ภาษาวิบัติ มันเกิดขื้นแล้วในสังคมไทย
บางคนเรียกว่า ภาษาท้ายรถสิบล้อ บางคนว่าไม่ใช่
ภาษาวัยรุ่นตะหาก แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร ความจริงก็คือ
ความเปลี่ยนแปลง.... คงไม่ถูกต้อง ถ้าจะเรียกว่า เป็นพัฒนาการ
ทางภาษา เรียกเสียใหม่ว่า เป็นปรากฏการณ์เสื่อมโทรมทางภาษา
ดูจะสื่อความหมายได้ตรงและกระชับกว่า
ครับ ...ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าในเรื่องใดๆ
ย่อมมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ แต่จำนวนคนชอบบางครั้ง
ก็มีมากพอสมควร ไม่เช่นนั้น ผู้ผลิตสินค้า
คงไม่กล้านำถ้อยคำแปลกๆ มาติดไว้บนตัวสินค้า
ลองดูตัวอย่างข้างล่าง เห็นนำมาเขียนไว้บนกระเป๋าถือ
และกระเป๋าสตางค์แบบแฮนด์เมด พบได้ตามแหล่ง
จำหน่ายสินค้าราคาถูกและตามตลาดนัด
นับเป็นดุลพินิจและความพึงพอใจของผู้ผลิตแต่ละคน คงไม่ถึง
ต้องห้ามลอกเลียนแบบ ถ้าสังคมส่วนหนึ่งไม่ยอมรับ หรือเห็น
ว่าการใช้ภาษาสะใจ ไม่เหมาะสม เมื่อสินค้าของเขาขายไม่ได้
...ก็หยุดทำไปเอง
คิดอย่างไร เห็นอย่างไร เยส หรือ โน ...โหวตเอาเองในใจตาม
ชอบเลยครับ ...
เป็นความคิดสร้างสรรค์ประเภทหนึ่งที่เกิดจากความคิด
การสร้างคำ วลี ประโยคแปลกๆ เป็นการสะท้อนความคิด
มองแบบขำขำ
ผู้เชี่ยวชาญประเภทนี้ น่าจะทำงานในบริษัทโฆษณา
ความเห็นของคุณปันชะตา คลอบคุมและสรุปในเรื่องราวและเนื้อหาอยู่แล้ว แถมด้วยภาพประกอบที่ทำให้เกิดอารมร่วมคิดตามอย่างชัดเจน นอกจากคิดตามแล้วผมเป็นอีกคนหนึ่งที่คิดต่อ ซึ่งได้อารมร่วมทั้งสองทางคือ อารมขำกับถ้อยคำที่ได้อ่านและสรรหาถ้อยคำอื่นๆต่อ กับอีกอารมของนักอนุรักษณ์นิยมที่อยากรักษาขนบวัฒนะธรรมถ้อยคำที่งดงาม หรือถ้าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆก็ให้เป็นไปในแนวทางสร้างสรรค์
สรุปก็คือ ผมยอมรับได้ทั้งสองทางนั่นและครับคุณปันชะตา
ผมคิดว่าไม่วิบัตินะครับ ก็คำปกติ เพียงแต่ไม่งดงาม (และขายได้)
....
หรือผมคิดน้อยไป
ถ้าเด็กๆเรียนรู้คำพวกนี้
เขาจะไม่รู้เลยว่า ดี หรือ ไม่
เพราะเห็นอยู่เกลื่อนเมือง
อ่านไป ก็ขำไป ช่างนำมาเขียนได้เยี่ยมเลยค่ะ
ชอบมากค่ะ ที่ไม่ได้เป็นวัตถุโบราณ
..ภาษา..วิวัฒนาการ..ไปกับสมัยและ...คน...อิอิ..ยายธี