น้อง นสพ.รามา กับการรักษาแผลเรื้อรังที่เท้าด้วย Diabetic Removable Cast (D.R.C.) (ดิเรก)


พวกเราได้เรียนรู้วิธีการดูแลแผลเรื้อรังจากโรคเบาหวานด้วยวิธีการ Off loading

 สวัสดีครับ,ค่ะ วันนี้กลุ่มพวกเราได้มาปฏิบัติงานที่รพ. สงฆ์   เป็นโอกาสดีที่ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับ DM Foot Clinic  ซึ่งครั้งนี้พวกเราได้เรียนรู้วิธีการดูแลแผลเรื้อรังจากโรคเบาหวานด้วยวิธีการ Off loading
 แผลที่เท้าของผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่จะเป็นแผลเรื้อรัง   ซึ่งต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง  แผลจะหายเร็วหรือช้านั้นขึ้นกับการดูแลจากแพทย์และตัวผู้ป่วยเอง   ผู้ป่วยที่เอาใจใส่ดูแลแผล  และระวังไม่ให้เกิดแผลลุกลาม ก็จะหายเร็ว   ผู้ป่วยที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ก็จะทำให้แผลลุกลามมากขึ้น จนอาจต้องสูญเสียขาไป ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยต่ำลงทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ 

 สำหรับพระสงฆ์ที่เป็นโรคเบาหวานที่มีแผลที่เท้านั้นส่วนใหญ่จะเป็นเป็นแผลเรื้อรังที่ลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากพระสงฆ์ต้องปฏิบัติกิจของสงฆ์และต้องเดินมาก  บางครั้งเดินเท้าเปล่าทำให้แผลติดเชื้อ แผลลึกมากขึ้น  และเกิดแผลใหม่   เมื่อแผลเป็นระยะที่รุนแรงแล้ว  แผลจะหายได้ค่อนข้างช้า   อาจจะต้องนอนพักรักษาอยู่รพ.นานหลายสัปดาห์  
การรักษาแผลนอกจากจะต้องทำแผลทุกวันแล้ว  เรายังจะต้องระวังการซ้ำเติมที่แผลเดิม   การเดินลงน้ำหนักที่แผลทำให้เกิด repetitive minor trauma  แผลจึงเรื้อรัง     ที่คลินิกนี้มีการรักษาหนึ่งที่แก้ปัญหานี้ เรียกวิธีนี้ว่า  Off Loading   หลักการ คือ การลดแรงกดที่จะไปลงที่แผล    โดยกระจายน้ำหนักไปลงที่ส่วนอื่นที่ไม่เป็นแผล  

สำหรับผู้ป่วยที่มารักษาในวันนี้เป็นแผลเรื้อรังที่เท้าข้างซ้าย  เคยรักษาให้ดีขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง  แต่หลังจากกลับไปแผลก็เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งครั้งนี้เราจะรักษาด้วยวิธีการ off loading  โดยทำเป็น Total Contact casting


 เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น   จะขอบรรยายไปพร้อมกับรูปนะครับ


Total Contact casting
 
ขั้นตอนการทำ
 
      
 ใส่ถุงเท้า   บุฟองน้ำบริเวณฝ่าเท้า ขา  เพื่อบุเฝือกและสอดสายยางเข้าไปใต้ถุงเท้า เพื่อสะดวกในการตัด

เตรียมเฝือก  โดยการใส่น้ำหมาดๆ และลูบให้ทั่ว
 
วางเฝือกที่เตรียมไว้  ทับตามแนวดังรูป
 
 พัน elastic bandage ทับ เฝือก
 

ยืนลงน้ำหนัก เพื่อให้เฝือกเข้ารูป
 
หลังจากเฝือกแข็งดีแล้ว  ถอดเฝือกออก และ ใช้เลื่อยตัดเฝือกบริเวณที่ตรงกับแผลออก
 
จะเห็นเป็นดังรูป
 
 อาจารย์กำลังพันเฝือกสำเร็จรูปทับอีกครั้ง
 
หลังจากพันเฝือกเสร็จแล้ว  ใช้กรรไกรตัดเฝือกตามแนวของสายยางที่ใส่ไว้ตั้งแต่แรก
 


หลังจากตัดเฝือกและ ถอดออกจากขาผู้ป่วยแล้ว   นำมาติดเทปผ้าพันรอบรอยตัดเพื่อป้องกันไม่ให้ขอบเฝือกไปขีดข่วนผิวหนัง
 
