ช่างพอดีกันเล๊ย!!!


งั้น...เมื่อเช้าเรื่องเล่าของพ่อ....ก็คงเช่นเดียวกัน

       เช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา  ตรงกับวันกำหนดฌาปนกิจศพน้าบ็อก (ชายพิการแขนและมือลีบที่เสียชีวิตเนื่องจากการพลัดตกน้ำในวันลอยกระทงที่ผ่านมา)  หลานชายวัยรุ่นคนหนึ่งผู้ซึ่งเป็นญาติครูแอนขับมอเตอร์ไซค์มาที่บ้านครูแอนเพื่อมาฝากขนมส่งไปขายที่โรงเรียนครูป้าเพ็ญ  พ่อครูแอนนั่งจิบน้ำชายามเช้าที่หน้าบ้านมักจะให้ความสนใจเจ้าหลานชายคนนี้ทุกครั้งที่เขามาฝากขนม  มาเช้าวันนี้พ่อเล่าให้พวกเราฟังว่า  ที่ขาของเจ้าหลานชายคนนี้มีรอยปานดำตรงตำแหน่งเดียวกันกับที่พ่อได้ป้ายสีดำของมีดหม้อลงไปที่ขาของลุงแท้ๆ ของเขาซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้วเมื่อครั้งที่ลุงของเขายังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์และเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ในตำแหน่งนี้ด้วยเช่นกัน (ตามคำร้องขอของคุณตาของลุงซึ่งก็คือคุณทวดของเจ้าหลานชายคนนี้นั่นเอง) .....มันช่างอยู่ที่ตรงตำแหน่งเดียวกันเด๊ะเลย...นะนั่น....นั่นคือความเชื่อที่คนโบราณเขาเชื่อกันว่าถ้าทำเครื่องหมายใดๆไว้กับคนตายด้วยการป้ายมีดหม้อลงไปบนร่างกายของคนตายนั้นแล้ว  หากเมื่อเขากลับมาเกิดใหม่อาจจะเห็นสัญลักษณ์นั้นๆ ไว้โดยให้เห็นเป็นปานดำหรืออื่นอันใดเหล่านี้เป็นต้น  เพื่อให้ทราบว่าเป็นคนๆ เดียวกันนั่นเอง.....  ข้อนี้ครูแอนไม่ขอแย้งต่อตามหลักทางการแพทย์เกี่ยวกับการเกิดปานแดง ปานดำต่างๆ หากแต่นำมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อของคนโบราณในสังคมชนบทเท่านั้น .....คนในครอบครัวหลานชายคนนี้เขาทราบเรื่องนี้มาก่อนนี้แล้ว  แต่มันก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

