นับตั้งแต่ตั้งใจเขียนเกี่ยวกับการ "ออกกำลังใจ" ต่อเนื่องจากบันทึก "ออกกำลังอย่างไรให้ครอบคลุมมิติต่างๆของชีวิตอย่างสมดุล" และได้บันทึกเกริ่นนำไปแล้วหน่อยหนึ่งในบันทึก "ก่อนออกกำลังใจ มาชมภาพ "หัวใจ" กันก่อนครับ" ผมก็มักหาเวลาเงียบๆครุ่นคิดถึงเรื่องดังกล่าว
"หัวใจ" เป็นสิ่งสำคัญมากไม่แพ้อวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกาย แต่หัวใจมิได้มีเพียงมิติของ "กายภาพ" ที่เป็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่งเท่านั้น แต่ "หัวใจ" ยังมีมิติที่ "จับต้องไม่ได้" และ "มองไม่เห็น" อีกด้วย แม้ว่าเราจะมีเทคโนโลยีล้ำยุคเพียงใดก็ไม่สามารถมองเห็นอีกมิติหนึ่งของหัวใจได้
แต่ด้วยตัวเราเอง เราสามารถ "รู้สึก" ได้ และในคนอื่นๆ เราสามารถมองเห็นสิ่งที่คนๆหนึ่งรู้สึกได้ที่ "ร่างกายของคนๆนั้น" เช่น ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เศร้า เครียด ดีใจ ทุกข์ โกรธ หรือจากน้ำเสียง แววตา หรือจากอากัปกิริยาต่างๆที่แสดงออกมา เหล่านี้ทั้งหมดเป็นการ "Present" สิ่งที่ "หัวใจรู้สึก"ของเราเองและคนอื่นๆ
ตลอดชีวิตของมนุษย์เราหัวใจมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตเรามาก เมื่อเราเผชิญกับสิ่งต่างๆ เราจะรู้สึกต่อสิ่งที่เราเผชิญที่ "ใจ" ของเรา รัก ชอบ หึง โกรธเกลียด กลัว เบื่อ เหงา เศร้า ว้าเหว่ ฯลฯ สิ่งที่ใจรู้สึกจะขับเคลื่อนให้มนุษย์ทำและไม่ทำสิ่งต่างๆ ดังปรากฏในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และแม้แต่ในยุคปัจจุบันของเรา "เหตุการณ์" ต่างๆที่เกิดขึ้นล้วนมีส่วนสัมพันธ์กับสิ่งที่ใจมนุษย์ "รู้สึก" หัวใจที่มองไม่เห็นนี้ มีอิทธิพลต่อมนุษย์เราตลอดมา ทั้งบวกและลบ ทั้งดีและร้าย ทั้งรุ่งเรืองและเสื่อมทรามล้วนแล้วมีรากเหง้ามาจากหัวใจที่มองไม่เห็นของมนุษย์เราทั้งสิ้น
เราต่างปราถนาที่จะให้หัวใจของเรารู้สึกแต่ "ที่ดีๆ" ที่เป็น "Positive" แต่ในความเป็นจริงของชีวิตเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ หัวใจของเราจึงได้ลิ้มชิมรสชาดที่ไม่พึงประสงค์มากมาย ดั่งกลางวันและกลางคืน มนุษย์เราจึงเผชิญกับความรู้สึกที่ทั้ง "positive" และ "negative" คละเคล้ากันไป
ภาพจาก myspace.com
โดยธรรมชาติของหัวใจเองท่านนบีมุหัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ได้เปรียบเอาไว้ว่า หัวใจนั้นเป็นเช่น "ขนนก" ยามลมพัดมันพลิกคว่ำพลิกหงาย แปรเปลี่ยนยากหยั่งคำนวณ
หัวใจที่อ่อนแอขาดการออกกำลังที่เหมาะสมก็เป็นเช่นหัวใจที่เป็นก้อนเนื้อที่จะส่งผลกระทบต่อร่างรายทั้งระบบ
การออกกำลังใจจึงสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง
Assalamualaikum
สลาม อ.อาลัม
ต้องหาเวลามาออกเป็นจริงเป็นจัง เสียที่ เล่นตัวมานาน
สำคัญจริงๆ ครับ หัวใจ ที่เป็นรูปธรรม หากมีปัญหาก็กระทบไปหมด ที่เป็นนามธรรมก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก
วะอาลัยกุมุสสลาม วะเราะฮฺมะตุลลอฮฺ วะบารอกาตุฮฺ
ญะซากิลละฮฺกะษิร็อนครับลูกซิลเวีย
อัลหัมดุลิลละฮฺ ดีใจมากครับที่ลูกชอบบันทึกนี้
ขอให้พระองค์ทรงตอบแทนความดีในทุกๆตัวอักษรที่อาจารย์ถ่ายทอดมาค่ะ
อามีน....
สลามครับคุณคนตานี
ครับเห็นด้วยครับ ลุยเลย
ใช่ครับ อ.จารุวัจน์
สลามอุซตาซครับ มาออกกำลังกายด้วยคนครับ
สลามครับคุณเบดูอิน
ครับดีครับ เพื่อสุขภาพของเราเอง
สลาม ทักทาย เยี่ยมเยียน ครับ
อัสลามุอาลัยกุ้ม
ยังไม่ไปทำงานนะคะ แต่มีสายรายงานว่า วันก่อนฝนตกหนัก เห็น อ. อาลัม เดินๆอยู่ชั้น 1 ตึกอธิการ อยู่ๆก็หงายหลังล้มโครม ลงเฉยๆ รับทราบข่าวรู้สึกเป็นห่วงค่ะ คนใหญ่โตแบบนี้ล้มได้ไง แต่วันนี้ ถึงบางอ้อ แล้วคะ แหม ก็ท่าน ออกกำลังใจระหว่างเดินด้วยนี่เอง ฮา ฮา สุขภาพจิตที่ดี ส่งเสริม สุขภาพกายให้แข็งแรง คะ
มาร่วมออกกำลังใจ ด้วยคนค่ะ "นายแม่"
สลามครับคุณrusleenator
โห ดีใจที่ท่านมาเยี่ยม แหม อยู่ใกล้แค่นี้ เพิ่งเห็นท่านในบล็อกก็วันนี้แหละ
ขอบคุณที่แวะมาครับ แล้วแวะมาอีกบ่อยๆนะครับ
วะอาลัยกุมุสสะลามครับนายแม่
แหม นึกว่ามาทำงานแล้วซะอีก ยังไม่ได้ไปเยี่ยมเจ้าหนูตัวเล็กเลย เอาไว้ทั้งแม่ทั้งลูกสบายดีก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไปเยี่ยมนายแม่กับลูกนะครับ เออ ตอนนี้ตัวใหญ่น้อยลงแล้วครับ ฮิๆ
เรียน ท่านอาจารย์ที่เคารพ
คืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่งที่นอนดึก หากจะบอกว่าเป็นการไม่รักษาสุขภาพก็ใช่เต็มๆเลยค่ะ ดิฉันจะมีสมาธิคิด เขียน งานบางอย่างในยามดึกสงัด ในยามที่มีเสียงอึกทึก ก็สามารถ คิด เขียน อ่าน งานบางอย่างได้ แต่ยามสงบจริงๆ เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี นั้นเป็นสัจจธรรมจริงๆค่ะ สงบในสงบ สื่อสารด้วยใจ เป็นใจที่ท่านอาจารย์บอกว่า จับต้องไม่ได้ มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึก ความรู้สึกที่ว่านั้นก็คือ ใช้ใจสัมผัส ท่านอาจารย์นับว่าลึกซึ้งยิ่ง ท่านหัวหน้าศูนย์ศึกษาอัลกุรอาน มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา อาจารย์มูหะมัด คอยา ท่านได้เคยกรุณาเล่าให้ดิฉันฟังว่าสงครามที่เกิดขึ้น มันเกิดมาแต่ในใจของคนแล้ว หากจะให้สงครามสงบ ย่อมต้องสงบมาแต่ใจของคนเช่นกัน นี่ก็นับว่าเป็นคำที่ลึกซึ้งยิ่งอีกเช่นกัน ขอขอบคุณบุญกุศล ที่ทำให้มาพบเพื่อนต่างศาสนิกที่ดีเช่นท่านและเพื่อนๆ เราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข เราเรียนรู้ที่จะสื่อสารถึงกันได้อย่างสร้างสรรค์ ไม่มีคำว่า พวกเขา พวกเรา ไม่มีคำว่า ใครดีกว่าใคร ใครด้อยกว่าใคร พอตายแล้วร่างก็ฝังดินด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น สำหรับดิฉัน บริจาคร่างให้สภากาชาดไทยไปแล้ว เมื่ออวัยวะหมดประโยชน์ก็จะทำการ ฌาปนกิจ คือเผาให้มอดไหม้เป็นเถ้าธุลีดิน แล้วเราจะเอาอะไรมาวัดว่าใครต่ำใครสูงกว่าใคร ใครดีใครเด่นกว่าใคร ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจทั้งสิ้นใจเป็นพลังงานที่สามารถรับรู้ได้ ใจที่ฝึกดีแล้ว ย่อมมีพลังมหาศาล
ขอความรู้ท่านอาจารย์นิดหนึ่งค่ะ คำทักทายของชาวมุสลิม เขียนต่างๆกันไป คำไหน เป็นคำที่ถูกต้องและใช้ในวาระใดบ้างคะ อิสลามูอะลัยกุม อัสลามุอาลัยกุม สลาม วะอาลัยกุมุสสะลาม ?????แล้วมีอื่นๆอีกไหมคะ แล้วใช้ในวาระใดบ้าง แล้วคำใดถูกคำใดผิด
สำหรับคืนนี้ ดิฉันจะตั้งจิตอธิษฐาน หลังจากสวดมนต์สรรเสริญ คุณของพระรัตนตรัย(พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)แล้ว ว่าขอให้ชาติไทยของเรากลับมาสงบสุขดังเดิม ไม่ว่าจะภาคไหนๆก็ตาม ขอความรักกลับมาอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคน ขอครอบครัวทุกครอบครัวมีสายใยรักที่อบอุ่น ถ้าหัวใจทุกดวงมีความสุข สงครามมันคงสงบลงที่ใจแล้ว และไม่แผ่ขยายออกมาอีกเป็นแน่ หากได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯในฐานะที่ปรึกษาอีกครั้งก่อนจะยุบสภาในปีนี้ ดิฉันจะตั้งจิตถึงท่านในฐานะตัวแทนแห่งศาสนา นึกถึงเพื่อนๆทุกๆท่านที่มีดวงจิตเปี่ยมล้นด้วยความดีงาม ไม่ว่าท่านจะอยู่ในศาสนาใด พลังใจสีขาวบริสุทธิ์นี้ หากรวมตัวกันหลายๆล้านดวงใจ ดิฉันคิดว่า พลังแห่งศีลธรรม จะพังทลายอธรรม ความชั่วให้พินาศย่อยยับลงไปได้
เรามาช่วยกันเชื่อในสิ่งเดียวกันนะคะ เชื่อในพลังของความดี วันนี้ดิฉันสามารถรับพลังแห่งใจของท่านและเพื่อนๆของท่านได้แล้ว เราคือคนไทยเหมือนกัน แม้จะพูดกันคนละภาษาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ภาษามลายูถิ่นปัตตานี ก็เป็นน้องพี่ชาวไทยเช่นกัน สักวันดิฉันจะไปเยือน ก่อนจาก ฝากพูดถึงเรื่อง "ใจ" ที่เป็นพลังงานอันสุดอัศจรรย์ในคราวหน้านะคะอาจารย์ ดิฉันจะแวะมาเยี่ยมท่านบ่อยๆ หากมีโอกาส
คำศัพท์วันนี้(ดิฉันแอบเรียนภาษามลายู) "ฮาตี" แปลว่า "ใจ" ฮาตี บา เอะ แปลว่าใจดี ฮาตี ฮีแต แปลว่า ใจดำ ฮาตี มูเราะฮ แปลว่า ใจบุญ ฮาตี ลารอ แปลว่า ใจแตก โอ้...โย...อันนี้ไม่ใช่พวกเราที่อ่านเวบบล็อกนี้แน่ๆ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ระลึกถึงท่านอาจารย์เสมอ
sarsinaphar
สวัสดีครับคุณsarsinaphar