น้องลูกหว้าครับ ดีมากครับ
พี่เล่าประสบการณ์เรื่องนี้หน่อย ประเด็นการปฏิรูปการศึกษานั้นมีเวทีพูดกัน ประชุมกัน อภิปราย สัมมนาทั้งระดับเล้กๆและรัดับชาติมามากมาย สมัยนั้นพี่จำได้ว่าพี่มาเรียน มช.ปี 2512 เรื่องนี้ดังมาก เราจ้างผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาวางแนวทาง มาร่วมอภิปราย วางแผนแม่บท เราบินไปดูงานต่างประเทศกันหลายหลุ่มหลายประเทศ กลับมาแล้วก็มาพูดคุยกัน บรรยากาศเหมือนว่าจะเปลี่ยนแปลงแล้วในวันพรุ่งนี้
แต่ก็เปลี่ยนปรับได้บ้าง ไม่มากนัก พี่อ่านเอกสาร ติดตาม เข้าร่วมการประชุม หลายต่อหลายครั้ง แต่ระบบการศึกษาก็เป็นอย่างที่เห็น หลายอย่างก็ดีขึ้น อีกจำนวนมากยังไม่ปรับเปลี่ยน บางอย่างดูจะเป็นปัญหามากขึ้น
ระบบมันซับซ้อนมากกว่าที่เราจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินในเร็ววัน
จนมีคนที่แหกวงการออกมา เช่น โรงเรียน summer hill ที่กาญจนบุรี โรงเรียนของท่าน ดร….ชุมสาย โรงเรียนรุ่งอรุณ ฯลฯ แต่นั่นก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับทั้งหมด
จนเกิดวิทยาลัยชุมชน เกิดมหาวิทยาลัยชีวิต….
เมื่อพิจารณาสิ่งนี้—->
การแก้ปัญหาความยากจน
- การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- การพัฒนาชุดฝึกอบรมการแก้ปัญหาทางสังคมด้วยตนเอง
- การวิจัยเพื่อหาแนวทางการยกระดับจิตใจของคนไทย
- การวิจัยเพื่อหามาตรการกระจายรายได้สู่สังคมชนบทผ่านกิจกรรมทางการศึกษา
พี่ขออนุญาติ แสดงความเห็นตรงนี้ในฐานะที่พี่วนเวียนอยู่ในประเด็นนี้
อย่างไรก็ตาม การวิจัยมิใช่จะไร้ความหมาย มีความหมายครับ เพราะสังคมเคลื่อนตัวไป ทุกอย่างก้หมุนไป การวิจัยก็ต้องมีขึ้น แต่ทำอย่างไรให้เอาไปได้จริงๆครับ
เอาแค่นี้ก่อนนะครับน้องลูกหว้า
พัฒนาๆๆ แบบสบายๆ บ้างเน้อ
พัฒนาๆๆ แบบสบายๆ บ้างเน้อ
แหมๆๆ พอเราไปที่ลาน พ่อก็มาตอบที่นี่ คิดถึงค่ะพ่อ เขาก็ถกๆกันอยู่ค่ะพ่อว่า เน้นให้เรียนแบบสนุกและมีความสุข แต่พอเวลาสอบก็อัดแต่วิชาการ อิอิ..เด็กปรับตัวไม่ทันเลย
รับความรู้จากอาจารย์ครับ ;)
#7:: sutthinun 16 พฤศจิกายน 2009 เวลา 11:58 คลิกแก้ไข
เห็นด้วย แต่ไม่เห็นคนแก้ และนโยบายที่จะแก้ปมที่ว่ามาทั้งหมด
คิดแต่ไม่ได้ทำ หรือยังไม่ทำ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แบ๊ะๆมา ก็แบ๊ะๆไป อิอิ
ได้อ่านด้วยคน..เห็นด้วยกับหลายเรื่องนะคะ
พี่เคยถามคนเป็นครู เขาบอกว่างานสอนน่ะชอบทำ แต่งานเอกสาร KPI ไม่อยากทำทำให้เบื่อที่จะอยู่ในอาชีพครู
น่าจะศึกษาว่า ครูทำงานที่ไม่ใช่งานครูกันกี่เปอร์เซนต์ของงานนะคะ