       เมื่อหลานชายกลับไปแล้วครูแอนก็ขับรถมาโรงเรียนตามปกติ  เอ...แต่น้ำที่เอ่อขึ้นมาจากสองข้างทางที่เกือบจะถึงพื้นถนนขับรถมาเนี่ยสิ...เริ่มมีปัญหาให้ขบคิดว่า  “แล้วตอนเย็นมันจะขึ้นมาถึงรึปล่าวหว่า....จะขับรถกลับได้มั๊ยเนี่ยเย็นนี้”  แต่วันนี้เดิมทีก็ทราบแล้วว่าตนเองมีคาบว่างจากการสอนในช่วงบ่าย  เลยวางแผนที่จะขอนุญาตมาร่วมงานเผาศพซึ่งเป็นการร่วมกิจกรรมในหมู่บ้านตามปกติ  แต่เมื่อไปถึงโรงเรียนกลับพบว่านักเรียนมาโรงเรียนบางตากว่าปกติ  อาจจะด้วยสาเหตุที่ฝนกระหน่ำมาทั้งคืนก็ว่าได้นักเรียนเลยเดินทางมาลำบาก  นร.และคุณครูที่มาโรงเรียนก็ทำการเรียนและสอนกันตามปกติ  มาถึงคาบที่  2  ทางฝ่ายกิจการนักเรียนมีประกาศให้นร.ทุกคนมารวมตัวกันที่หอประชุมด่วนเพื่อฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับน้ำท่วม....เอาแล้วปิดก่อนกำหนดแน่เลย...เพราะคนขับรถรับ-ส่งนร.ในหมู่บ้านต่างๆ ต่างขับรถมารับนร.กลับกันเป็นแถว  ด้วยเหตุผลว่า “น้ำขึ้นแล้วครู...หากช้ากว่านี้จะขับกลับไม่ได้”...โรงเรียนเลยต้องปิดทันทีเพื่อความปลอดภัยของนร. โดยมีคุณครูที่อยู่ในบ้านพักคอยส่งนร.กลับจนหมด  ครูแอนก็เช่นกันเลยต้องขับรถกลับบ้านตามมาติดๆ กับรถรับ-ส่งนร. ก่อนเที่ยงนั่นเอง  ขับมาเส้นทางเมื่อเช้าแต่ขากลับนี่น้ำมันมาเร็วมากจมล้อรถเก๋งครูแอนเลย  (ขับรถมา..ใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ มาตลอด ว่าจะผ่านไปได้มั๊ย เพราะน้ำเริ่มไหลเชี่ยว  ข้างๆ ตรงขอบทางจะมีชรบ. และไม้ปักไว้เป็นระยะๆ เพื่อบอกตำแหน่งของขอบถนน  เลยต้องทำใจว่าต้องผ่านได้สิน่า  คันอื่นยังผ่านเลย...ในเมื่อมันจำเป็นแล้วนี่นา....แต่ใจก็ยังสั่นๆ อยู่  เพิ่งจะมาเข้าใจความหมายของคำว่า “สั่น..สู้” ด้วยตนเองก็ครานี้แหละ) ในที่สุดเมื่อผ่านวิกฤติตรงนั้นมาได้  โทรศัพท์กลับไปที่โรงเรียนเพื่อแจ้งเพื่อนครูว่ากลับถึงบ้านแล้วด้วยความปลอดภัย  มาพบว่าที่โรงเรียนครูเพ็ญก็ปิดกะทันหันเช่นกัน 

       บ้านครูแอนกลายเป็นเกาะไปซะแล้วในบัดดลนั่นเอง....ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก  ทั้งๆ ที่มีเส้นทางถึงสี่แยกแต่ก็ไปไหนไม่ได้ซักกะทางเดียว....เฮ้อ...ใครว่าน้ำท่วมสนุก...ครูแอนขอค้านคนนึงแน่นอน...  

       ฝนก็ตกมาเรื่อยๆ บ่ายคล้อยแล้วถึงกำหนดการเผาศพในวัดเลยไปวัดกับครูเพ็ญ  ไปถึงวัดชาวบ้านสอบถามเรื่องโรงเรียนปิดกันพัลวัน ประมาณว่า “หลบทันน่ะ....อึฉาบไปแล้วแล่ะ  เท่จริงด้ายนอนโรงเรียน  เบ๊อะน้ำมันมาเร็ว” (ภาษาในฟิล์มบ้านครูแอนเองค่ะ อิอิอิ = กลับมาทันนะ  เกือบไปแล้วสิเนี่ย ที่จริงอาจจจะได้นอนที่โรงเรียนแล้ว  ก็น้ำมันมาเร็วมาก” ครูแอนมาทันพระท่านกำลังจะเริ่มพิธีพอดี 

        เมื่อท่านเจ้าอาวาสเทศนา  ท่านเทศนาโดยยกศาสนสุภาษิตมาอ้าง (แต่ครูแอนไม่ค่อยชอบจำ...มันจำยากอยู่นัก ) เอาแค่ว่าจับประเด็นได้ก็พอทราบว่า....เกี่ยวกับเรื่องการจากไปของชีวิตคนเราโดยสาเหตุที่มันเกิดจากเหตุและผล  ผู้ที่เหลืออยู่ควรทำใจรับกับสภาพความไม่เที่ยงของชีวิตให้จงได้  เนื่องจากมันเป็นธรรมดาสามัญนั่นเอง  ชีวิตคนเราอาจจะเกิดมาจากกรรมกำหนดให้มามีชีวิตอย่างไร  มีได้แค่ไหน  เพียงไหนนั่นเอง บางชีวิตที่ไม่อาจมีชีวิตถึงมนุษย์สมบัติก็เกิดเป็นสัตว์ต่างๆ ไป  เราเกิดเป็นมนุษย์ได้แล้วก็ควรใช้ความเป็นมนุษย์สมบัติให้บังเกิดผลที่ดี  อยู่ในศีลในธรรม  ฉะนั้น  หากคนเราจะเชื่อในกฎแห่งกรรมบ้างอาจจะไม่เกิดปัญหาทางสังคม  เช่นในกรณีหลายๆ กรณีที่เป็นข่าวทั้งทางหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่างๆ มากนัก  แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ท่านเทศน์ว่าบุคลลที่เกิดมาเป็นแม่ลูกกันได้นั้นต้องมีบุญเทียบเทียมกันจึงจะเกิดมาเป็นแม่ลูกกันได้ (ครูแอนแอบหันไปมองคุณยายแม่น้าบ็อกที่ปกติก็เห็นท่านจะเข้าวัดเป็นประจำ  เป็นคนนิ่งๆ ยิ้มเนือยๆ ตลอดที่พบเห็น.....ครอบครัวนี้เขาก็ลำบากเอาการอยู่  พี่ๆ น้องๆ ของคนตายก็ค่อนข้างยากจน  ไม่ได้เรียนหนังสือ  ลูกชายของคุณยายก็ไม่ค่อยเอาถ่านกันเท่าไหร่นัก  กระทั่งคนตายเองก็คอยแต่กินเหล้าอยู่ร่ำไปทั้งๆ ที่แขนและมือตนเองพิการ  ไม่ได้ช่วยเหลือแม่ตนเองได้เลย  ทั้งๆ ที่คุณยายก็แก่แล้ว...นึกแล้วให้เห็นเป็นสังเวชและกรณีชีวิต...แอบนึกให้คุณยายว่า...คงหมดห่วงไปห่วงหนึ่ง  แม้คุณยายจะเสียใจกับการจากไปของลูกชายของคุณยายก็ตาม  แต่คุณยายก็จะไม่กังวลใจเป็นทุกข์ใจว่าลูกชายจะอยู่ๆ ตรงไหน  รถราจะชนเอามั๊ยในขณะที่ลูกชายเมาๆ อยู่เป็นประจำนั้นเอง  งานนี้คนที่ไปร่วมทำบุญงานศพ  ส่วนใหญ่ก็ไปกับอาการเห็นอกเห็นใจคุณยายมากกว่าใครเพื่อน)  คุณยายกับน้าบ็อกคงทำบุญกันมาเทียมกัน  งั้น...เมื่อเช้าเรื่องเล่าของพ่อ....ก็คงเช่นเดียวกัน  ที่อาจเกิดมาใหม่ได้เพราะทำบุญมาเทียมกัน  พี่สาวกับน้องชายในอดีต  กลายมาเป็นแม่ลูกกัน....

       ในระหว่างนั่งฟังพระท่านสวดฯ เพลินๆ หันไปเห็นเณรน้อยสามรูป  ดูจะอยู่ในวัยไล่เลี่ยกันทั้งหมด 

 ทั้งสามท่านบวชต่อจากการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน  ส่วนเณรรูปอื่นๆ สึกออกไปเรียนกันหมดแล้ว  แต่ที่น่าสังเกตตรงความตั้งใจที่แตกต่างกัน  หรือศักยภาพที่แตกต่างกันของท่านทั้งสามนั่นเอง  รูปแรกหูท่านกางเชียวล่ะ แต่น่าสนใจตรงที่ท่านนิ่งเลยเมื่อถึงเวลาสวด  ปากท่านจะสวดได้อย่างฉะฉานเช่นเดียวกับพระผู้ใหญ่  แต่อีกสองท่านจะไม่ค่อยนิ่งนัก  สวดไม่ค่อยได้เท่า  เณรรูปแรกจึงมักจะส่งสายตาให้กำลังใจเพื่อนในการสวดอยู่เนืองๆ ตรงไหนที่สวดได้ก็จะได้ยินเสียงสวดแจ๋วๆ ขึ้นมาเป็นครั้งๆ ไป (แอบนึกอีกแล้ว...นี่ถ้าคนเก่งๆ บวชเรียนเป็นพระแล้วเทศนาสั่งสอนชาวบ้านให้เข้าใจถึงพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ได้หลายๆ รูป  คงจะดีไม่น้อย...เพราะครูแอนเคยได้ยินแว่วๆ จากพระท่านเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ที่ จ.ปัตตานี ซึ่งเคยเป็นเพื่อนเรียนสมัยชั้นประถมว่า  พระไม่พอจำพรรษาพอที่จะทอดกฐินได้  ต้องนิมนต์พระจากที่อื่นมาจำวัดที่สำนักสงฆ์จึงจะทอดกฐินได้  เลยนึกไปโยงกับสามเณรน้อยด้วยเลย)

ออกสำรวจระดับน้ำ....ไปตรงไหน  ที่ไหนก็น้ำทั้งนั้น...มันมาเร็วมาก

            เสร็จจากพิธีในวัดก้เกือบเย็นแล้ว  การขับรถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปสำรวจระดับน้ำในเส้นทางต่างๆ ทั้งสี่ทิศของชาวบ้านในหมู่บ้านครูแอนจึงเริ่มขึ้น ....รวมถึงครูแอนด้วยเช่นกัน อิอิอิ....

           แต่...โอ้โห...น้ำมันทะลักเข้ามาเร็วมาก  เก็บข้าวของขึ้นชั้นบนกันบ้าง  ฝากบ้านเพื่อนบ้านที่เป็นบ้านสองชั้นกันบ้าง  บางบ้านเข้าไปความสูงครึ่งนึงของตัวบ้านชั้นแรกแล้ว  ไม่ต้องพูดถึงเรือสวนไร่นา  ปกติแล้วถ้าฝนตกหนักก็จะตัดยางในสวนยางพาราไม่ได้อยู่แล้ว  ยิ่งน้ำท่วมสวนยางเข้าไปอีก...แย่กันเป็นพักใหญ่เลย...ยาวนานเลยทีนี้ 

บ้านที่กลายเป็นเกาะ  และสวนยางพาราที่น้ำทะลักเข้ามาทุกพื้นที่

 

ภาพบนซ้าย -- เส้นทางที่ครูแอนต้องขับรถไปโรงเรียนในเวลาปกติ

ภาพบนขวา -- บริเวณกำแพงหน้าโรงเรียนครูแอน

ภาพล่าง -- เส้นทางภายในตัวอำเภอที่ยังพอเดินลุยน้ำได้ไม่อันตรายนัก

 

  ป.ล.  วันนี้  โรงเรียนครูแอนเลยต้องปิดอีก 1  วัน  แต่ที่หมู่บ้านครูแอนซึ่งน้ำท่วมก่อนที่ตัวอำเภอเริ่มลดลงแล้วล่ะค่ะ.....

หมายเลขบันทึก: 312148เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 14:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

Pสวัสดีครับผมน้องชาย--หนุ่มนักเดินทาง

  • ขอบคุณสำหรับใจงามๆ ที่ส่งมาช่วยนะครับผม
  • จะสนุกกับกับลุยน้ำครับ...งั้น..สนใจทัวร์ใต้ช่วงนี้มั๊ยครับน้องชาย 555
  • สบายดีนะครับผม....ขอบคุณค่ะ

Pสวัสดีน้องโย่งครับผม

  • เฮ้ย...น้องเอกมีบัตรมาให้ผมได้เฮฮากะโปงลางสะออนด้วย
  • เก๋..ไม่เบาเลยน้องเอกเนี่ย
  • เลยได้ทาง...น้องชายตัวสูงไปเฮฮาหน้าวงซะขนาดนั้น
  • อิจฉาๆๆ ขอบตาพี่ร้อนผ่าวเลยครับผม
  • มีความสุขนะครับน้องตัวสูง

เข้ามาเยี่ยมและส่งกำลังใจมาช่วยครับ

ขอให้น้ำลด ในเร็ววันครับ

Pสวัสดีค่ะท่านรองฯ

  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งมาช่วยเป็นแรงให้เก็บของทันหนีน้ำนะคะ
  • ตอนนี้ที่หมู่บ้านครูแอนน้ำลดลงแล้วค่ะ  บ้านเรือนหลายหลังเริ่มกวาดล้างคราบโคลนจากน้ำที่ท่วมขังแล้วค่ะ
  • บางบ้านก็ต้องขนของใช้ที่โดนน้ำแล้วพังออกมาทิ้งให้เห็นกันแล้ว
  • รถขนขยะ อบต. คงทำงานหนักกันครั้งนี้ล่ะค่ะ
  • ที่หมู่บ้านครูแอน...สามารถสัญจรไปแล้วแล้วใน 3 ทิศค่ะ 5555
  • ยกเว้นทิศเดียว....คือทิศที่ต้องไปยังโรงเรียนครูแอน...
  • คาดว่าพรุ่งนี้คงพอไปได้แล้วมังคะ....สำหรับทิศเบื้องหน้าที่จะไปโรงเรียนน่ะค่ะ คิคิคิ
  • ขอบคุณท่านรองฯ มากค่ะ.....พรุ่งนี้ครูแอนจะไปล้างโรงเรียนค่ะ..คงสนุกกันล่ะ

น้องครูแอน

มาอยู่ดอนฯย้านพี่ดีกว่าเร้วววว

ไม่มีน้ำท่ามเด็ดขาด

สวัสดีคะ แวะมาเยี่ยม สบายดีนะคะ

Pสวัสดีค่ะคุณตาหยู

  • ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันน่ะค่ะ
  • น้ำลดลงแล้วค่ะสำหรับในหมู่บ้าน
  • ที่โรงเรียนก็คงจะลดไปเยอะแล้วเช่นกัน  (มั๊ง...อิอิอิ)
  • ที่โรงเรียนนี่...อาจจะเหลือคราบโคลนให้ไปขัดถูในวันพรุ่งนี้พร้อมเด็กๆ ล่ะค่ะ
  • ขอบคุณอีกครั้งนะคะ....มีความสุขกับทุกวันของชีวิตนะคะ

Pสวัสดีค่ะพี่นงนาท

  • ขอบคุณค่ะ
  • พรุ่งนี้จะปรับกำลังใจจากพี่เป็นแรงไปขัดถูคราบโคลนที่โรงเรียนนะคะพี่
  • ขอบคุณจากใจค่ะพี่

Pสวัสดีค่ะพี่แก้ว

  • ขอบคุณค่ะพี่แก้ว
  • จะสู้ๆ ค่ะพี่
  • วันก่อนที่ขับรถฝ่าน้ำท่วมมายังผ่านการ "สั่น...สู้" มาเลย
  • งานที่เหลือ "ขจัดโคลนในโรงเรียน..ก็ต้อง...สู้ๆ ค่ะ" 5555
  • ขอบคุณพี่แก้วนะคะที่แวะมาส่งกำลังใจให้น่ะค่ะ
  • พี่แก้วดูแลสุขภาพด้วยนะคะ...ทำงานหนักมั๊ยคะพี่ช่วงนี้...
  • ขอบคุณมากค่ะ

Pหวัดดีค่ะพี่นงเยาว์

  • อยู่ดอนฯ เหรอคะพี่...น้ำไม่มีท่วมแน่นอนใช่มั๊ยคะ
  • แต่บ้านหนูอยู่นี่นี่คะ...ทำไงได้ล่ะ
  • แม้ว่าน้ำจะท่วมบ้าง...แต่ก็"บ้านเรา" ล่ะค่ะพี่
  • ขอบคุณนะคะที่กะชวนไปอยู่ด้วย...เอ...หรือจะมีบรรยากาศอย่างอื่นน่าลงทุนกว่ารึปล่าวคะ...5555..ล้อเล่น..ค่ะ..ล้อเล่น
  • พี่นงเยาว์สบายดีนะคะพี่...ฝากคิดถึงน้องอิฐด้วยนะคะ..สมาชิกสีฟ้าของน้าแอน อิอิอิ

Pสวัสดีค่ะน้องMena

  • ตอนนี้ไม่ค่อยสบายดีเท่าไหร่ค่ะน้อง
  • ตรงที่น้ำท่วมทั้งหมู่บ้านเนี่ยล่ะค่ะ
  • แต่น้ำมันลดแล้ว....ชาวบ้านก็เหนื่อยกันหน่อยล่ะค่ะ
  • น้องคงสบายดีนะคะ
  • พี่เองหายไปพักใหญ่เช่นกัน...แล้วพี่จะไปเยี่ยมน้องนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ...ขอให้มีวันดีๆ ในทุกวันทำงานนะคะน้องสาว

Pสวัสดีค่ะคุณวุฒิชัย

  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
  • ในยามเดือดร้อน...กำลังใจคือแรงพลังอันมหาศาลเทียวค่ะ
  • พรุ่งนี้ครูแอนก็จะไปโรงเรียนแล้วค่ะ  น้ำคงลดแล้วละมังคะ (ถ้าไปได้)
  • ถ้ายังไปไม่ได้  คงต้องใช้เส้นทางอื่นที่อ้อมไปอีกไกลมากโขทีเดียว
  • แต่ไม่เป็นไรค่ะ..สู้ๆๆ  ค่ะ
  • ขอบคุณนะคะ....ขอบคุณจริงๆ

สวัสดีครับน้องครูแอน

             พี่มาช้าดีกว่าไม่มานะ...อิอิ...จมอยู่กับกองงานซะหลายเดือน...น้ำท่วมแถวบ้านเราถือเป็นเรื่องปกติเน๊าะ...ตามประสาเมืองชุ่มฉ่ำ...ได้ข่าวแล้วเพราะน้องที่ทำงานบ้านเขาอยู่วังใหญ่เขากลับมาบอกว่าน้ำท่วมเต็มหมด สะบ้าย้อยก็จมน้ำ...รักษาสุขภาพด้วยละกัน

                                                                         โชคดีนะน้อง

Pสวัสดีค่ะพี่นายช่างใหญ่

  • แอนก็หายไปหลายเดือนเช่นกันค่ะพี่  หายไปกับงานนั่นแล่ะพี่เห๊อ
  • เพิ่งจะกลับเข้ามาเหมือนกันค่ะ
  • ปกติจริงด้วยค่ะพี่...แบบว่าถนน 4 สายไปไหนไม่ได้ซักกะสาย
  • ทางไปโคกโพธิ์ตรงใกล้ถึงคลองท่าหยีก็หนัก  รถบรรทุก  10  ล้อยังต้องจอดนิ่งเพราะเครื่องดับเจ๊งไปเลย
  • เค้าคงกลับมาเอาตอนน้ำลดนั่นล่ะค่ะ...เพราะจอดกลางถนนนั่นเลย
  • มีมอเตอร์ไซค์บางคันทำเป็นเก่งประมาณว่าพี่หรอยรถพี่ไปได้  ขับๆ ไปได้สักพักก็เข็นเหมือนกัน
  • เข็นไป เข็นมาตรงน้าลึกถึงบ่า  คนที่อยู่บนฝั่งถนนที่แห้งอยู่เริ่มมองไม่เห็นแล้วว่าเค้าเข็นอะไร
  • ข่าวแว่วว่า..อาจจะมีระลอกใหม่ราวๆ วันที่  12  นี้อีกรอบค่ะท่านพี่
  • อ้าว.....มีคนวังใหญ่ที่ที่ทำงานด้วยเหรอคะนั่น
  • วังใหญ่--ลำไพล  หรือวังใหญ่--นาทวีคะพี่  ถ้าวังใหญ่ลำไพลก็น่าจะเคยเห็นๆ กันแน่นอนเพราะที่เรียนก็คงเป็นโรงเรียนเทพพิทยาภาณุมาศ ใกล้ๆ ละแวกนั้น...อิอิอิ...อาจจะศิษย์พี่ศิษย์น้องสำนักตักศิลาเดียวกัน 555
  • ว่าแต่...พี่บ่าวเหอะ..บายดีม่าย....คิดถึงและเป็นห่วงนะคะพี่บ่าวเห๊อ

พี่แอน..บ้านเราเป็นเกาะชายทะเลเหมือนกันเลยค่ะ..

ทุกปีชายหาดบ้านแอ๊วจะเป็นที่เล่นนำ้ของคนแถวนี้เสมอ..เรตติ้งดีมากอิอิ..

ขอให้น้ำลดไวๆนะคะ.ไม่งั้นเด็กๆคิดถึงคุณครูแอนแย่เลย..

..แต่ที่แน่ๆตอนนี้..มีสาวสุรินทร์คิดถึงพี่แอนอย่างแรงจ้า..^^

Pหวัดดีจ้าน้องรัก

พี่ไปโรงเรียนมาแล้วจ้า...เมื่อวันอังคารเป็นวันแรกหลังจากน้ำท่วม  กะว่าคงต้องไปขัดพื้นใต้ถุนอาคารเรียนกันเป็นแน่  ที่ไหนได้พี่ๆ เพื่อนครูที่บ้านเค้าน้ำไม่ท่วมมาช่วยกันขัดก่อนแล้ว  พี่ไปเลยสามารถสอนได้เลยตามปกติ

แต่คำถามยอดฮิตหลังจากไม่เจอหน้ากันช่วงน้ำท่วม  คือ "ครูๆ บ้านครูน้ำท่วมมั๊ย"...พี่ก็อมยิ้มๆ นะ แล้วก็ตอบกลับไปแบบกวนๆ ว่า "แล้วจะเหลือเร๊อะ...อิอิอิ"..."เหมือนบ้านผมเด๊ะเลย 5555"   ---พอกันเลย..ทั้งครูทั้งเด็ก...

ที่บ้านพี่กลายเป็นที่พึ่งพิงของเหล่าชีวิตน้อยๆ ด้วยล่ะ...คิคิคิ  เพราะมันหนีน้ำมากันไงจ๊ะ  ทั้งกิ้งกือ ไส้ดงไส้เดือนมากันเพียบเลย  มันจะถามกันซักคำได้มั๊ยเนี่ย...ว่ายินดีต้อนรับอ๊ะปล่าว....เป็นไม่มีซะเลยเจ้าพวกนี้

น้องจ๋า...ไอ้เจ้าพวกนี้เหรอ...ถ้ามันจะคิดถึงพี่...ก็คงตรงที่ "ขาดรสชาดแปลกๆ อะไรๆ ไปในชีวิตของเจ้าลูกลิงพวกนี้ไปไง"...5555

แต่พี่สาวคนสงขลาคนนี้...ก็คิดถึงสาวน้อยเมืองสุรินทร์ที่ไปหากินแถวกาฬสินธิ์มากอักโขอยู่นา

อ๋า..รึไม่แน่  เผื่อโชคดีมีเจอกัน  วันพี่ไปเที่ยวน่าจะดี อิอิอิ

คิดถึงนะน้องรัก

 

  • โอโฮ...ทั้งน้ำ ทั้งใจ ที่ไหนที่ไหนก็ไหลมาหาคุณครูLioness_ann
  • คนงามทั้ง 3 หน้า มีแต่คนรักคิดถึงและห่วงใย
  • ข้าวของทรัพย์สินมันรักษาไว้ไม่ได้ไม่เป็นไร
  • แต่คุณครูต้องปลอดภัย
  • เพราะคุณครูเป็นคนที่มีชีวิตอย่างมีคุณค่า
  • เด็กๆรอคุณครูสร้างสรรชีวิตของเขาอยู่นะครับ
  • ขอให้คุณครูจงโชคดี ปลอดภัยครับ

Pหวัดดีค่ะท่าน ผ.อ.ใจดี

  • มิตรภาพในโกทูโนนี่เป็นเหมือนน้ำใสไหลเย็นๆ มาให้ชื่นฉ่ำใจได้ไม่น้อยเทียวค่ะท่าน ผ.อ.
  • ทั้งในยามทุกข์ และ สุข  เลยค่ะ
  • น้ำใจเย็นชื่นใจอีกทางหนึ่งที่ไหลมาให้ครูแอนก็มาจากสุพรรณบุรีนี่เหมือนกันนะคะ
  • ขอบคุณท่าน ผ.อ.ใจดีเมืองขนมสาลี่แสนอร่อยนะคะ

เรียน คุณครู แอน

ขอให้การเดินทางไปทำงานสะดวกปลอดภัยเหมือนปกติ

  • มาเป็นกำลังใจให้น้องครูแอนค่ะ
  • ปานนี้การเดินทางคงสะดวกสบายดีเหมือนเดิมแล้วนะคะ

 

Pสวัสดีค่ะท่าน ผ.อ.พรชัย

Pสวัสดีค่ะพี่วรางค์ภรณ์

  • ขอบคุณมากๆ ค่ะ
  • ตอนนี้เส้นทางการเดินทางไปโรงเรียนไป-กลับเป็นปกตอแล้วค่ะ
  • พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในบล็อกส่งกำลังใจมาให้จนชื่นใจเลยค่ะ
  • ขอบคุณพี่ทั้งสองและสมาชิกทุกท่านด้วยค่ะ
  • พี่แอนเข้าใจว่าน้ำลดแล้วนะครับ
  • เห็นน้ำท่วมแล้วเสียวๆๆครับ

Pหวัดดัครับผม

  • กำลังเฝ้าระวังครับ
  • รอระลอกสอง
  • รอๆๆๆ อยากให้เทวดาขี้เกียจทำหน้าที่บ้างจัง555
  • สบายดีนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท