ข้อเท็จจริงว่าด้วยกรณี 2012 : ตอนที่ 1
ข้อเท็จจริงว่าด้วยกรณี 2012
ตอนที่ 1
บัญชา ธนบุญสมบัติ
E-mail : [email protected]
*บทความนี้จะนำไปตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ หากต้องการอ้างอิง โปรดแจ้งผู้เขียนตามที่อยู่ที่ให้ไว้
กำเนิดแนวคิด 2012
หนังสือเล่มแรกที่จุดพลุเรื่อง 2012 ว่าอาจจะเกิดหายนะครั้งใหญ่หลวง ได้แก่ The Maya เขียนโดย Michael D. Coe
ที่มาของภาพ : http://www.d.umn.edu/cla/faculty/troufs/anth3618/images/Coe_Maya.gif
ในการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1966 ผู้เขียนระบุว่า
“There is a suggestion...that Armageddon would overtake the degenerate peoples of the world and all creation on the final day of the thirteenth [baktun]. Thus...our present universe...[would] be annihilated on December 24, 2011, when the Great Cycle of the Long Count reaches completion.”
“มีข้อบ่งชี้ว่า....เหตุการณ์สงครามวันสิ้นโลกในพระคัมภีร์จะทำลายคนเลวและสรรพสัตว์ทั้งปวงในวันสุดท้ายของบัคทูนที่ 13 ดังนั้น...เอกภพที่เราอยู่นี้...ก็จะถูกทำลายล้างในวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2011 เมื่อวงรอบใหญ่ของการนับในปฏิทินแบบลองเคาต์เวียนบรรจบอย่างสมบูรณ์”
Michael D. Coe ผู้แต่งหนังสือ The Maya
ที่มาของภาพ : http://www.mesoamericanmythologies.info/MichaelCoe.jpg
อย่างไรก็ดี ในการตีพิมพ์ครั้งที่ 2 (ค.ศ.1980) วันดังกล่าวได้ถูกปรับเป็น 11 มกราคม 2012 และในการตีพิมพ์ครั้งที่ 3 (ค.ศ. 1984) วันดังกล่าวได้ถูกปรับเป็น 23 ธันวาคม 2012
[อ้างอิง : http://en.wikipedia.org/wiki/2012_phenomenon Page 3 of 15 (Retrieved : 2 November 2009 at 10:23)]
ปฏิทินแบบลองเคาต์เป็นอย่างไร? บัคทูนคืออะไร?
ปฏิทินแบบลองเคาต์ของเมโซอเมริกา (The Mesoamerican Long Count calendar) มีระบบการนับเวลาดังนี้ :
20 days = 1 uinal
18 uinals = 1 tun
20 tuns = 1 katun
20 katuns = 1 baktun
เมื่อนับไปครบ 13 baktuns (เท่ากับ 1,872,000 days หรือ 5125 ปี โดยประมาณ) ก็จะตั้งต้นนับใหม่
ตัวอย่างเช่น
วันที่ 8.3.2.10.15 ตามปฏิทินระบบนี้ หมายถึง 8 baktuns, 3 katuns, 2 tuns, 10 uinals และ 15 days
วันแรก ได้แก่ 0.0.0.0.1 ซึ่งตรงกับวันที่ 11 (บ้างก็ว่า 13 สิงหาคม) ปี 3114 ก่อนคริสต์ศักราช
วันสุดท้าย (ก่อนเริ่มนับรอบใหม่) 13.0.0.0.0
น่าสนใจว่ามีหลักฐานว่าวันที่ 13.0.0.0.0 ไม่น่าจะเป็นวันสุดท้ายของโลกตามคติของชาวมายา เนื่องจากมีหลักฐานทางโบราณคดีกล่าวถึงวันที่ 13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.13.0.0.0.0 หรืออีกราว 4.134105 x 1028 ปี (ประมาณ 4 หมื่นล้านล้านล้านล้านล้านล้านปี) ในอนาคต!
การตีความสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2012
การตีความสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2012 มี 2 กระแสตรงข้ามกันสุดขั้ว ขั้วหนึ่งมองโลกแง่บวกสุดๆ อีกขั้วหนึ่งมองโลกแง่ลบสุดๆ (แต่เรามักจะได้ยินเฉพาะขั้วหลังนี้)
o มองโลกแง่บวก ได้แก่ ทฤษฎีของกลุ่มนิวเอจ (New Age Theories) ซึ่งเสนอว่าการเกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่บวก ทั้งทางกายภาพ & ทางจิตวิญญาณ (Transformative Events)
o มองโลกแง่ลบ ได้แก่ ทฤษฎีวันสิ้นโลก (Doomsday Theories) ทั้งหลาย ซึ่งเสนอว่าการเกิดความหายนะครั้งใหญ่หลวง ที่จะส่งผลกระทบต่อมนุษย์และโลกอย่างกว้างขวาง (Cataclysmic Events)
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการตีความตามทฤษฎีในแนวไหน พึงทราบไว้ก่อนว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้และสามารถตรวจสอบได้
การเสนอทฤษฎีเหล่านี้ไม่เคยมีการตีพิมพ์ในวารสารที่ผ่านระบบการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer review) ดังนั้นในทัศนะของวิทยาศาสตร์กระแสหลักจะถือว่าทฤษฏีเหล่านี้ล้วนเป็นวิทยาศาสตร์เทียม (pseudoscience)
โปรดติดตาม ตอน 2
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น