ตอกหมุด  เพื่อทำสายรัดเวลาใส่
 


สวมถุงเท้าเข้าไปก่อนใส่เฝือก
 
 เสร็จแล้ว
 
แสดงด้านฝ่าเท้า   บริเวณ ที่เว้นช่องไว้ คือจุดที่มีแผล 


  ลองทดลองเดิน บน Harris  mat เพื่อดูการกระจายตัวของแรงที่ฝ่าเท้า


การกระจายแรงที่ Harris  mat  ของเท้า ก่อนใส่ cast  และหลังใส่ จะเห็นว่าแรงกระทำที่บริเวณแผลลดลง

ผู้จัดทำ
1.นศพ.กวี  ลิ้มสมุทรเพชร
2.นศพ.ขัตติยา   มั่งคั่ง
3.นศพ.ญาดา  จูมงคล
ขอขอบคุณ
นพ.เชิดพงศ์    หังสสูต

หมายเลขบันทึก: 313885เขียนเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2009 13:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

ขอรบกวนด้วยน่ะค่ะ คือแม่ของดิฉันเป็นแผลเบาหวาน 2 ปีแล้วยังไม่หาย เมื่อก่อนเป็นขาซ้ายทั้งขา แต่ตอนนี้รักษาหายจนเหลือแค่บริเวณหลังเท้า แต่บริเวณนี้เป็นแผลอยู่ 1 ปีกว่าแล้ว ก็ยังไม่หายสักที มีวิธีช่วยให้แผลหายหรือไม่ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ

รบกวนคุณหมอหน่อยนะคะ กรุณาตอบคำถามดิฉันด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ คือว่าคุณแม่ของดิฉันเป็นแผลใต้ฝ่าเท้านานเกือบปีแล้วไม่หายสักทีนะคะ ตอนแรกใต้ฝ่าเท้ามีลักษณะแข็งและเจ็บ จนเดินไม่ได้ต้องเข้า รพ. และได้ทำการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อแข็งออก แม่ก็หายปวด แต่แผลหลังจากการผ่าตัดซิคะ แผลไม่หายสักที เป็นโพรงเล็กๆ และเนื้อๆ รอบแผลมีลักษณะเป็นเนื้อด้านเหมือนตาปลานะคะ หมอที่ รพ. ก็นัดตรวจทุกเดือนเพื่อดูแผล แผลก็ดูดีขึ้นนะคะ แต่ไม่ยอมปิดสักที บางทีหมอก็ทำแผลและตัดเนื้อขอบแผบออกให้ หมอบอกว่าถ้าแผลไม่ปิดสักทีอาจจะต้องคว้านแผลใหม่ คือแม่ไม่อยากคว้านแผลใหม่นะคะ ไม่อยากนอน รพ. นานๆ เพราะคราวที่ผ่าตัดก็นอนเป็นเดือนเหมือนกัน ทุกวันนี้แม่ก็มาล้างแผล ทำแผลเองที่บ้าน และจะไปตามหมอนัดรับยาและดูแผล รบกวนช่วยบอกวิธีที่ทำให้แผลปิดสนิท หรือว่าต้องทานอะไรช่วยในการรักษาแผลให้หายไวๆ ได้ไหมคะ คุณแม่ไม่ได้เป็นเบาหวานแล้วทำไมแผลจึงหายยากจังคะ แม่น้ำหนักเยอะมีส่วนไหมคะที่กดทับแผลใต้ฝ่าเท้าระหว่งเดินจึงทำให้แผลไม่หายสักที รบกวนคุณหมอตอบคำถามให้ด้วยนะคะ และมีข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์กับดิฉันก้บคุณแม่ก็รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ

จาก ณัฐธิดา

สุโขทัย

ขอเชิญ ไปตรวจรักษาที่รพ.ตากสิน วันพุธนี้ครับ

Call วิไลภรณ์ 081-835-4959

ศรัณยพัชร์ กัญญาพันธ์

ขอรบกวนคุณหมอหน่อยครับ ป้าของผมเป็นแผลที่ข้างเท้า เป็นมา 1 เดือนแล้ว ยังไม่หายซักที คือป้าของผมเคยผ่าตัดเส้นเลือดขอดที่ขา บริเวณข้างเท้ามีรอยช้ำ ป้าไม่ได้เป็นเบาหวาน กรุณาช่วยด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

ขอเชิญ ไปตรวจรักษาที่รพ.ตากสิน วันพุธนี้ครับ

Call วิไลภรณ์ 081-835-4959

ตอนนี้คุณพ่อมีปัญหาเส้นเลือดขอดที่น่องทั้งสองข้างค่อนข้างใหญ่ค่ะและมีโรงประจำตัวคือเบาหวานด้วยแต่ไม่รู้จะไปผ่าตัดที่ไหนเพราะกังวลเกี่ยวกับเบาหวานมักทำให้แผลหายยากมากเลยอยากได้คำแนะนำค่ะ อีกอย่างหนึ่งคุณพ่อทำประกันไว้กับ AIA ด้วยไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายบางส่วนอยู่ในประกันไหมถ้าอย่างไรใครมีความรู้เรื่องนี้รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะขอบคุณมาก

เส้นเลือดขอดที่เท้า อาจสัมพันธ์กับ การมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูง(Venous Hypertension)(เป็นคนละอย่างกับความดันโลหิตสูงซึ่งหมายถึงระบบเส้นเลือดแดงครับ)

การมีภาวะดังกล่าวอาจมีผลให้การไหลเวียนในหลอดเลือดดำช้าลงส่งผลให้มีขาบวมน้ำ(กดบุ๋มเป็นรอยนิ้วที่กด)เม็ดเลือดแดงหลุดเล็ดลอดออกนอกเส้นเลือดส่งผลให้ปรากฏเป็นจุดหรือปื้นสีดำที่ผิวหนัง บางครั้งแตกออกเป็นแผลครับ

ข้อบ่งชี้ของการผ่าตัดเส้นเลือดขอด อาจเป็นเพียงแค่เพื่อแก้ไขให้ดูสวยงามเท่านั้น จนถึง เพื่อรักษาอาการปวดครับ

การรักษาโดยผ้ายืด Support เป็นการรักษาที่มีผลข้างเคียงน้อย แต่ ถ้าจะเบิกตามสิทธิ์ จะต้องมีข้อบ่งชี้ที่ การมีตัวโรคเส้นเลือดขอดเป็นมากจนเกิดเป็นแผลเรื้อรังครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้ วิธีการในการดูแลแผล และ off loading ค่ะ คุณหมอ

จะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับผู้ป่วยที่มีแผลที่เท้า ค่ะ

ผมมีเรื่องมาถามหน่อยครับต่อนนี้ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เรื่องมันมีว่าผมเป็นโรคเส้นเลือดขอดตั้งแต่เด็กเลยที่ขาซ้ายและถ้าเป็นแผลอะไรนิดหน่อยมันจะเป็นนานถึงกับนานมากอย่างน้อยที่ผมจำได้คือ 5-6เดือน แล้วหายแต่ถ้าหายแล้วมันจะเป็นแผลเป็นตลอดเลยแล้วต่อนนี้ผมยังมีแผลที่เป็นต่อนอายุ12แล้วผมไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งแล้วจนผมอายุ20กว่าแล้วผมยังไม่หายเลยผมหมดกับแผลนี้และเจ็บป่วดกับแผลนี้มากเลยไปโรงบาลจุฬาแล้วก้ไม่หายหรือถ้าหายแล้วมันมีแผลเป็นแล้วถ้าเดินมากจะมีน้ำสีเหลืองๆอยู่ในแผลเป็นนั้นจนต้องเป็นแผลอิกแล้วต่อนนี้แผลผมใหญ่ประมารเออลืมบอกไปว่าแผลผมเป็นที่ข้อท้าวซ้ายตรงบนตาปลานิดหนึ่ง ความกว้าง 1 '' กวาๆ ยาม 2'' และมีดำๆข้างๆแผลและขาผมปวมข้างซ้ายแต่เด็กและรวมๆผมเป็นแผลนี้มากวา 10 กวาปีแล้วไม่หาย ไม่รู้จะทำยังไงใครที่มีความรู้ด้านนี้ขอร้องช้วยผมหน่อยครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วผมล้างแผลทุกวันเลยทำงานอะไรไม่ได้เลย จึงกราบเรียนคนที่มีความรู้ด้านนี้ช้วยผม ติดต่อผมผ่านเมล์นี้น่ะ [email protected]

เชิญพบผมได้ที่ ศูนย์สุขภาพเท้ารพ.ตากสิน ทุกวันพุธ โดยโทรศัพท์นัดกับคุณพลัคกรณ์ ที่ หมายเลข 086-332-7117 ครับ

บิดาหนูเป็นเบkหวาน ตอนนี้มีแผลที่เท้า กว้าง 4 นิ้ว โยประมาณ และยาว ประมาร15 นิ้ว

มีอาการ ปวม แดง ร้อน มีหนองไหลตลอดเวลา  หนองมีลักษณะ ขาว ข้น เหมือนน้ำซาวข้าว กลิ่นเหม็นเน่า เป็นกลิ่นเฉพาะ แต่บาดแผลแดงดี ปัจจุบันนี้ทำความสะอาด วันละ 2 ครั้ง ด้วย NSS อ้อมีรูด้วยนะคะ ตรงรูนั้น จะมีหนองออกด้วย และตรงข้อเท้าเวลากดจะมีเสียงกรอบแกรบและมีหนองออก จะมีกลิ่นเหม็นมาก หนูอาจดูแลพ่อยังไมาดีเท่าทีควร ขอความกรุณาคุณหมอช่วยบอกวิธีที่ดีกว่าที่หนูดูแลอยู่ด้วยนะคะ  ขอขอบพระคุณหล่วงหน้าค่ะ

โทรศัพท์นัดกับคุณพลัคกรณ์ ที่ หมายเลข 086-332-7117 ครับ

ผม ออก ตรวจที่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า วันอังคารบ่ายครับ

ช่วยถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยครับ

มีปัญหารบกวรคุณหมอด้วยค่ะ...คุณแม่ของดิฉันมีโรคประจำตัวคือเบาหวานตอนนี้มีอาการบวมแดงที่นิ้วเท้า..นิ้วชี้ขวาค่ะ...หลังจากนั้นเล็บก็หลุด..พยายามล้างแผลแต่อาการบวมและมีหนองก็ไม่หาย...เป็นอยุ่ประมาณสองถึงสามสัปดาห์..มีเล็บอ่อนๆๆงอกใหม่แต่อาการบวมแดงและมีหนองก็ไม่หาย..จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐคุณหมอที่นั้นก็ได้ถอดเล็บออกและล้างแผลให้.....คุณหมอแจ้งว่าแผลค่อนข้างลึก...และให้ล้างแผลที่สถานพยาบาลใกล้บาลพร้อมทั้งให้ยาแก้อักเสบมาทาน..ตอนนี้ล้างแผลทุกวันมาจะครบสัปดาห์..คุณหมอที่คลินิคที่ไปล้างแผลก็เห็นว่าอาการบวมลดบ้างแต่หนองไม่หาย..ไม่แน่ใจว่าจะลึกถึงกระดูกหรือไม่....เบาหวานตอนนี้ก็คุมอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูง...อยากรบกวนขอคำแนะนำจากคุณหมอหน่อยค่ะ...ว่าควรทำอย่างไรต่อเพราะโรงพยาบาลที่ไปถอดเล็บก็ไม่ได้นัดต่อ...หรือว่าจะล้างแผลแบบเดิมไปเรื่อยๆ...แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าแผลที่เป็นอยู่ลึกถึงขั้นไหน....การดูแลค่อนข้างลำบากเพราะคุณแม่เป็นอัมพฤกษ์ด้วย..รบกวนคุณหมอแนะนำด้วยนะค่ะ....

อยากสอบถามคุณหมอ..คนไข้ป่วยเป็นเบาหวาน...มีแผลที่นิ้วเท้ารักษาที่โรงบาลรัฐด้วยสิตรบัตาทอง....เอกซเรย์ตอนแรกคุณหมอบอกว่ากระดูกติดเชื้อให้กินยาฆ่าเชื้อ...แล้วตอนนี้คุณหมอบอกว่าเนื้อที่นิ้วตาย..ปล่อยไปนิ้วจะขาดเอง...แต่คุณหมอยังไม่พิจรนาตัดเพราะบอกว่าตัดไปมันก็จะล่ามอีกแล้วต้องตัดอีก...ให้กินยาฆ่าเชื้อแล้วรอดูจนมันหยุดลุกลามแล้วค่อยพิจรนาการตัด....คนไข้ยังพอมีทางเลือกทางอื่นไหม......หรือว่าต้องรอจนมันหยุดลาม.....เพราะคิดว่าจากนิ้ว...ถ้ารอจนหยุดลามก้คงต้องตัดขาแน่.....ถ้ามีทางเลือกอืนค่าใช้จ่ายสูงมากไปไหมค่ะ....รบกวนสอบถามคุณหมอด้วยค่ะ...

จากที่เล่ามา เหมือนกับว่า การติดเชื้้อนี้ ยังไม่สามารถควบคุมได้ ปัจจัยที่สำคัญในการควบคุมเชื้อ ได้แก่ การได้รับยาปฎิชีวนะที่ตรงกับ

การตอบสนองของเชื้อ ระดับความเข้มข้นของยา ณ.จุดติดเชื้อ (ซึ่งพบว่าอาจน้อยลงจากการมีภาวะบกพร่องของการไหลเวียนเลือด)

การมีระดับความเข้มข้นของ Oxygen ในเนื้อเยื่อ ภาวะภูมิคุ้มกันของคนไข้ ภาวะทุโภชนาการของคนไข้เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ควรได้รับการพิจารณา ถ้าพบว่ามีควรได้รับการแก้ไขครับ

คุณ K สามารถ ถ่าย รูปแผลมาให้ผมดูได้ที่ [email protected] หรือ [email protected] ได้ครับ

ขอบพระคุณ..คุณหมอมากค่ะที่เมตตาห่วงใย.ยังไงเดี๋ยวจะถ่ายรูปส่งให้คุณหมอช่วยพิจรนาค่ะ...คงต้องรอไปถ่ายที่คลินิคล้างแผล..ตอนล้างแผลค่ะ....แต่เท่าที่ทราบจากคลินิคที่ล้างแผลตอนนี้นิ้วช่วงจากข้อแรกลงอีกมาเล็กน้อยเนื้อคงได้ตายไปหมดแล้วค่ะ...ดำสนิทเลยทีเดียว...ตอนนี้ก็ยังไปล้างแผลทุกวันอยู่ค่ะ...รวมจากที่เริ่มเป้นมาถึงตอนนี้ก็2-3เดือนแล้ว...ทานยาแก้อักเสบที่คุณหมอที่โรงพยาบาลให้มาก้เป็นเดือนแล้วค่ะ...แต่คุณหมอแจ้งว่าถ้าติดเชื้อถึงกระดูกอย่างต่ำต้องทานถึง3เดือน...แล้วก้ยังไม่รุ้ว่าจะต้องตัดแค่ไหนอย่างไรเพราะยังกระดูกข้อแรกก็โดนกินไปส่วนหนึ่งแล้ว...วันที28กค..คุณหมอกระดูกนัดอีกทีเพื่อดูอาการว่าเป็นไปในทางไหนค่ะ.....ยังไงถ้าได้ถ่ายรูปแล้วจะส่งให้คุณหมอพิจรนาค่ะ...ขอบพระคุณ..คุณหมอล่วงหน้าในความเมตตาห่วงใยคนไข้แม้จะไม่ใช่คนไข้โดยตรงของคุณหมอ....ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

เรียนสอบถามคุณหมอค่ะ คนไข้เป็นแผลที่ใต้ฝ่าเท้ามานานกว่า 4 ปี จากตอนแรกที่เป็นเหมือนสะเก็ดแข็งๆ ที่เท้า แล้วก็แตกออก จนเป็นแผลใหญ่ ทำการล้างแผล ใส่ยามานาน ล่าสุดไปรพ.รัฐแห่งหนึ่ง ได้ทำการรักษาโดยทายาที่ฝ่าเท้า ช่วงแรกที่ทายา เหมือนแผลจะค่อยๆ เล็กลง แต่ก็มีน้ำเหลืองไหลออกจากแผลอย่างต่อเนื่อง คุณหมอที่ทำการรักษาไม่ได้ให้ทานยาแต่อย่างใด แต่เคยลองปรึกษาเภสัชข้างบ้าน ได้ให้ทานยาแก้อักเสบ...น้ำเหลืองก็หยุดไหล แต่เมื่อยาหมดซักพัก ก็กลับมาไหลใหม่ ทำให้แผลไม่แห้ง และยาที่ทาไป ก็ไม่ได้ผลอย่างใด คุณหมอที่ทำการรักษาคิดว่า ต้องใช้วิธีการปะผิวหนังจากที่หนึ่งมาปิดแผลถึงจะทำให้หายได้

แต่เนื่องจากคนไข้เคยถูกไฟลวกมาเกือบทั้งตัวตอนเป็นเด็กๆ ที่เป็นหนักคือบริเวณขาทั้งสองข้าง และได้เคยถูกปะหนังบริเวณขามาหลายแห่งแล้วโดยใช้ผิวหนังส่วนที่ไม่ถูกไฟลวกมาปะ ซึ่งบางจุดที่ปะไป ก็ติดแต่บางจุดก็เกิดอาการอักเสบขึ้นมาตรงแถวรอยต่อระหว่างผิวหนังใหม่และของเดิม และคิดว่า ถ้าคุณหมอให้ปะหนังอีก จะเอาแผ่นผิวหนังส่วนใดของคนไข้มาทำการปะ และเป็นไปได้ไหมคะ ว่าจะทำการรักษาวิธีอื่นๆ ที่สามารถทำได้เพราะคิดว่าการปะหนังคงเป็นวิธีสุดท้ายที่อยากจะทำค่ะ ...ปัจจุบันคนไข้อายุประมาณ 39 ปีค่ะ ไม่ได้ป่วยเป็นเบาหวานแต่อย่างใดค่ะ

เรียนรบกวนคุณหมอด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

ในกรณีที่ ประสบปัญหาแผลไม่หายตามที่คาดไว้ ควรต้องค้นหาอย่างจริงจัง ว่าสาเหตุใด ชะลอยับยั้งการซ่อมแซมแผลงของผิวหนัง

Pitfall สำคัญ คือไม่ให้ควาสำคัญอย่างเพียงพอเรือง ชีวกลศาสตร์มากพอ ในกรณีนี้ แนะนำให้ตรวจ harris mat ซึ่งปัจจุบัน บ.scholl ได้มีไว้ให้บริการ

หลายแห่งแล้ว ขอเชิญที่ จุดขายรองเท้า scholl ตามห้างได้ครับ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจให้หน่อย ไม่น่าต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆนะครับ

ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ ที่ได้ให้ความเมตตาตอบคำถาม...เนื่องจากคนไข้หาหมอและได้มีการตัดรองเท้าชนิดพิเศษแล้ว และใช้ไม้เท้าช่วยค้ำยันตอนเดินไปไหนมาไหน...เข้าใจว่าคนไข้อาจเดินบ่อย หรือตัวยาไม่สามารถเข้าไปรักษาแผลได้ดีพอ(กรณีคนไข้ทายาแล้วมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออก) เลยอาจจะทำให้แผลไม่หายก็เป็นได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะถ่ายรูปให้คุณหมอช่วยพิจารณาอีกครั้งคะ

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

รบกวนคุณหมอค่ะ คือว่า ลุงของดิฉันเดินไปเหยียบ โดนท่อแป๊บน้ำน้ำพลาสติกสีฟ้า ที่หักอยู่กลางสนามหญ้า ทิ่มเข้าที่บริเวณส้นเท้า เกิดเป็นแผล ประมาณเดือน มีนาคม ก็ได้ไปทำการรักษาตามโรงพยาบาล 2 -3 แห่ง แล้วตอนนี้ เนื้อที่บริเวณส้นเท้าได้ปูดยื่นออกมาจากส้นเท้าประมาณ2 cm และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-7 cm บริเวณเนื้อนั้นเป็นฝ้าสีขาว ๆๆ และแฉะ ๆๆ ค่ะ ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ทำแผล ล้างแผล พยาบาลก็ขูดเนื้อออกไปทุกครั้ง จนสุดท้ายหมอบอกว่ารักษาไม่ได้ค่ะ ให้กลับไปทำใจกับแผลเรื้อรังนี้ ที่บ้านก็เลยลองหาดูตามที่ต่าง ๆ ที่ไหนว่าดีก็ไป หาหมอพระ รักษาด้วยวิธีแผนโบราณ พอกยาสมุนไพร ก็ทำค่ะ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล จึงอยากเรียนปรึกษาคุณหมอค่ะ ว่าจะไปรักษากับคุณหมอได้ที่ไหนบ้างคะ เวลาไหนบ้างค่ะ และจะรบกวนคุณหมอว่าเด๋วดิฉันจะส่งรูปแผลของคุณลุงไปให้คุณหมอดูที่ [email protected] ด้วยนะคะ

รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ

กราบขอบพระคุณคุณหมออย่างสูงค่ะ

เบญจรงค์

ในฐานะนักกายอุปกรณ์ หากต้องการ off loading แผลฝ่าเท้า กี้แนะนำเป็นแผ่นรองฝ่าเท้าแบบหล่อจำเพาะบุคคล เรียกว่า custom made insole เป็น foot orthoses ชนิดนึง ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก และที่ รพ รามาก็มีแผนก กายอุปกรณ์นะคพ อุปกรณ์ที่ทำข้างบนถ้าทำแบบนั้น อุปกรณ์ที่ได้มันลวกๆไป เรื่องคุณภาพในการรองรับฝ่าเท้าและกระจายแรงออกจากจุดบาดเจ็บจะด้อยกว่า insoleจำเพาะ แม้ลองทดสอบผลโดยใช้ harris matแต่ตอนเหยียบ harris mat มันไม่ได้แสดงpressureที่ฝ่าเท้าโดยตรง มันทำได้แค่แสดงpressureบนเฝือก ถ้าอยากทราบ pressure ที่เกิดกับเท้าคนไข้จริงต้องวัดระหว่างฝ่าเท้ากับเฝือก ก็จะเป็นเครื่องมือพวก fsa แต่ถ้าไม่มีเครื่องมือวัดแบบนี้ หรือใช้การติดตามผลอย่างต่อเนื่องแทนเพราะถ้าอุปกรณ์ off load ได้ไม่ดีมักจะเกิดปัญญาไปเพิ่มpressure จุดอื่นเกิน จนจุดอื่นมีแผล

ถ้าจุดเจ็บsevere มาก ก็แนะนำ ptb afo ที่ รพ รามา มีนักกายอุปกรณ์อยู่ สอบถามน้องเค้าได้คะ

รบกวนหน่อยค้ะ คือหนูเป็นแผลใต้เท้าทั้งสองข้างมานานกว่า10ปีแล้วค้ะ ไม่ได้เป็นเบาหวานค้ะเคยไปหาหมอหลายที่แต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นทั้งคันทั้งเจ็บ ช่วยตอบหนูหน่อยน้ะค้ะ ทุกวันนี้ไม่อยากจะเดินแล้วค้ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท