สวัสดีครับท่านศุภรักษ์เภสัชพันธ์หายาก ยาวมากแต่อ่านอิ่ม ได้ความรู้เรื่งยาเรื่องเภสัช และเรื่งไม่เข้าท่า ของผู้ใหญ่ ที่ชอบทำอะไรแบบยกเข่ง เชียร์ ชื่นชม และชื่นชอบ เข้ามาอ่านแล้วได้อาหารสมิงกลับไป .....และเรียนรู้ เรียนคิดไปด้วยครับ
ขอบคุณท่าน
ที่มาอ่าน และให้กำลังใจครับ
ปล.ขอให้เกาต์ไม่มาเบียดเบียน โอม.*//*-*-
เข้ามาอ่านบันทึกแล้วได้ความรู้ดีค่ะ การเฝ้าติดตามแก้ปัญหา ความไม่ร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วย ดิฉันก็เป็นผู้ป่วยคนหนึ่งที่ไม่ร่วมมือในการใช้ยา กรณีที่ไปพบหมอ หมอจ่ายยาคลายเครียดมา เภสัชกรซักประวัติอาการอีกครั้งอย่างสงสัยทำไมจ่ายยานี้ ดิฉันจับสังเกตจากท่าทีเภสัชกร ดิฉันหรือจะกินยานี้ นี่คือความสงสัยของผู้ป่วย ไม่มั่นใจในการจ่ายยาของแพทย์เราไม่ทักท้วง......แต่เราไม่กิน....ก็หายดีทุกอย่าง....ถ้ายาที่จ่ายมาไม่ใช่ส่วนเกิน...ผู้ป่วยจะไม่หาย..จริงไหม..สงสัย
ยาหลายชนิด อาจไม่จำเป็นต้องกิน
เช่น ยาคลายเครียด ยานอนหลับ หรือวิตามินต่างๆ
ในทางตรงกันข้าม ยาโรคหัวใจ ยาเบาหวาน อาจจำเป็น ต้องกิน เพื่อ
ช่วยให้อาการดี ขึ้น ยาหลายชนิด หากใช้ถูกวิธี ทำให้ อายุขัยผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
เช่น ยาลดไขมัน กลุ่ม statins ยาแอสไพริน ยาต้านเบต้าในโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น
เห็นด้วยอย่างมากแต่เราควรรวมกลุ่มสะท้อนปัญหานี้ให้เพื่อนร.พ.ชุมชนรับทราบผมจะลองคุยกับเพื่อนในจังหวัดประจวบและเพื่อนที่เป็นอาจารย์เพื่อรวมกลุ่มหาความคิดเห็นตอบกลับmailด้วย
ขอบคุณ ภก.บุญเลิศ ที่ มาเยี่ยมชม และให้ความเห็นครับ
ปีใหม่นี้จงสุขีมีสุขสันต์ ตั้งแต่จันทร์อังคารพุธสุขเหลือหลาย พฤหัสศุกร์เสาร์ไม่เศร้าใจ แสนสบายวันอาทิตย์จิตพาเพลิน ปีใหม่นี้คิดสิ่งใดให้สมหวัง ร่ำรวยดั่งเราเรียกว่าเศรษฐี ขอโรคภัยอันตรายอย่าได้มี จงสุขีโชคดีทั้งปีเอย...
สวัสดีค่ะคุณเภสัชพันธุ์พิเศษ
ติดตามอ่านบันทึก การทำงานของคุณหมอนะคะ ชื่นชมและเป็นกำลังใจค่ะ
ไม่เห็นด้วยกับ ระบบยกเข่ง เช่นกันค่ะ แต่ละที่ล้วนมีบริบทเฉพาะแตกต่างไป
มากราบสวัสดีเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นะคะ ขอเป็นแรงใจไต่ฝัน เป็นจริงค่ะ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบันดาลให้คุณหมอและครอบครัวประสบความสุข
สุขภาพแข็งแรง มีแรงกายแรงใจ คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนาตลอดปีนี้ และตลอดไปค่ะ
ค่ะ มาอ่านบทความบาดลึก ของพี่ แหม เขียนได้บาดลึกดีค่ะ มีมุมมองที่สะท้อนภาพใหญ่ได้ดีมาก ก้อคงมีมุมที่จริง ที่ไม่น่าจะมีนโยบายทำงานแบบ ยกเข่ง แต่ในการทำงาน เราคงสามารถนำมันมาปรับใช้กับบริบท ของรพ.ชุมชนเล็กๆ ได้ ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเอาแนวคิด การทำ DUE มาปรับใช้ ได้ แม้ว่าเราจะมีแต่ ยาพื้นๆ ราคาอาจไม่แพง แต่การสะท้อนให้เห็นการใช้ยา ที่ไม่จำเป็น ในรพ.ขนาดเล็ก อาจทำให้นำข้อมูลกลับมาใช้ ในการกำหนดเป็นนโยบายการสั่งใช้ที่ถูกต้องเหมาะสมได้ ตามบริบท ที่ควรเป็น แม้แต่ การสั่งยาแก้ปวด เป็นประจำ หรือยาคลายเครียด เป็นจำนวนมาก ก็สามารถทึ่จะติดตามและบอกแก่ทีมรักษาได้ คงต้องช่วยกันไปตามกำลัง
จึงคิดว่า น่าจะทำให้เข้ากับบริบทที่ตัวเองเป็น และปรับใช้กับวิถีชุมชนด้วยค่ะ