เอกสารประกอบการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมพื้นฐาน
รหัสวิชา ส 41101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
หน่วยการเรียนที่ 8
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
------------------------------------------------------
หัวเรื่อง
1. ความหมายและลักษณะสำคัญของกฎหมาย
2. ที่มาและประเภทของกฎหมาย
3. ความสำคัญของกฎหมายต่อสังคมและบุคคล
4. ผลกระทบที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
สาระสำคัญ
กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ กติกา ข้อบังคับ เพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของบุคคลในสังคมให้ปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน มีสภาพบังคับ ใช้ได้ทั่วไป มีลักษณะคล้ายคลึงกับศาสนา ศีลธรรม จารีตประเพณี เพราะเป็นข้อบังคับเกี่บกับความประพฤติของมนุษย์ กฎหมายช่วยให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นในสังคม ผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายย่อมก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อสังคมส่วนรวมและตนเอง และต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
จุดประสงค์ปลายทาง
เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
จุดประสงค์นำทาง
1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายและสรุปลักษณะสำคัญของกฎหมายได้
2. นักเรียนสามารถอธิบายประเภทและที่มาของกฎหมายได้
3. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบความคล้ายคลึงและความแตกต่างระหว่างกฎหมายกับศาสนา ศีลธรรมและจารีตประเพณีได้
4. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสำคัญของกฎหมายที่มีต่อสังคมและบุคคลได้
5. นักเรียนสามารถอธิบายและสรุปผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีต่อบุคคลและสังคมได้
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
1. ความหมายและลักษณะสำคัญของกฎหมาย
กฎหมาย คือ กฎเกณฑ์ กติกา คำสั่งหรือข้อบังคับที่ออกโดยผู้ที่มีอำนาจสูงสุด
ของรัฐ เพื่อใช้บังคับและควบคุมความประพฤติของบุคคลในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับรัฐ มีสภาพบังคับ ใช้ได้เป็นการทั่วไปถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องมีความผิดและถูกลงโทษ
จากความหมายของกฎหมายดังกล่าว อาจแยกพิจารณาได้ว่า กฎหมายมีลักษณะที่สำคัญดังนี้
1. กฎหมายเป็นคำสั่งหรือข้อบังคับที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจสูงสุดของรัฐ เช่นในประเทศไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น องค์กรนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่นี้คือรัฐสภา ในภาวะปกติองค์กร นิติบัญญัติจะเป็นผู้ใช้อำนาจสูงสุดนี้แทนประชาชน ถ้าเป็นช่วงที่มีการปฏิวัติ รัฐประหาร ผู้มีอำนาจสูงสุดย่อมหมายถึงหัวหน้าคณะปฏิวัติหรือผู้กระทำรัฐประหาร ทั้งนี้สุดแต่ว่าระบอบการปกครองของประเทศในขณะนั้นจะเป็นรูปแบบใด
2. กฎหมายเป็นข้อบับที่ใช้ได้ทั่วไปกับพลเมืองทุกคนในรัฐ หมายความว่ากฎหมายใช้บังคับกับพลเมืองทุกคนที่เป็นพลเมืองและทุกสถานที่ในรํบหรือประเทศนั้นๆ โดยเสมอภาคและเท่าเทียมกัน มิใช่ออกเพื่อใช้บังคับหรือกำหนดให้ใช้เฉพาะบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งเท่านั้น
3. กฎหมายเป็นข้อบังคับที่ใช้ได้เสมอไป หมายความว่า เมื่อได้มีการประกาศใช้กฎหมายแล้ว ต้องใช้กฎหมายนั้นบังคับได้โดยตลอดไปจนกว่าจะมีการประกาศยกเลิก หรือถูกลบล้างโดยกฎหมายใหม่
4. กฎหมายเป็นข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตาม หมายความว่าพลเมืองทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับของกฎหมายนั้นๆ ทั้งเรื่องการให้กระทำการละเว้นการกระทำการต่างๆ ตัวอย่างเช่น
- บุคคลผู้มีรายได้ตามที่กฎหมายกำหนดต้องเสียภาษีให้แก่รัฐ
- บุคคลต้องละเว้นการเอาทรัพย์สินของผู้อื่นไปเป็นของตนโดยพลการ
- บุคคลต้องละเว้นการทำร้ายร่างกายผู้อื่น
5. กฎหมายต้องมีสภาพบังคับหรือบทลงโทษ กล่าวคือกฎหมายนั้นเมื่อประกาศใช้แล้วถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดต่อกฎหมายแล้ว ผู้นั้นจะต้องได้รับผลตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ การดำเนินวิธีบังคับนี้ กฎหมายต้องมีวิธีการที่จะให้เกิดโทษหรือผลร้าย ผลเสียแก่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม
โทษหรือสภาพบังคับของกฎหมายจำแนกได้ดังนี้
- โทษหรือสภาพบังคับทางอาญา คือการประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ ริบทรัพย์สิน
- โทษหรือสภาพบังคับทางแพ่ง คือการบังคับให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้หยุดหรืองดเว้นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
ก็ดีนะแต่สั้นไปหน่อย
อยากได้แบบข้อความที่เน้นตรงคณะนิติศาสตร์และแนวข้อสอบ