เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น สิ่งที่เราเห็นคือการบริจาค น้ำใจของผู้คนที่เข้าสู่พื้นที่ ความจริงมันก็เป็นภาพที่สวยงาม แต่ใครจะรู้ว่า ขบวนรถมากมายที่วิ่งเข้าวิ่งออกนั้น ทำให้บ้านเรือนที่พังพินาศ และ โคลนที่ถล่มจมบ้านของชาวบ้านยังคงเหมือนเดิม
นึกถึงภาพคนแก่ที่อาศัยอยู่ลำพังในชนบท ต้องนอนอยู่ที่วัดเพราะไม่สามารถแหวกซากต้นไม้ ขี้โคลนที่อยู่เต็มบ้าน ตู้เตียงที่นอนคว่ำ ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ จอบ เสียม ที่จะไปขุดลากเอาเศษซากเหล่านั้นออกจากบ้าน
ภาพของคนหนุ่มสาวที่เป็นตัวแทนอาสาสมัครเข้าไปยืนหัวแถว โดยมีชาวบ้านเดินเข้าแถวรับถุงบริจาคคนละถุงสองถุง แถมคนท้าย ๆ อาจไม่ได้เพราะของมีไม่พอ แล้วก็เอาของที่ได้มาซ้ำ ๆ พวกนั้นไปไว้ตามมุมวัด(ที่นอนชั่วคราว) ผู้บริจาคมีสภาพเป็นผู้ให้ คนรับบริจาคเป็นผู้รับที่อ่อนแอ แล้วชาวบ้านก็ต้องกลับมานั่งคิดอยู่อย่างโดดเดี่ยวว่าจะทำยังไงกับบ้านที่ถูกน้ำกวาดไปตั้งแต่หลังคาบ้าน จนพื้นบ้าน (ไม่เหลืออะไรเลย) หรือบางคนเสาหัก บ้านเอียงเกือบจะเป็นหอคอยเมืองปิซ่า
ไร่น่า สวนผลไม้ที่ปลูกไว้ กะว่า อีก 3-4 ปีจะเก็บเกี่ยวเอาประโยชน์ ตอนนี้มีแต่โคลน และ หนี้สินที่ท่วมตัว
เพื่อน ๆ ครับ....
อย่ามัวแต่นั่งดูทีวีโศกเศร้ากับความสูญเสียของคนอื่นอยู่เลย
หยุดคิดเรื่องจะส่งปลากระป๋อง กับ จัดหาถุงยังชีพ
แล้วลองเปิดปฏิทินของตนเองว่า พอจะมีเวลาสัก 2-3 วันมั๊ย
เข้าไปที่ห้องเก็บของดูสิว่า มีจอบ พลั่ว เลื่อยไม้ เชือก โซ่
ถุงมือ รองเท้าบูท มั๊ย
ยกหูโทรศัพท์ เดินไปบอกเจ้านายว่า ฉันจะไปเป็น "อาสาสมัครลงแรง"
เพราะคิดแล้วว่า
ตัวเรามีความสามารถช่วยเหลือคนได้มากกว่าปลากระป๋อง
ไปลงทะเบียนสมัครเป็นอาสาสมัครกับหน่วยงานต่าง ๆ หรือเข้าไปสมัครที่ http://www.siamvolunteer.com หรือโทรไปที่มูลนิธิกระจกเงา 02-642-7991 โทรหาคนชื่อจรัญ 01-0183004 , นัน 01-4282303 เก่ง 06-0510852
บอกเขาว่า คุณพร้อมที่จะใส่ภาระกิจ "อาสาสมัครลงแรง" ในปฏิทินชีวิตของคุณแล้ว
ไม่มีความเห็น