch=gn1

 

 

 

 

สธ.เตรียมพร้อมมาตรการรับมือหวัด 2009 ระลอก 2

สธ.27 ต.ค.- สธ.ชี้แจงการเตรียมพร้อมมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอก 2 หลังพบผู้ป่วยในสหรัฐสูงเกือบ 3 เท่า โดยในรอบสัปดาห์ไทยพบผู้ป่วยแล้ว 243 คน ขณะที่วัคซีนอยู่ในขั้นตอนทดลองด้านความเสถียร คาดจะทดลองในคนได้ปลายเดือนหน้า ส่วนวัคซีนจากต่างประเทศจะมาถึงไทย ธ.ค.นี้

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกันควบคุมและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แถลงถึงความพร้อมการรับมือการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระลอก 2 ว่า จากสถานการณ์การกลับมาของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในสหรัฐ พบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายสูงเกือบ 3 เท่า ซึ่งไทยเองก็เตรียมความพร้อมมาตรการรับมือ เพราะขณะนี้เป็นช่วงเปิดภาคเรียน ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และเป็นฤดูการท่องเที่ยว งานบุญทอดกฐินหรืองานประเพณีอย่างลอยกระทง อาจทำให้มีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว ซึ่ง สธ.ยังคงเน้นย้ำมาตรการเช่นเดิมแต่ให้ประชาชนเพิ่มความตระหนัก เนื่องจากสถานการณ์ในทั่วโลก ทั้งยุโรปและสหรัฐเริ่มมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในเอเชีย โดยเฉพาะมองโกเลีย ประเทศที่ไม่เคยมีการระบาดก็เริ่มพบผู้ป่วย รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา และจีน ก็เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคเช่นกัน ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยมีผู้ป่วยที่ยืนยันจากห้องปฏิบัติการ 243 คน ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เริ่มระบาดต้นปีจนถึงขณะนี้มี 28,300 ราย

นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากสภาพแวดล้อม ทั้งปัจจัยอากาศหนาวและช่วงเทศกาล ขอให้ประชาชนเตรียมรับมือ ส่วนมาตรการของ สธ.ยังคงเน้นลดจำนวนผู้ป่วยในโรงเรียน เน้นการคัดกรองผู้ป่วย และในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) จะประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด อำเภอ ในเขตภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน เพื่อรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และไข้หวัดนกด้วย

ด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็นว่า ขณะนี้กำลังทดลองด้านความเสถียรของวัคซีน โดยได้แบ่งสูตรยาวัคซีนที่ทดลองเป็น 2 สูตรเพื่อหาความเสถียรของวัคซีน เบื้องต้นอยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส จากนั้นจะใส่น้ำยาเพื่อให้เกิดความคงตัวและประสิทธิภาพของวัคซีนมากขึ้น คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะทราบผลความคงตัววัคซีน และ จะเริ่มทดลองในคนได้ปลายเดือน พ.ย.นี้ กลุ่มตัวอย่างที่ทดลองกลุ่มแรกจำนวน 24 คน และจากนั้นจะทดลองในกลุ่มใหญ่ 400 คน สำหรับโรงงานวัคซีนมีความคืบหน้ามาก และเชื่อว่า จะผลิตวัคซีนให้คนไทยใช้ได้ปลาย ธ.ค.นี้ ส่วนวัคซีนสั่งซื้อจากต่างประเทศลอตแรก 1 ล้านโดสจะถึงไทยในเดือน ธ.ค.เช่นกัน.

-สำนักข่าวไทยอัพเดตเมื่อ 2009-10-27 11:53:23

 

http://www.moph.go.th/show_hotnew.php?idHot_new=28839

สธ.ชี้3ปัจจัยหวัดใหญ่ระบาดซ้ำ "วิทยา"เตรียมพร้อม สสจ.-รพ.รับมือ 

  •  สธ.คาด 2-2 สัปดาห์ข้างหน้าไทยเสี่ยงหวัดใหญ่ 2009 ระบาดซ้ำ เปิดเทอม-อากาศหนาว--เทศกาล รื่นเริงปัจจัยหนุน "วิทยา" ร่อนหนังสือสั่งสสจ.รพ.ทั่วประเทศเตรียมรับมือ 

    เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว "การกลับมาของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009" ว่า ได้มีหนังสือเวียนแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และสถานพยาบาลทุกแห่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมพร้อมรับมือโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่อาจกลับมาระบาดในไทยเป็นระลอกที่ 2 โดยข้อมูลกรมควบคุมโรคพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ใน 37 จังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ตอนล่าง ขณะนี้จะประสาทไม่ได้และขอความร่วมมือเอกชน หากจัดงานรื่นเริง กิจกรรมชุมนุมคนจำนวนมาก เช่นคอนเสิร์ต โรงหนัง งานชุมนุม รวมทั้งสถานบันเทิง ผับ บาร์ ขอให้ผู้จัดงานเตรียมอุปกรณ์ เช่น เจลล้าง มือ หน้ากากอนามัย และผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดงดมาร่วมงาน 

    นพ.ภาสกร อัศวเสวี ผอ.สำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยยืนยันทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 18-24 ตุลาคม 243 คน ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 28,300 คน และพบว่า 41 จังหวัดมีแนวโน้มการแพร่ระบาดไม่เปลี่ยนแปลง และสัปดาห์ที่ผ่านมามาพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 จังหวัด คือ จ.ขอนแก่น ส่วนจังหวัดที่ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง คือ ปราจีนบุรีและลพบุรี และบางจังหวัดน่าเป็นห่วงเพราะตัวเลขผู้ป่วยขึ้นลงตลอดเวลา แต่ไม่มีลักษณะผู้ป่วยพุ่งสูงผิดปกติแต่ต้องเฝ้าระวังทุกพื้นที่ ทั้งนี้จากการเก็บตัวอย่างผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในสถานพยาบาล 14 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลประปรายประมาณ 1.5% สะท้อนว่าไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาล 

    นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้การระบาดภายในประเทศอยู่ในระดับต่ำที่สุดแล้ว แต่ช่วง 2-3 สัปดาห์ ข้างหน้าต้องสนใจเป็นพิเศษและควบคุมไม่ให้ระบาดเพราะเชื้อจากประเทศซีกโลกจะมาถึงไทย บวกกับปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ กลุ่มเด็กนักเรียน 12 ล้านคนเปิดเทอม มีเทศกาล เช่น วันลอยกระทง และอากาศหนาว ทำให้เชื้อไวรัสอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น ทั้งนี้ ด่านต่างๆ ไม่สามารถสกัดกั้นเชื้อจากต่างประเทศเข้าสู่ไทยได้ สิ่งสำคัญที่สุดนักท่องเที่ยวและคนไทยต้องรู้จักป้องกันติดเชื้อและแพร่เชื้อ 

    นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ได้คัดเลือกวัคซีนชนิดเชื้อจาก 4 สูตรเหลือ 2 สูตร อยู่ระหว่างทดสอบความคงตัวของวัคซีนอีก 1-2 สัปดาห์จะเสร็จ จะส่งให้คณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดลทดลองในมนุษย์ น่าจะเริ่มทดลองได้กลางเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าวัคซีนเชื้อเป็นน่าจะผลิตลอตแรกได้ภายในเดือนมกราคม 2553
  • แหล่งข่าวโดย.... เว็บไซต์คมชัดลึก 
    ผู้จัดทำ.... สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข 
    [29/ตุ.ค/2552]


    หมายเลขบันทึก: 309939เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2009 14:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 21:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (1)

    http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=28937

    สธ.จับมือสถาบันผลิตแพทย์ 19 แห่งรณรงค์หวัดใหญ่ 2009 สร้างภูมิคุ้มกันโรคประชาชน กระทรวงสาธารณสุข จับมือกระทรวงศึกษาธิการ ระดมพลังนักศึกษาแพทย์ ประมาณ 10,000 คนใน 19 สถาบัน ร่วมเป็นแกนนำรณรงค์ให้ความรู้เป็นภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 สร้างความเชื่อมั่นประชาชน เริ่มแห่งแรกที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวันพฤหัสหน้า ส่วนด้านการรักษา เตรียมความพร้อมระดับสูงทุกด้าน มียาต้านไวรัสเพียงพอ 12 ล้านเม็ด และสั่งเพิ่มสำรองยาซานามิเวียร์อีก 50,000 ชุด วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี

    นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความร่วมมือในโครงการระดมนักศึกษาแพทย์ ร่วมต้านไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ขอความร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการขยายความร่วมมือการรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์พบว่าปีนี้ฤดูหนาวมาเร็วกว่าปกติ จากเดิมที่คาดว่าอากาศจะเริ่มหนาวต้นเดือนธันวาคม

    สำนักระบาดวิทยาประเมินว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็น จะทำให้เชื้อไวรัสอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นาน ทำให้แพร่เชื้อได้มากขึ้น จึงต้องเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตัวไม่ให้ป่วยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการระบาดในช่วงระลอกแรก มีแนวโน้มลดลงทั้งการป่วยและเสียชีวิต

    นายวิทยากล่าวต่อว่า ในความร่วมมือครั้งนี้ สสส. จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ โดยกระทรวงสาธารณสุข จะให้การสนับสนุนทางด้านข้อมูลวิชาการ จัดส่งผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา จากกรมควบคุมโรค ไปชี้แจงสถานการณ์ของโรคในระดับโลกและประเทศ ให้ทันเหตุการณ์ทุกขณะ รวมทั้งการให้ข้อมูลคำแนะนำการป้องกันโรค เพื่อเตรียมความพร้อมนักศึกษาแพทย์ทุกชั้นปีก่อนออกรณรงค์ให้ความรู้ประชาชน เป็นวัคซีนภาคประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดหรือวันที่มีค่ายกิจกรรมต่างๆ ของนักศึกษา จะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และเพิ่มประสิทธิภาพระบบการป้องกัน เริ่มในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2552 โดยจะอบรมแกนนำนักศึกษาแพทย์ และสาขาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ของมหาวิทยาลัยทุกแห่งในเขต กทม. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ได้หารือกับนายแพทย์มงคล ณ สงขลา ประธานการรณรงค์ของ สสส. เตรียมระดมเครือข่ายที่เคยร่วมรณรงค์กับ สสส. เช่นแท็กซี่ รถเมล์ รถตู้ สายการบิน มาร่วมรณรงค์ครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นเตือนประชาชนในการป้องกันตัวจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

    ด้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ได้ลงนามความร่วมมือ กับ สสส. รณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เริ่มช่วงแรกตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ในกลุ่มบุคลากร นักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และในช่วงที่ 2 จะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ให้สถาบันอุดมศึกษาที่มีคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งมีทั้งหมด 19 แห่ง อยู่ในสังกัดสกอ. 16 แห่ง กทม. 1 แห่ง กลาโหม 1 แห่ง และเอกชน 1 แห่ง มีนักศึกษาทุกชั้นปีเกือบ 10,000 คน โดยจะเริ่มในมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อม และขยายผลทั่วประเทศต่อไป นอกจากนี้จะให้มีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วย

    ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการเตรียมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอก 2 ในช่วงฤดูหนาวนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับระบบการบริหารการเข้าถึงยาต้านไวรัส โดยได้ให้คณะกรรมการด้านการแพทย์ทบทวนคู่มือรักษาให้กระชับขึ้น เพื่อให้แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที และได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง และ แยกพื้นที่บริการไม่ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป รวมทั้งเตรียมความพร้อมห้องผู้ป่วยหนัก เครื่องช่วยหายใจ และยาต้านไวรัส และยาต่าง ๆ ที่จำเป็นในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้การใช้ยาต้านไวรัสรักษาได้ผลดี มีโอกาสดื้อยาน้อยมาก และยังไม่พบเชื้อกลายพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุขได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ไว้อย่างเพียงพอ 12 ล้านเม็ด และสำรองยาซานามิเวียร์เพิ่มอีก 50,000 ชุด สำหรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ไทยสั่งไว้ 2 ล้านโด๊ส จะมาถึงไทยเดือนธันวาคมนี้ 1 ล้านโด๊ส และในมกราคม 2553 อีก 1 ล้านโด๊สนั้น

    คณะกรรมการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
    ได้พิจารณาจัดกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องฉีดก่อน 5 กลุ่ม

    1. กลุ่มแรกคือบุคลากรสาธารณสุข
    2.หญิงที่ตั้งครรภ์อายุครรภ์ 3 เดือนขึ้นไป
    3.คนอ้วนน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม
    4. ผู้พิการทางสมอง
    5. ผู้มีโรคประจำตัวเรื่องรัง ได้แก่ โรคปอด เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง

    ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยารายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในรอบวันที่ 18 – 31 ตุลาคม 2552 มีผู้ป่วยยืนยันเสียชีวิตด้วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มจำนวน 2 ราย โดยมีภาวะเสี่ยงคือโรคประจำตัวและหญิงตั้งครรภ์ มารับบริการค่อนข้างล่าช้าทำให้ไม่ได้รับยาต้านไวรัสภายใน 3 วันหลังป่วย สรุปจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 เป็นต้นมารวม 184 ราย ไม่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน

    ***********************************
    4 พฤศจิกายน 2552
    แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ [4/พ.ย/2552]

    http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=28937

     

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท